Skip to content

สู่วิถีอสุรา 385

ตอนที่ 385 สามีของจีฮูหยิน

คล้อยหลังคนประหลาดขนสีดำทั้งตัวค่อยๆ ปล่อยมือ จีฮูหยินในอ้อมอกยกมือขวาขึ้นคลำรอยแผลเป็นบนใบหน้าตัวเอง ดวงตาปานน้ำใสจ้องซูหมิงด้วยความโกรธแค้น

“ตั้งแต่ใบหน้าข้ามีรอยแผลเป็นนี้ เจ้าเป็นคนแรกที่เห็น…ข้าจะทำให้เจ้าร้องโหยหวนเจ็ดวันเจ็ดคืน สูบกินเลือดเนื้อให้สิ้น หลังจากจิตใจเจ้าเป็นเครื่องบำรุงแก่ข้าแล้ว ข้าจะให้เจ้าตายอย่างเจ็บปวด…ข้าจะให้เจ้าตายทั้งเป็น!” จีฮูหยินอ้าปากกรีดร้องเสียงแหลม

“เจ้าพูดมากจริงๆ” ซูหมิงเย้ยเยาะ ถอยหลังไปหลายก้าว สตรีผู้นี้เป็นศัตรูแข็งแกร่งคนแรกที่เขาพบหลังจากแยกตัวจากเผ่าทะเลใบไม้ร่วง ดูจากวิชาแล้วคล้ายผู้ดูดวิญญาณเล็กน้อย ทว่ากลับต่างกัน อีกอย่างการโจมตีอย่างต่อเนื่องของซูหมิงเมื่อครู่ มิได้ทำให้นางบาดเจ็บมากนัก

โดยเฉพาะคนประหลาดขนดำทั้งตัวข้างกายนาง บุคคลนี้เหมือนหุ่นเชิด ในตัวอัดแน่นไปด้วยพลังชีวิตเข้มข้น เพียงแต่ความแข็งแกร่งของพลังชีวิต ต่างจากหุ่นเชิดผู้ดูดวิญญาณที่ซูหมิงพบในแผ่นดินเผ่าหมานยิ่งนัก เมื่อเชื่อมกับความพิลึกของร่างกายมันแล้ว จะให้ความรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

ภยันอันตรายร้ายแรงแผ่มาจากตัวบุคคลประหลาด ทำให้ซูหมิงตื่นตัวยิ่งขึ้น นอกจากพลังแห่งเทพหมานแล้ว ตอนนี้เขามีสองวิชาสังหาร ทว่าหนึ่งในนั้นต้องยืมรูปแบบของผืนดินตรงนี้ เปิดปากศีรษะมังกรทั้งหมด ให้พลังฟ้าดินหลั่งทะลักเข้ามา รูปแบบนี้จะทำให้อานุภาพของวิชาสามตัดสังหารบรรลุถึงระดับที่น่ากลัว

ทว่าหากไม่จำเป็นจริงๆ ซูหมิงจะไม่ใช้วิธีนี้ เพราะว่าจะอำพรางที่นี่ไม่ได้อีก ไม่ว่าใครก็มองออกว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกฝนชั้นเยี่ยม

อีกอย่างหากเป็นสตรีตรงหน้าเพียงคนเดียวคงไม่เท่าไร แต่หุ่นเชิดนี้ทำให้ซูหมิงรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับเชมันระดับปลาย เขาเพียงคาดเดาอานุภาพของวิชาสามตัดสังหารได้เท่านั้น ไม่มีความมั่นใจจริงๆ ว่าจะสังหารทั้งสองคนได้

นอกจากนี้แล้ว เขายังมีอีกหนึ่งวิชาสังหาร นั่นคือการอัญเชิญสัตว์จิ่วอิงหลังจากหัวที่ห้าของระฆังเขาหานตื่นขึ้น ทว่าวิชานี้เขาศึกษามาหลายวัน หากใช้จะเหมือนเป็นดาบสองคม สังหารศัตรูได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสังหารอีกฝ่ายไม่ได้ หลังจากร่างจิ่วอิงหายไปขั้นพลังจะลดลงไปเกือบเก้าส่วน เมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย หากอีกฝ่ายยังไม่ตายและยังมีวิชาเหลืออยู่ ตนจะต้องตายอย่างแน่นอน

ฉะนั้นสองวิชาสังหารนี้ ซูหมิงจึบขบคิดในหัวอย่างรวดเร็วจนตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้ แต่ต้องรอช่วงสำคัญที่สุดเพื่อลงมือสังหารศัตรู

