Skip to content

สู่วิถีอสุรา 439

ตอนที่ 439 หินสีแดง

เมืองเชมันในโลกเก้าหยินแห่งนี้ วิหารเชมันสร้างขึ้นมาเมื่อนานมากแล้ว จวบจนถึงตอนนี้ นอกจากให้ความรู้สึกโบราณก็ไม่ให้ความรู้สึกเสื่อมโทรมใดๆ กลับกัน เมื่อเวลาผ่านไป มันสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก

โดยเฉพาะการเปิดโลกเก้าหยินทุกครั้ง ชาวเผ่าเชมันหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก จึงทำให้ที่นี่ครึกครื้น ต่อให้เป็นยามกลางคืนก็ยังมีคนเข้าออกในร้านค้านับไม่ถ้วน

ตอนนี้เพิ่งผ่านยามเที่ยงวัน ภายในหอชั้นสองของทางตะวันตกของเมือง อูตัวกับซูหมิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง มองแม่น้ำในเมืองที่วนรอบเมืองเชมัน เสียงน้ำไหลดังแว่วเข้ามาข้างหู ทำให้การดื่มสุรามีอีกหนึ่งรสชาติเพิ่มเข้ามา

“คนที่ต่อสู้กับเชมันระดับปลายเมื่อวานคงเป็นสหายโม่ ตอนข้าเห็นเจ้าเดินออกมาจากมิติวิญญาณเก้าหยินแล้วหนานกงเหินอยู่ข้างๆ เจ้าข้าก็เดาได้แล้ว” อูตัวยิ้ม สายตาที่มองซูหมิงเต็มไปด้วยความจริงใจ

“ไม่คิดเลยว่าไม่เจอกันหลายปี สหายโม่ก็ไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว ระดับพลังพุ่งพรวด ช่างน่านับถือ!”

“ตอนต่อสู้กับผู้อาวุโสเถี่ยมู่ ข้าแค่โชคดีเท่านั้น” ซูหมิงส่ายศีรษะแล้วกล่าวเนิบๆ

“อ้อ? สหายโม่ไม่ต้องถ่อมตนหรอก แม้ไม่เห็นกับตาทว่าข้าก็ฟังออกตอนได้ยินคนอื่นเล่า สหายโม่ไม่ได้โชคดีอย่างแน่นอน” อูตัวยิ้มพลางดื่มสุรา

เห็นอูตัวพูดเช่นนี้ ซูหมิงเพียงยิ้มน้อยๆ และไม่กล่าวเรื่องนี้อีก แต่มองอูตัวก่อนกล่าวเรียบๆ

“งานพนันสมบัติที่สหายจงพูดถึงเป็นอย่างไรบ้าง แซ่โม่รู้ไม่เยอะ สหายจงช่วยอธิบายที”

“ก่อนงานพนันสมบัติ สหายโม่ต้องมีผลึกเชมันที่เพียงพอก่อนถึงอาจจะได้สมบัติจากในงาน แน่นอนว่าหากสหายโม่เพียงแค่อยากดู ไม่ได้เข้าร่วมด้วย ย่อมไม่ต้องทำเช่นนั้น” อูตัวดื่มสุราไปหนึ่งอึก ยิ้มมองซูหมิงแวบหนึ่ง

“จริงๆ แล้วงานพนันสมบัติมีเพียงโลกเก้าหยินที่จะจัดพิเศษแบบนี้ มันแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือผู้ที่มีผลึกเชมันเกินหนึ่งแสนถึงจะเข้าร่วมได้

ส่วนที่สองคือต้องเป็นเชมันระดับปลายถึงจะได้เข้าร่วม หากขั้นพลังไม่ถึง ส่วนใหญ่จะไม่เลือกเข้าร่วมส่วนที่สองกัน เว้นแต่จะมีโชคอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นจุดจบย่อมอนาถ” อูตัวกล่าวอย่างละเอียด เขารู้ว่าบางทีซูหมิงอาจเข้าใจไม่มาก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนเผ่าเชมัน ฉะนั้นจะต้องมีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่บ้างแน่นอน

“อ้อ? ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” ซูหมิงยกแก้วสุราขึ้นดื่มอึกหนึ่ง

“สหายโม่รู้หรือไม่ว่า เหตุใดที่นี่ถึงเรียกว่าโลกเก้าหยิน นามของมันมาจากที่ใด?” อูตัวเงียบไปครู่หนึ่ง มองไปรอบๆ แล้วกล่าวเสียงเบา

ซูหมิงมองอูตัว ทว่าไม่กล่าวอะไร เขารู้ว่าอูตัวก็ไม่ได้ต้องการคำตอบของตนเหมือนกัน

“นามของโลกเก้าหยินนี้ นอกจากเผ่าวิญญาณหยินบอกกับบรรพบุรุษเผ่าเชมันแล้ว ก็มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือศิลาหินที่เคยตั้งอยู่ที่นี่ ศิลานั้นมีเพียงสามตัวอักษรก็คือโลกเก้าหยิน ส่วนเผ่าเก้าหยินก็คือมัน…” ขณะอูตัวกล่าวก็ยกมือซ้าย เผยให้เป็นสัญลักษณ์ขยับวับวับหลังฝ่ามือ

“ตอนนั้นหลังจากบรรพบุรุษเผ่าเชมันมายังโลกเก้าหยินแล้ว ไม่รู้ว่าไปคุยอย่างไรกับเผ่าวิญญาณหยิน ถึงทำให้พวกนั้นช่วยเหลือ ไม่กี่ปีต่อมาก็ปกครองในระยะหนึ่งล้านลี้และสร้างขึ้นเป็นเมืองเชมัน

ส่วนงานพนันสมบัติครั้งใหญ่ ความจริงแล้วเกี่ยวข้องอย่างมากกับจุดที่สร้างเมืองเชมัน!” อูตัวกล่าวเสียงเบา ไม่ได้ดังไปไกลมากนัก มีเพียงซูหมิงที่ได้ยินชัดเจน

“ที่เมืองเชมันเลือกตั้งอยู่บนแผ่นดินใต้เท้าพวกเรา ก็เพราะว่าเขตนี้ซ่อนความลับอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ความลับนี้คนนอกยากจะรับรู้ จนหลายปีต่อมา เชมันระดับสูงสุดท่านหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บอกความลับกับคนรุ่นหลังเอาไว้ก่อนตาย จากนั้นก็ค่อยๆ เล่าขานกันมาจนมีชาวเผ่าเชมันรู้กันมากขึ้น

เฮอะๆ สหายโม่คงไม่รู้ว่าแผ่นดินใต้เท้าพวกเรานี้ ตอนที่ยังไม่มีเมืองเชมันมันเป็นหลุมยักษ์! ภายในหลุมมีหินสีแดงจำนวนมาก หินพวกนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่กลับไม่อาจแผ่ขยายสัมผัสเข้าไป หากเปิดมันเบาๆ ในหินเหล่านี้จะมีสมุนไพรพิลึกอยู่!

ดอกเก้าอเวจีที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็เป็นหนึ่งในนั้น!

กระทั่งยังมีสมุนไพรอีกไม่น้อยที่ไม่มีบันทึกในเผ่าเชมัน แม้แต่ชาวเผ่าเก้าอรุณยังไม่รู้จัก น่าจะเป็นของหายากในยุคบรรพกาล ตอนนี้จึงกลายเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่ง! ทว่า…” นัยน์ตาอูตัวเป็นประกายวาววับ

“ในหินสีแดงส่วนใหญ่ไม่มีอะไรเลย ความจริงแล้วอาจจะเคยมี เพียงแต่มันค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา ในหินสีแดงเหล่านั้น ต่อให้มีสมุนไพรอยู่ ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นหินหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีก ต่อให้ยังมีอยู่บ้างก็ไม่เยอะแล้ว

ทว่าไม่มีอะไรแน่นอน ในหินสีแดงเหล่านั้นเคยพบสมุนไพรที่ยังมีสรรพคุณมากกว่าเจ็ดส่วนอยู่! กระทั่ง….ตามที่ข้ารู้มา ไม่รู้กี่ปีมานี้ มีอยู่เก้าครั้งที่เปิดหินขึ้นมาแล้วพบสมุนไพรสรรพคุณครบถ้วนเหมือนครั้งแรก!

