ตอนที่ 455 ต่อสู้!
“ขั้นพลังสูงส่งแล้วคิดว่าจะกดขี่คนอื่นได้อย่างนั้นรึ?” น้ำเสียงซูหมิงเย็นชา ชีวิตในความทรงจำเขามักจะเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่ภูเขาทมิฬ ปี้ถูในตอนนั้นก็คิดว่าตนแกร่งจนมองข้ามได้ทุกสิ่ง
ต่อมาก็เป็นภูเขาหาน แขกพิเศษที่ล่าสังหารเหอเฟิงก็เป็นเช่นนี้ มีขั้นพลังสูงส่งแล้วกดขี่คนอ่อนแอ มันเหมือนเป็นการกดขี่ที่ไม่อาจต่อต้านไปชั่วชีวิต!
จนกระทั่งเรื่องของตี้เทียน ซูหมิงรู้สึกว่าไม่อาจต่อต้านอีกครั้ง ถูกควบคุมไปเสียทุกอย่าง ไม่อาจกำหนดโชคชะตา เพียงเพราะความแข็งแกร่งของตี้เทียน ทำให้ต้องปฏิบัติตามทุกอย่าง!
นี่ก็คือกฎปลาเล็กกินปลาใหญ่หรือ…หากนี่คือกฎของโลก เช่นนั้นข้าก็จะไม่ยอมเป็นผู้อ่อนแอ ข้าจะเป็นผู้แข็งแกร่ง เพราะมีแค่แบบนั้นข้าถึงจะมีสิทธิ์ทำลายกฎที่ข้าไม่ชอบ!
ชายร่างกำยำวิญญาณหยินสูงสามสิบจั้งตรงหน้าซูหมิงร้องคำรามพร้อมกับยกขวานขึ้น แล้วสับไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน ขณะขวานสับลงฟ้าดินสั่นสะเทือน มวลอากาศถูกฉีกแยกออกเป็นรอยยักษ์ ผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันหน้าเปลี่ยนสี ระหว่างถอยหนีก็ชี้นิ้วมือขวาไปยังขวานที่สับลงมา
ทันใดนั้น นิ้วชี้มือขวาของผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันกลายเป็นสีดำทึบ มีหมอกดำลอยขึ้นและกลายเป็นวิญญาณร้ายตนหนึ่งตรงหน้าเขา วิญญาณตนนี้มีแปดศีรษะต่างกัน แบ่งเป็นใบหน้าชายหญิงเด็กและคนชรา ทุกศีรษะล้วนมีพลังชั่วร้ายท่วมท้น ขณะเปล่งเสียงกรีดร้องก็ใช้หางยาวฟาดไปยังขวานสงครามปานดาวตก
“วิญญาณชั่วร้าย! สมกับเป็นเชมันสื่อวิญญาณครึ่งก้าวก่อนระดับสูงสุด ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะสร้างวิญญาณชั่วร้ายขึ้นมา!” เมื่อผู้คนบนพื้นเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีคนกล่าวขึ้น
หลังจากวิญญาณร้ายแปดเศียรปรากฏ ร่างมันทะยานไปพร้อมกับขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นสิบกว่าจั้ง ก่อนปะทะกับขวานสงครามที่สับลงมา เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะเดียวกันซูหมิงก็กล่าวขึ้นอย่างเย็นชา
“ขั้นพลังสูงส่งแล้วคิดว่าจะแย่งของคนอื่นได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ?” ช่วงที่ขวานสงครามปะทะกับวิญญาณร้าย ร่างแยกซูหมิงพลันทะยานออกไป ยังไม่ทันเข้าใกล้ แมลงปีกแข็งสีดำก็กระจายตัวออก เสียงหึ่งอื้ออึงดังกังวาน พวกมันรวมตัวขึ้นเป็นมือใหญ่สีดำแล้วคว้าไปทางผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน
ขณะเดียวกัน ร่างแยกวิญญาณแรกของซูหมิงก็คำรามเสียงต่ำ
“เก้าแปรสิบเปลี่ยน เสียงรวมเป็นหนึ่ง!” เมื่อกล่าวแล้ว ร่างแยกของซูหมิงชี้นิ้วมือขวาไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน ทันใดนั้น บนนิ้วชี้ของเขามีแสงสีดำขยับวูบวาบอย่างรวดเร็ว นิ้วชี้ของร่างแยกซูหมิงกลายเป็นสีดำทึบทันที ขณะเดียวกันก็มีหมอกดำลอยมาจากนิ้วมือหลายเส้น ก่อขึ้นเป็นวิญญาณร้ายแปดเศียรเหมือนกับวิชาของผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันก่อนหน้านี้!