‘น่าเสียดาย ข้ายังไม่หลอมชายชราเผ่าหมานเป็นหุ่นเชิดเลย ผลึกผู้สืบทอดหมานวายุก็ยังไม่ผสาน มิเช่นนั้นแล้วการต่อสู้ครั้งนี้คงประหยัดแรงไม่น้อย อีกทั้งยังมั่นใจมากขึ้น’ ซูหมิงถอนหายใจเบา ขณะถอยหลังดวงตาวาววับ จ้องคนประหลาดขนดำกับจีฮูหยิน

“ข้าจะต้องให้เจ้าตายทั้งเป็น!” จีฮูหยินคลำรอยแผลเป็น ขณะกรีดร้อง ตะขาบกับอสรพิษพร่างพราวที่ปักบนเสื้อสีแดงตัวใหญ่ของนางก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน ตะขาบเหล่านั้นพลันกระโดดขึ้น สีพร่างพรายเปล่งแสงพิลึกในยามโพล้เพล้ ยังมีอสรพิษเหล่านั้นที่แลบลิ้น หลังจากปรากฏรอบตัวจีฮูหยินก็พุ่งเข้าใส่ซูหมิง

สัตว์พิษเหล่านี้ไม่ธรรมดา ตอนอยู่กลางอากาศ จากหลายสิบตัวกลายเป็นหลายร้อยตัว หลายพันตัว แน่นขนัดมืดฟ้ามัวดิน ทำให้มองเห็นแวบแรกจะต้องรู้สึกหวาดกลัว

ขณะซูหมิงร่นถอยก็กวาดสายตามองสัตว์พิษเหล่านั้น มองคนประหลาดขนดำกับจีฮูหยินพลางขมวดคิ้ว สัตว์พิษเหล่านี้ดูดุร้ายยิ่งนัก ทว่าความจริงแล้วการฆ่าพวกมันเป็นเรื่องง่ายนักสำหรับคนระดับเขา จีฮูหยินก็ใช่ว่าจะไม่รู้ในข้อนี้ แต่ก็ยังปล่อยสัตว์พิษเหล่านี้มา ทำให้ซูหมิงเกิดความสงสัย

ระหว่างนั้นพลันมีเสียงร้องดังก้องมาจากด้านหลัง เสียงนี้ดูเย็นเยียบ แฝงไว้ด้วยการวางอำนาจบาตรใหญ่และข่มขวัญ ประดุจสัตว์ทุกตัวต้องยอมศิโรราบต่อเสียงนี้…

ซูหมิงคุ้นหูเสียงนี้ เพราะมันเป็นหนอนงูไม้พลองของเขา ตอนนี้มันวูบไหวตัวมาอยู่ตรงหน้าซูหมิง ขณะส่งเสียงร้อง สัตว์พิษที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นล้วนตัวสั่นราวกับหวาดผวา ขณะเดียวกัน คนประหลาดขนดำก็ตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด พลังชีวิตปั่นป่วน

ทว่าซูหมิงยังไม่ทันขบคิด ก็มีเสียงพายุลากยาวเข้ามาจากด้านหลัง เป็นวานรเพลิงดวงตาแดงก่ำ มาพร้อมกับพลังชั่วร้ายเหี้ยมโหด มันแบกกระบองพุ่งตัวไปทันใด ทะยานไปยังสัตว์พิษเหล่านั้นแล้วหมุนกระบองก่อเป็นพายุ

“เสี่ยวหง ถอย!” ซูหมิงเพ่งตามองแล้วพลันกล่าว ยกมือขวาขึ้นเตรียมจะไล่สัตว์พิษเหล่านั้น แต่ไม่ได้คิดสังหาร

ทว่าซูหมิงกล่าวจบ วานรเพลิงเพียงหยุดชะงักครู่เดียวก็ไม่สนใจคำพูดของซูหมิงอีก มันตาแดงก่ำ หอบหายใจแรง ดูจากลักษณะแล้วเหมือนกับชายร่างกำยำจากเผ่ากระเรียนดำในหมอกหลากสีไม่ผิดเพี้ยน

มันฟาดกระบองเข้าไป เกิดเสียงดังสนั่น ตะขาบและอสรพิษจำนวนมากส่งเสียงร้อง ก่อนร่างระเบิดกระจุย ของเหลวสีแดงอมเขียวแตกกระเซ็น มีเสียงซ่าๆ ดังขึ้นทันใด เหมือนผสานกับอะไรบางอย่างในมวลอากาศ พริบตาเดียวก็กลายเป็นหมอกหลากสี

