Skip to content

สู่วิถีอสุรา 384

ตอนที่ 384 พี่ชายพรหมจรรย์

มันเป็นเสียงที่ประหลาดยิ่งนัก ในความทรงจำของซูหมิง เขาเหมือนไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้มาก่อน ปานสะอื้นและมิใช่ ปานคร่ำครวญและไม่ใช่ พอได้ยินจะเหมือนมีคนเป่าลมเบาๆ ข้างหู เข้าไปกลางใจกลายเป็นความมันนุ่ม ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น กระทั่งเลือดลมทั้งตัวยังโคจรเร็วขึ้นไม่น้อย

“นี่มันวิชาอะไร!” ซูหมิงขมวดคิ้ว เสียงนั้นช่างกระสับกระส่าย กระทั่งในความคิดยังสับสน นัยน์ตาซูหมิงวูบไหว แค่นเสียงหึ จากนั้นกระดูกหมานสี่ชิ้นในร่างกายปล่อยพลังแกร่งกล้า ขับไล่ทั้งตัวซูหมิง ไหลมาตามลำคอกลายเป็นเสียงแฝงไว้ด้วยความเงียบเชียบ แล้วเปล่งออกจากถ้ำผ่านรูเล็กๆ ด้านบนปานกระแสลม

เสียงนี้เหมือนกับสายฟ้า นี่คือพลังสายฟ้าเป็นสมบัติประจำตัวของซูหมิง อีกทั้งหลังจากศึกษาต้นกำเนิดอัสนีหลายครั้งในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาจึงตระหนักรู้เสียงปานสายฟ้านี้

แทบเป็นทันทีที่เสียงดังออกไปจากถ้ำ ซูหมิงยืนขึ้นแล้ว เขาเดินเอามือไพล่หลังออกไปทีละก้าว แล้วมาปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้า สวมหน้ากากสีดำ ดวงตาหยั่งลึก ฉายแววไม่อาจคาดเดา จ้องหมอกหลากสีที่อยู่ไม่ไกล

โดยรอบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม กลิ่นนี้เมื่อดมแล้วจะทำให้รู้สึกสบายยิ่งนัก ทว่าหากดมนานๆ จะมีความรู้สึกเหมือนอยากจะสำรอกอวัยวะภายในออกมา

“เจ้าเป็นใคร” ซูหมิงหรี่ม่านตาลง กล่าวเรียบๆ

ท้องฟ้านอกเทือกเขา หมอกหลากสีไหลเชี่ยวกราก

เสียงครวญครางของจีฮูหยินสวมงอบถูกเสียงหึปานสายฟ้าขัดเอาไว้จนหยุดนิ่ง ดวงตาใต้งอบขยับประกาย

“พ่อหนุ่มช่างไม่เข้าใจอะไรเอาเสียเลย เดิมทีข้าจะให้เจ้ามีความสุขจนตาย ทว่าในเมื่อไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นก็หมดสติตายไปซะ”

จีฮูหยินหัวเราะเบาๆ หลังจากเห็นซูหมิงปรากฏตัวแล้ว ความกังวลในใจก็หายไป ในความคิดนาง ขอแค่ไม่เจอเชมันระดับปลาย นางก็จะอยู่เหนือกว่า

นี่คือเหตุผลที่ว่าเหตุใดนางอ่านความคิดขัดแย้งของจ้าวเผ่ากระเรียนดำออก ทว่ายังคงมาที่นี่ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ระหว่างทาง นางถึงทำให้ชายร่างกำยำเผ่ากระเรียนดำเป็นเช่นนั้น

เสียงจีฮูหยินนุ่มนวล ไม่แหลมแม้แต่น้อย ปานแฝงไว้ด้วยเสน่ห์เหลือร้น ตอนที่กล่าวออกไป นางยกมืองามขึ้น ความงามของแสงตะวันส่องนิ้วนาง ราวกับว่าสตรีทุกคนในเวลานี้ต้องมืดสลัว

นิ้วนางเรียวยาว ยามนี้ชูขึ้น มีเสียงหัวเราะปานกระดิ่งเงินดังแว่วออกมา ก่อนกดอากาศไปทางซูหมิงเบาๆ