เมื่อปรากฏวิญญาณร้าย ผู้พบเห็นทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี แม้แต่ผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันก็เช่นกัน
“เก้าแปรเปลี่ยนอีกครั้ง!” นัยน์ตาร่างแยกซูหมิงมีประกายแสงอ่อน วิญญาณแปดเศียรตรงหน้าเขา ทุกศีรษะล้วนมีเขาสีดำเขาหนึ่งงอกออกมา มันพุ่งตัวออกไปพร้อมกับเสียงคำราม ส่วนมือใหญ่แมลงปีกแข็งสีดำก็ตรงไปทางผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน
พร้อมกันนั้น กำลังหลักของซูหมิงหรือชายร่างกำยำวิญญาณหยินยิ้มเยาะ แม้ขวานในมือจะถูกการปะทะเมื่อครู่ดีดกลับ ทว่าเขากลับเดินหน้าสวนกลับขวานที่ถูกสะท้อนกลับคืน และใช้ร่างกายเป็นพละกำลัง ใช้แขนเป็นสะพานรองรับแรงสะท้อนกลับ ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยพละกำลังให้มากขึ้น หลังจากรับแรงสะท้อนกลับก็สะบัดขวานสงครามในมือขวาเพื่อสับลงอีกครั้ง
ต่อมาชายร่างกำยำวิญญาณหยินบริกรรมคาถาโบราณ ขณะท่องคาถา บนตัวเขาปรากฏวงกลมประดุจวงปีของต้นไม้ วงกลมเหล่านี้ปกคลุมบนตัวหลายชั้น เมื่อชายร่างกำยำคำรามพร้อมสับขวานลง บนท้องฟ้าพลันปรากฏเงามายาใหญ่ยักษ์
เงามายานี้เป็นต้นไม้ใหญ่เสียดฟ้า ยามนี้มันตกลงมาอย่างรวดเร็ว และตรงไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันปานจะผนึกอีกฝ่าย
ผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันหน้าเปลี่ยนสี จำเป็นต้องถอยอีกครั้ง สำหรับเขาแล้วนี่คือการเหยียดหยาม ตนเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของวิหารเทพเชมัน อีกทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งครึ่งก้าวก่อนเชมันระดับสูงสุด ต่อให้ชายร่างกำยำวิญญาณหยินตรงหน้าจะแข็งแกร่งจริงๆ ก็ตาม ทว่าการถูกบีบให้ถอยต่อหน้าผู้คนหลายหมื่นถึงสองครั้งนี้ มันคือการเหยียดยามสำหรับเขา
“วิญญาณหยินสู้เพื่อเจ้า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เห็นทีคงต้องสังหารเจ้า!” นัยน์ตาผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันเผยจิตสังหาร ก่อนกางสองมือสะบัดสิบนิ้วมือไปข้างหน้า สิบนิ้วมือพลันกลายเป็นสีดำทั้งหมด พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นหมอกดำจำนวนมากดุจหลอมละลาย
หมอกดำรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นระลอกคลื่นสีดำตรงหน้าชายชรา ถาโถมไปข้างหน้า ก่อนแผ่กระจายออกเพื่อปะทะกับอภินิหารทุกอย่างของซูหมิง
“สื่อวิญญาณสัมผัสมายา!” ชายชราคำรามเสียงต่ำ ระลอกคลื่นดำเหล่านั้นเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ไม่อาจบรรยาย ปะทะกับมือใหญ่แมลงปีกแข็งสีดำเป็นอย่างแรก ช่วงที่ปะทะกันมือใหญ่พังทลายลงในทันใด แมลงปีกแข็งในนั้นกระเด็นถอย
เวลานั้น วิญญาณร้ายแปดเศียรจากวิชาเก้าแปรเปลี่ยนของร่างแยกซูหมิงก็ตรงเข้ามา ส่งเสียงคำรามดุดัน เมื่อปะทะกับระลอกคลื่นแล้วมีเจ็ดเศียรกลายเป็นผุยผง ทว่ามีอยู่เศียรหนึ่งที่เหลือรอด