อายุของสมุนไพรพวกนั้นยาวนานยิ่งนัก ทุกต้นเรียกได้ว่าสมบัติล้ำค่า! ทว่าก็ต้องดูที่โชคด้วย หากโชคดีบางทีอาจได้สมุนไพรราคาสูงมาก หากโชคไม่ดีก็ได้ใบไม้ธรรมดาๆ เช่นนั้น ต่อให้ได้มาสดใหม่เหมือนตอนแรกก็…” อูตัวถอนหายใจ

ซูหมิงได้ยินอูตัวกล่าว นัยน์ตาก็ขยับประกาย

“จากคุณภาพที่ต่างกันของสมุนไพรและสรรพคุณ สองจุดนี้ถือเป็นพื้นฐานที่จะนำมาตั้งมูลค่าแท้จริง อีกทั้งในหินสีแดงไม่ได้มีเพียงสมุนไพรเท่านั้น มันยังมีของเช่นสมบัติล้ำค่าและวิชาอีก ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ ต้องดูว่าเปิดได้อะไร ดูว่าของที่เปิดออกมาใช้งานได้หรือไม่….

เพราะความลึกลับของมัน แม้แต่เชมันระดับสูงสุดยังมองไม่ออก ฉะนั้นหินที่ต้องพึ่งโชคนี้จึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นงานพนันสมบัติครั้งใหญ่!

ความรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่อาจปฏิเสธได้…ยอมจ่ายผลึกเชมันไม่น้อยเพื่อมาซื้อหินสีแดง พูดได้ว่ามันทำให้คนรุ่งโรจน์ขึ้นในชั่วพริบตา…..และยังทำให้สูญเสียทุกอย่างในพริบตาเดียวเช่นกัน” อูตัวเลียริมฝีปาก ในใจเฝ้ารองานพนันครั้งใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

“หินสีแดงล้ำค่าเช่นนี้ ต่อให้ข้างในอาจมีสมุนไพรหายากหรือสมบัติล้ำค่า แต่ด้วยกำลังของวิหารเทพเชมัน ก็ไม่เห็นต้องจัดงานพนันสมบัติขึ้นเลย เปิดเองทั้งหมดก็ได้ไม่ใช่รึ เมื่อเป็นเช่นนั้นจะได้ไม่ต้องมีอะไรผิดพลาด!”

“สหายโม่คงไม่รู้ ความจริงแล้วตอนแรกเริ่ม วิหารเทพเชมันก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ทว่าพอเวลาผ่านไป เมื่อทั้งเผ่าเชมันรู้เรื่องความลับนี้แล้ว…เฮอะๆ แม้วิหารเทพเชมันจะแข็งแกร่ง แต่ทุกชนเผ่าเชมันจะมองวิหารเทพเชมันครองโอกาสได้สมบัติล้ำค่าไปเพียงผู้เดียวอย่างนั้นรึ

และยังมีเผ่าขนาดกลางเหล่านั้นอีก พวกเขาก็มายังที่นี่ ภายใต้แรงกดดันจากทุกชนเผ่าเชมัน ทุกครั้งที่วิหารเทพเชมันเปิดที่นี่ก็จะเอาหินสีแดงออกมาส่วนหนึ่งและจัดงานพนันสมบัติขึ้น!” อูตัวกล่าวอธิบาย

“ต่อให้เป็นเช่นนั้น ตอนที่แดนแห่งนี้ถูกบุกเบิก ทุกเผ่าใหญ่ก็คงเข้ามาด้วย ไม่มีทางที่จะไม่รู้ หากเป็นอย่างนั้นคำพูดเจ้ามันดูย้อนแย้งกันเล็กน้อย อีกอย่างหินสีแดงเหล่านี้ยังอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ ทั้งยังเหมือนมีอีกไม่น้อย จุดนี้แซ่โม่เข้าใจจริงๆ”

ซูหมิงขบคิดชั่วครู่ก่อนกล่าวเรียบๆ

อูตัวลังเลครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้น “เรื่องที่เจ้าบอกก่อนหน้านี้อาจจะยังมีสาเหตุซึ่งข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันอยู่ ทว่าไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม วิหารเทพเชมันก็จัดงานพนันสมบัติครั้งใหญ่ให้กับเผ่าเชมันทั้งหมดมานานมากแล้ว…..