ทันใดนั้น ตรงปลายนิ้วมีระลอกคลื่นหนึ่งชั้น ประหนึ่งว่าฟ้าดินยามนี้กลายเป็นผิวน้ำ เมื่อนิ้วกระทบ จึงเกิดเป็นน้ำกระเพื่อม ขณะเดียวกัน กลิ่นหอมโดยรอบพลันเข้มข้นขึ้น

นางมีความมั่นใจอย่างยิ่ง นิ้วนี้ดูธรรมดา ทว่ากลับเป็นอภินิหารรูปแบบหนึ่งที่นางฝึกฝนมานาน ผู้พบเจอหรือนักรบคนอื่นๆ มีไม่น้อยที่จิตใจสลายเพราะนิ้วนี้ กลายเป็นสัตว์ป่าผู้กระหายในกามรมณ์ เสียสติปัญญา เสียความสามารถในการต่อสู้ และจะถูกนางชักนำให้กระโจนเข้าใส่ตน หลังจากเล่นกับนางเสร็จก็จะหมดสติตายไป

นางชอบภาพแบบนี้ยิ่งนัก ยามนี้ใบหน้าใต้งอบเผยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มกลับแข็งค้างทันใด

“หืม?” จีฮูหยินตะลึงงัน นางชี้นิ้วลงแล้ว ทว่าซูหมิงตรงหน้ากลับไม่เป็นอะไรเลย ราวกับว่านางเสียขั้นพลังไป เป็นเพียงนิ้วธรรมดาเท่านั้น

ซูหมิงขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจสตรีผู้นี้เล็กน้อย เสียงครวญครางพิลึกก่อนหน้านี้ทำให้เขาตกใจ พอเห็นสตรีชี้นิ้วลง นัยน์ตาเขาพลันขยับประกาย ตรงระหว่างคิ้วมีแสงสีดำ รูปแบบรอบตัวก็แปรเปลี่ยนตามความคิด

ทว่าสิ่งที่ทำให้ซูหมิงขมวดคิ้วคือนิ้วของนาง แม้เกิดระลอกคลื่นมายา ทว่าเขากลับไม่รู้สึกถึงอันตรายเลย เพียงแค่ช่วงที่ชี้นิ้วลง ในความคิดมีภาพประหลาดเท่านั้น ทว่าภาพนั้นส่วนใหญ่เลือนราง มองเห็นไม่ชัด

‘ที่แท้ก็เป็นชายพรหมจรรย์ผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ มิน่าล่ะ’

ดวงตาใต้งอบจีฮูหยินวูบไหว นางเลียริมฝีปาก ส่งเสียงหัวเราะปานมีความสุข

“ประสาท!” ซูหมิงแค่นเสียงหึ สะบัดชายเสื้อ พลันมีแสงดำขยับวิบวับ กระบี่เล็กสีดำปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ส่งเสียงร้องกระบี่ ก่อนซูหมิงยกมือขวาชี้กระบี่

ต้นกำเนิดวายุในร่างกายพลันสร้างพายุหมุนในตัว สายลมพุ่งจากมือซูหมิงตรงเข้าใส่กระบี่เล็กแสงดำ กระบี่เล็กสั่นสะท้านทันใด รอบตัวมันปรากฏเงามายาครอบกระบี่เอาไว้

เงามายานี้เป็นกระบี่ใหญ่ยาวหนึ่งจั้งกว่า เมื่อปรากฏ พายุหมุนรอบตัวกระบี่ก็ส่งเสียงลากยาว นี่คือสิ่งที่ซูหมิงตระหนักรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดวายุในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เมื่อผสานรวมกับกระบี่ กระบี่เล็กจะทรงอานุภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกับที่ต้นกำเนิดวายุของซูหมิงกลายเป็นพายุหมุนในร่างกาย สายฟ้าไหลเวียนอยู่รอบตัวเขา ในร่างกายก็มีสายฟ้าเช่นกัน แสงสายฟ้าเปล่งมาจากนิ้วมือ พุ่งไปยังกระบี่ใหญ่หนึ่งจั้งกว่า ตัวกระบี่พลันมีเสียงสายฟ้าไหลเวียน และขนาดกระบี่พองบวมขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นกระบี่ใหญ่สามจั้ง ตรงเข้าใส่จีฮูหยินตามความคิดซูหมิง

สิ่งเหล่านี้เสร็จในชั่วพริบตาเดียว ขณะจีฮูหยินหัวเราะ กระบี่ใหญ่สามจั้งก็ฟันไปทางจีฮูหยินด้วยความเร็วน่าทึ่ง

กระบี่ฟันมวลอากาศ ระลอกคลื่นเฉียบคมกระจายเป็นวงกว้าง กระทั่งขณะที่กระบี่ฟันลงไป สายฟ้าบนตัวมันไหลเวียน เกิดเป็นเสียงสายฟ้าระเบิด

“พี่ชายพรหมจรรย์ กระบี่นี้ไม่เลวเลย” เสียงหัวเราะจีฮูหยินออดอ้อน นางถอยหลังหนึ่งก้าว ยกมือขวาวาดวงกลมตรงหน้าหนึ่งวง จากนั้นในวงกลมมีแสงสีดำวิบวับ ประดุจวงกลมสามารถเปิดมิติ กลิ่นอายพลังเย็นเยือกปล่อยมาจากในวงกลม ราวกับว่าโลกในวงกลมนั้นต่างจากโลกภายนอก

ขณะแสงวิบวับ มีมือหนึ่งยื่นมาจากในวงกลม มือนี้มีขนสีดำขึ้นเต็มไปหมด อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกแข็งแกร่ง ห้าเล็บนิ้วมือเฉียบคม ยามนี้ยืดมารับกระบี่ใหญ่ และปะทะกันในชั่วพริบตา

เสียงระเบิดดังสนั่น ทำให้มวลอากาศแตกกระจายเป็นวงกว้าง

กระบี่ของซูหมิงถูกฝ่ามือจากในวงกลมยึดค้างอยู่กลางอากาศ เหมือนกับว่าไม่อาจทะลวงผ่านฝ่ามือเข้าไปทำอันตรายจีฮูหยินด้านหลังวงกลม

“พี่ชายพรมหจรรย์ เหตุใดเจ้าถึงเหี้ยมโหดนัก หากน้องเล็กเป็นแผลขึ้นมา ตอนเรามีอะไรกัน ประเดี๋ยวจะไม่งดงาม” จีฮูหยินกล่าวด้วยเสียงเสน่ห์ แฝงไว้ด้วยความรู้สึกทำให้จิตใจร้อนรุ่ม ทว่าพอนางเห็นซูหมิงยังคงปกติตอนกระบี่ถูกรับเอาไว้ ในใจนางสั่นไหวและรู้สึกไม่ดี

ทันใดนั้น กระบี่ใหญ่ที่ถูกจับเอาไว้พลันระเบิดสายฟ้าจำนวนมาก ก่อนแผ่ขยายออกข้างนอก ทั้งยังมีลูกกลมสายฟ้าเจ็ดลูกปล่อยมาจากปลายกระบี่ และวางอยู่โดยรอบในชั่วพริบตา

“ระเบิด!” นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย

กล่าวจบ ฟ้าดินสั่นสะเทือน ลูกกลมสายฟ้าจากปลายกระบี่ระเบิดพร้อมกัน ก่อเป็นสายฟ้ามหาศาลสั่นสะเทือนโดยรอบ จีฮูหยินพลันร่นถอย ทว่าการระเบิดของลูกกลมสายฟ้า แรงกระแทกที่เกิดขึ้นกลับเจาะจงไปที่ตัวนาง อีกทั้งหลังจากลูกกลมสายฟ้าระเบิด มีสายฟ้าปรากฏขึ้นโดยรอบ อัดรวมกันหนาแน่น ทำให้ในระยะหนึ่งร้อยจั้งกลายเป็นเหมือนขุมนรกสายฟ้า แสงสายฟ้าสว่างจ้าละลานตา รวมกันแสดงอานุภาพของสายฟ้า