ชั่วพริบตาเดียวนี้ เกิดหมอกหลากสีขึ้นจำนวนมากจากจุดที่ของเหลวกระเซ็นโดยมีซูหมิงเป็นศูนย์กลาง ขณะเดียวกัน กลิ่นหอมที่ซูหมิงได้กลิ่นก่อนหน้านี้พลันเข้มข้นขึ้นหลายเท่า

ตอนที่หมอกหลากสีกลับมาอีกครั้ง และกลิ่นหอมเข้มข้นอบอวลอยู่โดยรอบ คนประหลาดขนดำข้างจีฮูหยินเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาฉายแสงอ่อนและความละโมบ มีเสียงหึ่งดังมาจากในตัวมัน ก่อนยกเท้าขึ้นกลายเป็นเส้นโค้งดำตรงไปยังซูหมิง

เวลาเดียวกัน จีฮูหยินยังจ้องซูหมิงเขม็งอยู่ที่เดิม แววตาโกรธแค้นยิ่งขึ้น นางค่อยๆ ส่งเสียงครวญครางดังก้องกังวาน เสียงนี้ดังขึ้นถี่กว่าตอนแรกมากนัก

ดวงตะวันไกลออกไปค่อยๆ ลาลับภูเขา ยามโพล้เพล้ใกล้จะผ่านไป ทิศตรงข้ามกับดวงตะวันเป็นเค้าโครงดวงจันทร์ปรากฏ วันนี้ เป็นคืนจันทร์เต็มดวง!

จีฮูหยินส่งเสียงครวญครางไม่หยุด ประดุจชายหญิงกำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือด สีหน้านางมีความสุขราวกำลังเสพสุข ทว่าความโกรธแค้นในแววตาไม่ลดน้อยลง กลับมากขึ้นด้วยซ้ำ

นางใช้สองมือลูบไล้ร่างกายตัวเอง ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อผ้าสีแดงตัวใหญ่ของตน เผยให้เห็นผิวขาวดังหิมะวับๆ แวมๆ

ท่ามกลางเสียงร้องครางยั่วยวนที่ดังก้องของนาง ชายร่างกำยำเผ่ากระเรียนดำที่นอนอยู่บนพื้นไกลๆ น้ำลายไหล ลำตัวบิดเบี้ยวโดยไร้สติ หลับตาแน่น ทว่าใบหน้ากลับแดงเรื่อ หายใจอย่างหนักหน่วงและส่งเสียงขึ้นจมูก

หุ่นเชิดขนดำที่กำลังทะยานไปทางซูหมิง ดวงตาเปล่งแสงอ่อนยิ่งขึ้น เร่งความเร็วขึ้นอีกเรื่อยๆ

ซูหมิงขมวดคิ้ว ท่ามกลางเสียงร้องครางนี้ ตอนนี้วานรเพลิงกระสับกระส่ายยิ่งกว่าเดิม มันโจมตีสัตว์พิษเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดหมอกหลากสีมากขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันถูกเสียงครางรบกวนความคิด

หุ่นเชิดขนดำเข้าประชิดตัวในชั่วพริบตา และอ้าปากกว้างไปทางซูหมิง ยกสองแขนขึ้น ดูจากลักษณะแล้ว ราวกับอยากกอดซูหมิงเอาไว้

นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย รอบตัวมีแสงสีฟ้ากะพริบ ปรากฏเป็นเกราะสีฟ้าวูบไหวอยู่รอบตัว เดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวหาย เกราะลักษณะแบบนี้ไม่เหมือนกับเกราะนักรบเซ่นไหว้กระดูก คล้ายหากไม่สงสัยก็ยากจะมองออกในแวบเดียว

ขณะเดียวกับที่สร้างเกราะขึ้น ซูหมิงถอยหลังอย่างรวดเร็วไปอีกหลายก้าว จากนั้นพลันพุ่งทะยานไป โคจรสายลมในร่างกาย ทำให้ความเร็วเขาพลันเพิ่มขึ้น ทิ้งไว้เพียงเศษเสี้ยวเงา ก่อนมาอยู่ตรงหน้าคนประหลาดขนดำแล้วปล่อยหนึ่งหมัดเข้าใส่

เสียงโครมดังสนั่น หากมองไกลๆ คนประหลาดขนดำเหมือนถูกซูหมิงต่อยทำลายไปมากกว่าครึ่งตัว จนระเบิดกลายเป็นหมอกดำผืนใหญ่

สิ่งที่เหลืออยู่ตรงหน้าซูหมิงเป็นร่างกายซูบผอม ร่างนั้นกระเด็นถอยไป แขนทั้งสองข้างยังคงกางอยู่ หมอกดำที่หายไปเหมือนกับเป็นเลือดเนื้อจากตัวมันที่ถูกทำลาย

ซูหมิงกลับหรี่ม่านตาลง เขาเห็นชัดเลยว่าหมัดของตนไม่ได้โดนตัวคนประหลาดขนดำด้วยซ้ำ แต่ช่วงที่หมัดห่างจากคนประหลาดขนดำราวเจ็ดชุ่น ร่างของอีกฝ่ายสลายตัวออกไปเอง กลายเป็นแมลงปีกแข็งสีดำกลุ่มใหญ่ ทุกตัวล้วนมีขนาดเท่าเล็บมือ กระจายกันแน่นขนัด เมื่อมองไกลๆ จะเหมือนหมอกดำ

มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่แยกตัวนั่นคือร่างเล็กซูบผอมแห้งเหี่ยวตรงหน้า เขาหลับตาอยู่ บนตัวมีกลิ่นเหม็นเน่า เห็นชัดเลยว่าเป็นศพคน อีกทั้งตายมากี่ปีแล้วก็ไม่อาจรู้

ช่วงที่ซูหมิงหรี่ม่านตา ศพแห้งเหี่ยวพลันลืมตาขึ้น

เขามีดวงตาสีเทา ลูกตาข้างในก็เป็นสีเทา เขาจ้องซูหมิงแล้วอ้าปากกว้าง เผยฟันคมกริบ ก่อนกระโจนเข้าใส่ซูหมิง ขณะเดียวกัน แมลงปีกแข็งสีดำที่กระจายอยู่โดยรอบเหล่านั้นพลันบินเข้าใส่ซูหมิงท่ามกลางเสียงหึ่ง หากมองไกลๆ ภาพนี้ดูน่าตะลึงยิ่งนัก ตรงหน้าซูหมิงเป็นหมอกดำที่กำลังกลืนกินเขา ศพดวงตาสีเทาเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง ห่างจากซูหมิงไม่ถึงครึ่งจั้ง!

จีฮูหยินที่อยู่ไกลออกไปร้องครวญครางรุนแรงยิ่งขึ้น นางปลดเสื้อผ้าลงมาครึ่งหนึ่งแล้ว เผยผิวขาวราวหิมะ แฝงไว้ด้วยความยั่วยวน หลังจากปลดทีละชิ้นก็เห็นใต้หน้าอกขวาเป็นแผลเป็นหนึ่งรอย รอยแผลเป็นนั้นไม่ยาว แต่เหมือนถูกฝ่ามือคนทะลวงเข้าไป!

“อย่าให้เขาตายง่ายๆ เพียงนั้น สามีข้า จีอวิ๋นไห่…ถลกหนังเขา ฝังไข่แมลงเข้าไป ให้เขาต้องร้องโหยหวนเจ็บปวดเหมือนกับข้าตอนนั้น ตอนที่เขาร้องโหยหวน ข้าจะสูบกินส่วนสำคัญของเขาให้สิ้น…เจ้าจะต้องคอยดูอยู่ข้างๆ ด้วย…” จีฮูหยินกล่าวขึ้นขณะครวญคราง ความหมายแฝงในคำพูดเพียงพอจะทำให้คนฟังตัวสั่น!

กลิ่นเหม็นเน่าโชยกระทบใบหน้า เกราะรอบตัวซูหมิงพลันก่อรูปสมบูรณ์

เขามีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพลันยกมือขวาขึ้น ขณะเดียวกับที่ศพแห้งเหี่ยวกระโจนเข้ามา มือขวาซูหมิงทำสัญลักษณ์มือ นิ้วชี้โค้งลงมาจรดกับนิ้วโป้ง ทันใดนั้นฝ่ามือเขาพลันปรากฏเงามายาของระฆังเขาหานย่อส่วน จากนั้นใช้สามนิ้วกดระฆังเขาหานเพื่อให้มันสมจริงยิ่งขึ้น

สุดท้ายก็คลายห้านิ้วที่กำอยู่ออก แล้วกดไปทางศพนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version