เรื่องนี้ไม่น่าเป็นเท็จ อีกอย่างก็มีคนเปิดได้สมุนไพรล้ำค่าจริงๆ เก้าครั้งที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้คือตัวอย่าง ส่วนข้อสอง สหายโม่ยังไม่เข้าใจโลกเก้าหยิน หินสีแดงในโลกใบนี้มีเยอะมาก ทว่าไม่อาจขุดขึ้นมาได้ในครั้งเดียว ต้องค่อยๆ ขุดมัน ฉะนั้นตอนเปิดที่นี่ทุกครั้งถึงได้มีหินสีแดง

ข่าวลือส่งผ่านเส้นทางใหญ่ๆ หลายเส้นใต้เมืองเชมัน เส้นทางเหล่านี้คือทางที่ขุดหินสีแดงในช่วงหลายปี หินสีแดงในงานพนันสมบัติทุกครั้งจะน้อยลงเรื่อยๆ ครั้งก่อนตอนเปิดโลกนี้ข้าไม่ได้เข้ามาด้วย แต่ก็ได้ยินมาว่ามีมากกว่าหนึ่งหมื่นก้อน น้อยกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย” อูตัวกล่าวเสียงเบา

ซูหมิงขบคิดอยู่ชั่วครู่ แม้ยังไม่เข้าใจปัญหานี้อยู่บ้าง ทว่าท่าทางของอูตัวก็เหมือนจะยังไม่เข้าใจทั้งหมดเช่นกัน ดูท่าเงื่อนงำเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เชมันระดับกลางจะรับรู้

“ส่วนที่สองในงานพนันครั้งใหญ่ที่สหายจงบอกคงจะมีขนาดเล็ก และเหมือนกับการค้าขายประมูลที่จำกัดขั้นพลังใช่หรือไม่?”

“สหายโม่เดาผิดแล้ว งานพนันครั้งใหญ่มีงานประมูลขนาดเล็กจริง ทว่าก็จัดขึ้นเป็นการส่วนตัว ไม่นับว่าเป็นส่วนที่สองของงาน ส่วนที่สองนี้มีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงอย่างยิ่ง มักมีคนตายเป็นประจำ! มันถูกเรียกว่างานแย่งหิน!

เชมันระดับสูงสุดที่ประจำอยู่ในเมืองเชมันจะไม่ลงมือ เพราะนี่คือการแย่งชิงระหว่างเชมันระดับปลาย สถานที่อยู่ในระยะหนึ่งล้านลี้ เป็นหนึ่งในเหมืองหินสีแดงขนาดเล็กที่ถูกผนึกเอาไว้ในเวลาปกติสามแห่ง

เหมือนหินสีแดงขนาดเล็กเหล่านี้จะพ่นหินออกมาเองทุกช่วงเวลา หลังจากวิหารเทพเชมันเตรียมพร้อมแบบพิเศษแล้ว ก็จะให้มันพ่นออกมาจำนวนมากในเวลาสั้นๆ จะแย่งได้เท่าไรก็ต้องดูที่ความสามารถ

ถึงตอนนั้นจะเปิดอาคมเคลื่อนย้าย ตามกฎแล้วไม่ว่าขั้นพลังใดก็เข้าร่วมได้ เดิมทีมีเชมันระดับกลางน้อยมาก ทว่าครั้งนี้เกิดเหตุภัยพิบัติแดนรกร้างบูรพา ภายใต้แรงกดดันจากความตายและความอยากมีชีวิตรอด ผู้คนคงจะคลุ้มคลั่งมากขึ้น คนที่เข้าร่วมจะเยอะมากกว่าปกติ

สิ่งที่ข้าจะมาปรึกษากับสหายโม่ก็เพราะส่วนที่สองนี้…หากสหายโม่ยอมช่วยข้า ถึงตอนนั้นข้าจะแบ่งหินสีแดงให้ ข้ารับประกันได้ว่าหากทุกอย่างราบรื่น พวกเราจะต้องได้หินสีแดงมาไม่น้อย!” อูตัวมองซูหมิงด้วยแววตาเฝ้ารอคอย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version