สีหน้าใต้งอบจีฮูหยินเปลี่ยน ขณะนางกำลังร่นถอย หมอกหลากสีพลันห่อหุ้มนางเอาไว้ จากนั้นก็ไม่พานางถอยหลังอีก แต่พาขึ้นด้านบน

ทว่าช่วงที่หมอกหลากสีขึ้นข้างบน กระบี่ใหญ่สามจั้งแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเศษจำนวนมาก เศษเหล่านี้ส่งเสียงลากยาวฉีกมวลอากาศ ถูกพายุคลั่งม้วนกลายเป็นพายุหมุนปานกริชแหลมคมนับไม่ถ้วนตรงเข้าใส่หมอกหลากสี

เสียงโครมดังขึ้นไม่หยุด การโจมตีอย่างต่อเนื่องนี้ เกิดขึ้นเพราะซูหมิงตระหนักรู้วายุและอัสนี ให้พวกมันผสานกับกระบี่เล็กของตน วันนี้เขาใช้เป็นครั้งแรก ได้เห็นกับตาว่ามันไม่ธรรมดา ซูหมิงก็ยิ่งปรารถนาในผลึกผู้สืบทอดแห่งวายุและอัสนีมากขึ้น

ขณะเดียวกับที่พายุหมุนม้วนเข้าสู่หมอกหลากสี ซูหมิงวูบไหวตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบปานสายรุ้ง พริบตาเดียวก็ตามพายุหมุนทัน ก่อนกำหมัดขวาและต่อยเข้าใส่หมอกหลากสี

หนึ่งหมัดนี้ เกิดเป็นสายลมรุนแรง ซูหมิงไม่หยุดเพียงเท่านี้ เขารัวหมัดใส่ติดกันห้าหมัด แต่ละหมัดก่อพายุ ก่อระลอกคลื่นประหนึ่งซ้อนทับกัน พริบตาเดียวตรงหน้าซูหมิงเกิดเป็นพายุหมุนยักษ์ตรงเข้าใส่หมอกหลากสี

วินาทีที่พายุหมุนยักษ์กับพายุเศษกระบี่ม้วนเข้าใส่หมอกหลากสี มีเสียงระเบิดดังปะปนกับเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธแค้นดังแว่วมาจากในหมอก ท่ามกลางเสียงระเบิด แรงกระแทกรุนแรงพุ่งมาจากหมอก และแผ่ขยายเป็นวงกว้าง

แรงกระแทกนั้นอัดเข้าใส่ปานถูกเทือกเขาชน ซูหมิงพลันถอย ขณะเดียวกัน พายุเศษกระบี่พังทลายลงกระจายเป็นเศษ อีกทั้งสายลมจากหมัดรัวห้าครั้งของซูหมิงก็เหมือนอัดเข้าใส่กำแพงและหายไป

แม้จะเป็นเช่นนั้น ทว่าหลังจากหมอกหลากสีรับการโจมตีอย่างต่อเนื่องก็ทนไม่ไหว กระจายเป็นเสี่ยงๆ เผยเงาแผ่นหลังคนพิลึกสีดำทั้งตัว ทั้งยังมีขนขึ้นเต็มตัวอยู่ภายใน บุคคลนี้หันหลังให้ซูหมิง กางแขนสองข้างกำลังกอดอะไรเอาไว้ เมื่อหมอกหายไป ซูหมิงเห็นว่าในอ้อมกอดคนประหลาดนั้น เป็นสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง

งอบตรงศีรษะนางฉีกขาด เผยเส้นผมงาม เผยดวงตาปานน้ำใส และยังมีใบหน้าที่ทำให้ผู้พบเห็นต้องหวั่นไหว

ทว่าน่าเสียดาย ใบหน้านี้มีรอยแผลเป็นเมื่อหลายปีก่อนตัดผ่านทั้งใบหน้างาม รอยแผลเป็นสีแดงเข้มนั้นยังมีเนื้อโผล่มาข้างนอกด้วย ดูแล้ว…น่าสะพรึง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version