บางทีอาจเป็นเพราะวิญญาณร้ายจากวิชาเก้าแปรเปลี่ยนคล้ายกับวิญญาณร้ายของชายชรามาก มันเลยทะลวงผ่านระลอกคลื่นไปได้ และตรงไปยังชายชราด้วยความดุร้าย
ส่วนชายร่างกำยำเผ่าวิญญาณหยิน หลังจากขวานสงครามปะทะกับระลอกคลื่น เขาคำรามเสียงต่ำ เสียงระเบิดดังสนั่นอย่างรุนแรงกลางอากาศ ตัวเขาถูกผลักถอยหลังไป นัยน์ตาดูคลุ้มคลั่ง ปากบริกรรมคาถาอีกครั้ง ขณะเดียวกันเขาก็ใช้ศีรษะกระแทกใส่ขวานสงครามตรงหน้า ขวานยักษ์สั่นสะท้านก่อนสลายหายไป!
จากนั้นพลังมหาศาลพลันปะทุมาจากตรงใจกลาง เข้าปะทะกับระลอกคลื่นดำอย่างดุเดือด ระหว่างเสียงระเบิดดังก้องกังวาน ชายร่างกำยำถอยไปอีกหลายก้าว ก่อนกระอักโลหิตออกมา
แต่ดวงตาใต้หมวกกลับกระหายในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น
ระลอกคลื่นดำก็บิดเบี้ยวเช่นกัน หลังขยับแสงวิบวับหลายครั้งก็สลายหายไป กลายเป็นหมอกดำจำนวนมากม้วนตัวกลับ
ทว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุดลง ยามนี้เงามายาต้นไม้ยักษ์บนท้องฟ้าเข้ามาใกล้ชายชรา ก่อนกระแทกเข้าไปอย่างแรง ผู้อาวุโสวิหารเทพเชมันสะบัดแขนเสื้อไปทางต้นไม้ยักษ์จนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง ต้นไม้ยักษ์มายากระจายเป็นเสี่ยงๆ และสลายไปตรงหน้าชายชรา
หากแต่ชายชราก็เจ็บเช่นกัน เขาหน้าซีดขาวเล็กน้อย เมื่อทำลายต้นไม้มายาแล้ว ก็กัดปลายลิ้นพ่นโลหิตเข้าใส่วิญญาณร้ายหนึ่งเศียรที่เหลืออยู่และห่างจากตนไม่ถึงครึ่งจั้ง!
“ขั้นพลังสูงส่ง แล้วคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่คิด มองคนอื่นเป็นมดปลวกได้อย่างนั้นรึ?” ซูหมิงกล่าวจบ นัยน์ตาศพพิษข้างกายขยับประกายสีเทา เดินตรงไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน
เมื่อศพพิษเดินออกมา กลิ่นอายพลังขั้นวิญญาณหมานแผ่กระจายอย่างเปิดเผย ทั้งยังมีหมอกพิษโอบล้อม ร่างเงาเขาห้อเหยียดเข้าไปพร้อมส่งเสียงคำรามปานสัตว์ป่า
และยังมีร่างแยกของซูหมิง ยามนี้ทำสัญลักษณ์สองมือ หลังจากกระบี่เล็กแสงดำขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าจนกลายเป็นกระบี่ใหญ่ ร่างแยกซูหมิงก็พ่นลมหายใจของวิญญาณแรก รอบกระบี่ใหญ่เกิดพายุหมุนนับไม่ถ้วน เปล่งแสงหนึ่งพันจั้ง ก่อนฟันกระบี่ไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน
ด้านหลังร่างแยกกับศพพิษ ชายร่างกำยำวิญญาณหยินถอดหมวกออก เผยใบหน้าของเขา ผิวหนังเป็นสีน้ำตาล ทั้งยังแห้งจนแตก ดูเหมือนกับต้นไม้ก็ไม่ปาน ยามนี้เขาโยนหมวกทิ้งไปแล้วเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ชั้นวงกลมรอบตัวเขาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งร่างกายยังพองบวมจนมีขนาดหนึ่งร้อยจั้งในชั่วพริบตา หากมองไกลๆ จะเหมือนเป็นต้นไม้ใหญ่!
เส้นผมยาวลงมาอย่างรวดเร็วราวต้นหลิว หลังจากขยายร่างใหญ่ขึ้น ชายร่างกำยำคนนี้ก็สาวเท้ายาว แล้วปล่อยหมัดเข้าไปยังผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน!
กำปั้นของเขาดูเหมือนกิ่งไม้ ให้ความรู้สึกโบราณ ทั้งยังมีพลังชีวิตเปี่ยมล้นแฝงอยู่ข้างใน
ซูหมิงยืนมองภาพนี้อยู่ไกลๆ ด้วยความเย็นชา ตอนนี้ชายชรามีสีหน้ามืดทะมึน ตนเป็นผู้อาวุโสวิหารเทพเชมัน หากต้องให้คนอื่นช่วย เช่นนั้นเรื่องในวันนี้คงจะเป็นความอัปยศที่สุดในบรรดาความอัปยศ!
ฉะนั้นเขาจึงไม่ให้กลุ่มองครักษ์เทพเชมันลงมือ แต่ทันทีที่ร่างแยกของซูหมิงกับศพพิษ รวมถึงชายร่างกำยำวิญญาณหยินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาเขาฉายจิตสังหาร ก่อนใช้มือขวาคว้าอากาศ กลางฝ่ามือพลันปรากฏใบไม้สีดำ เมื่อนำเข้าปากและเคี้ยวจนละเอียด ร่างกายเขาบิดเบี้ยวในทันใด ทำให้กระบี่ใหญ่ของร่างแยกซูหมิงฟันใส่อากาศ หลังจากนั้นเงาร่างของชายชราก็เดินออกมาจากด้านหลังซูหมิงอยู่ไกลๆ
แทบจะเป็นช่วงที่เขาเดินออกมา ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าว ด้วยความเร็วของเขา พริบตาเดียวก็เคลื่อนไหวไปหลายสิบจั้ง เวลาเดียวกันมือขวาก็สะบัดแขนเสื้อขึ้นฟ้า
การสะบัดครั้งนี้ มีสายลมเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวตามแขนซูหมิง
“ลมเกิดจากการสะบัดชายแขนเสื้อ…..” ซูหมิงพึมพำเบาๆ ต้นกำเนิดวายุในกายเขาโคจรอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นบนท้องฟ้าเกิดเสียงดังครืนๆ เสียงนี้คือเสียงลม!
ภายในระยะหลายร้อยลี้พลันปรากฏสายลมจำนวนมากขึ้นโดยมีซูหมิงเป็นใจกลาง สายลมเหล่านี้ลอยมาจากทุกสารทิศ มันหมุนวนจนกลายเป็นลมหมุนพัดผ่านฟ้าดิน และสิ่งนี้คือ…..เกิดพายุ!
“หลังจากเกิดพายุ จะปรากฏทะเลเมฆ และสายลมจะมาเยือน!” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา กำมือขวาที่ชูอยู่บนท้องฟ้า!
ยามนี้ท้องฟ้าในระยะหลายร้อยลี้รอบๆ กลายเป็นทะเลเมฆผืนใหญ่ภายใต้การหมุนวนของสายลม ทะเลเมฆเหล่านี้เคลื่อนไหวตามลม ฉะนั้นตอนนี้บนท้องฟ้าจึงปรากฏน้ำวนทะเลเมฆขนาดยักษ์ และวินาทีที่ซูหมิงกำหมัด น้ำวนนี้ก็พุ่งตรงมายังซูหมิงด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ!
‘สายลมยังไม่พอ…..’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย