Skip to content

สู่วิถีอสุรา 707

ตอนที่ 707 แสงหอคอยรกร้างบูรพา

นี่คือครั้งแรกที่ซูหมิงขึ้นมาชั้นเก้า ช่วงที่เหยียบขึ้นมา ทั้งหอคอยรกร้างบูรพาสั่นสะเทือนแทบทันที วงแสงโอบล้อมรอบหอคอยนี้หลายชั้น แล้วแผ่กระจายออกเป็นวงกว้าง

เมื่อมันแผ่กระจาย ชั้นที่หนึ่งหอคอยรกร้างบูรพาพลันส่องสว่าง จากนั้นก็เป็นชั้นสอง ชั้นสาม…จนกระทั่งถึงชั้นแปด ทั้งหมดส่องแสงสว่างเด่นชัด ส่วนชั้นเก้าที่กำลังสลัวๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

วงแสงโดยรอบนี้ หากมองดีๆ จะมีอยู่แปดชั้น ซึ่งก็หมายถึงซูหมิงบุกหอคอยมาแปดชั้นแล้ว และมันก็ปะทุออกมาในวินาทีที่เขาขึ้นมาบนชั้นเก้า

จะเห็นได้ว่าชั้นเก้าคือขอบเขตหนึ่ง หากขึ้นมาชั้นเก้าไม่ได้ก็จะไม่เกิดปรากฏการณ์อย่างตอนนี้ มีเพียงคนที่มีพลังข้ามผ่านมายังชั้นเก้าเท่านั้น ถึงจะให้หอคอยรกร้างบูรพาเปล่งแสงเจิดจ้าได้

ชั่วพริบตาเดียวแสงสว่างก็ปกคลุมทั้งพื้นหอคอย กระทั่งยังมีแน้วโน้มจะขยายออกไปไกลยิ่งกว่า แทบจะชั่ววินาทีนี้ เผ่าหมานทั้งแผ่นดินรกร้างบูรพา ไม่ว่าทำเรื่องใดอยู่ล้วนหยุดชะงัก แล้วพากันเงยหน้ามองคลื่นแสงแปดวงที่ลอยผ่านหน้าไป

ต่อให้เป็นเฉียนเฉินซึ่งกำลังแสร้งตายอยู่ในป่าทึบยังลืมตาโดยไม่รู้ตัว เขาเหม่อมองระลอกคลื่นบนฟ้า ชายชราร่างแปลงจากกระเรียนขนร่วงที่กำลังคุยเป็นต่อยหอยกับชายหนุ่มเผ่าหมานสามคนข้างๆ ก็อึ้งงัน ชายหนุ่มสามคนตรงหน้าเขาก็เช่นกัน

บนแผ่นดินหมาน ยามที่ผู้มีสายเลือดหมานทั้งหมดเห็นวงแสงจากบนฟ้า ก็รู้สึกว่าสายเลือดเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านมาหนึ่งปี!

นั่นคือสายเลือดเดือดพล่านจากเทพหมาน เป็นการชี้นำลี้ลับจากสายเลือด

“เทพหมาน เป็นเทพหมาน!”

“เทพหมานปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว!” ทั้งเผ่าหมานในยามนี้เกิดเสียงฮือฮาจากทุกที่ พวกเขาตามหาซูหมิงมาหนึ่งปี ตามหาเทพหมานทั้งแดนรกร้างบูรพาแล้ว

หนึ่งปีมานี้ไม่มีเบาะแสอะไรเลย ทว่าพวกเขาไม่ยอมแพ้ ยังขยายพื้นที่ออกตามหาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเชื่อมั่นว่าเทพหมานยังไม่ตาย เทพหมานของพวกเขายังอยู่

ตอนนี้ ทันทีที่รู้สึกถึงการชี้นำจากสายเลือด เสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดังสนั่นขึ้นทั้งแผ่นดินรกร้างบูรพา สายรุ้งยาวหลายต่อหลายเส้นมุ่งหน้าไปยังจุดที่ปล่อยระลอกคลื่นมา

โดยเฉพาะชาวเผ่าหมานที่ใกล้กับหอคอยรกร้างบูรพา เวลานี้มองไปยังต้นตอของวงแสงด้วยความตื่นตะลึง…เป็นแสงจากแปดชั้นของหอคอยรกร้างบูรพา

“เทพหมานอยู่ในหอคอยรกร้างบูรพา!” เสียงตื่นเต้นดังก้อง คนที่อยู่ค่อนข้างใกล้ล้วนห้อเหยียดเข้าไปด้วยความเร็วทั้งหมด

พวกชื่อเหลยเทียน เสวี่ยซา อู๋ซวงผู้นำเผ่า และยังมีเทียนฉี่ผู้อาวุโสใหญ่สำนักเวไนยสัตว์แห่งแผ่นดินรกร้างบูรพา เวลานี้อยู่ที่ต่างกัน กำลังมุมานะเพื่อความรุ่งเรืองของเผ่าหมาน ตอนที่ระลอกคลื่นบนฟ้าแผ่กระจายมา พวกเขาพากันเงยหน้ามอง ก่อนกลายเป็นสายรุ้งยาวบินขึ้นฟ้าไป

ชาวเผ่าชะตาชีวิต หลังจากรวมตัวกันเพราะซูหมิงเรียกหาในตอนนั้นแล้ว ในหนึ่งปีมานี้พวกเขาก็ไม่ได้ออกห่างจากจุดมาเยือนของเซียนไปไกลนัก แต่อยู่บริเวณใกล้ๆ และไม่ได้ไปมาหาสู่กับชาวเผ่าคนอื่นๆ เพียงใช้ชีวิตแยกตัวอย่างอิสระ

ความพิเศษเฉพาะของพวกเขาคือจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เพราะพวกเขาคือเผ่าชะตาชีวิต

ราวกับว่าวิถีชีวิตในโลกเก้าหยินกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าไม่ได้มีอันตรายตลอดเวลา เขตที่พวกเขาอาศัยถูกปรับเปลี่ยนตลอดในเวลาหนึ่งปีนี้ ค่อยๆ กลายเป็นจุดที่เหมาะสมจะให้เผ่าชะตาชีวิตแสดงกำลังรบได้แกร่งยิ่งขึ้น

พวกเขาตามหาซูหมิงมาตลอดหนึ่งปีเช่นกัน ตามหาท่านโม่ของพวกเขา เวลานี้ ช่วงที่ระลอกคลื่นบนฟ้าลอยผ่านมา ชาวเผ่าชะตาชีวิตทั้งหมดล้วนยืนขึ้นด้วยความฮึกเหิม แล้วกลายเป็นสายรุ้งตรงไปยังหอคอยรกร้างบูรพา

นี่คือการเคลื่อนไหวทั้งแผ่นดินรกร้างบูรพา ณ หมู่เกาะจำนวนมากบนแดนอรุณใต้ก็เกิดการเคลื่อนไหวของชาวเผ่าหมานส่วนใหญ่เช่นกัน เผ่าหมานเหลือคณานับทะยานผ่านกลางฟ้าดิน มีเป้าหมายเดียวกันคือ….หอคอยรกร้างบูรพา!

ซูหมิงไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น เขาในตอนนี้ยืนอยู่บนชั้นเก้าหอคอยรกร้างบูรพา รอบๆ ตัวมีแสงทองสว่างจ้าถึงขีดสุด ในแสงทองมีกลิ่นอายพลังแห่งโลกอยู่หลายเส้น มันวนเวียนรอบตัวเขา ทำให้ร่างเขาขยับวูบวาบอยู่ในกลิ่นอายพลัง

ขณะกลิ่นอายพลังแห่งโลกวนเวียนอยู่ก็หลอมรวมเข้าไปในกายเขาอย่างต่อเนื่อง เขาหลับตาพลางโคจรพลังในร่างกาย และสูบกินอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังของการสร้างชะตา

นี่คือโชควาสนาของหอคอยรกร้างบูรพา โชควาสนานี้ซูหมิงได้รับมาเป็นครั้งที่เก้าแล้ว ตอนที่ก้าวมายังชั้นหนึ่งของหอคอย เขาที่บาดเจ็บสาหัสได้รับโชควาสนานี้ครั้งแรก ร่างกายเลยฟื้นฟูกลับมา จากนั้นก็บุกขึ้นมาทีละชั้นจนค่อยๆ เข้าใจหอคอยนี้

นี่คือหอคอยสูงที่ปิดผนึกมานาน ทุกชั้นมีเพียงคนที่บุกผ่านคนแรกเท่านั้นถึงจะได้รับโชควาสนาไป

และตอนนี้ทั้งหอคอยรกร้างบูรพามีเพียงซูหมิง!

ครู่ต่อมา ตอนที่ซูหมิงลืมตาขึ้น ร่างกายเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหนือธรรมดา เขายืนอยู่ตรงนั้น สัมผัสพลังในร่างกายอย่างเงียบๆ พลังแห่งโลกในชั้นเก้ามากเกินกว่าชั้นแปดไปไกลโข การสูบครั้งนี้ทำให้ขั้นพลังได้รับการบ่มเพาะไม่น้อย

“ห่างจากจุดสูงสุดของรูปแบบชะตาตอนต้นอีกนิดเดียว ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป บุกอีกสองสามชั้น บางทีอาจบรรลุถึงจุดสูงสุดของรูปแบบชะตาตอนต้น” ซูหมิงสูบกลิ่นอายพลังแห่งโลกจากในแสงสีทองเข้าลึก ก่อนยกเท้าเดินออกจากตรงใจกลางชั้นเก้า

ทันทีที่เดินออกมา สายตาเขาพร่ามัวในทันที ตอนที่ชัดเจนอีกครั้ง ตรงหน้าปรากฏเป็นภูเขาสูงตระหง่านลูกหนึ่ง

ภูเขานี้สูงมาก กลางท้องฟ้าสีครามไม่เห็นปลายยอดเขา เห็นเพียงชั้นเมฆนับไม่ถ้วนปกปิดมันอยู่ภายใน

บนท้องฟ้าด้านหลังภูเขามีธารสวรรค์สายหนึ่ง ดูมากมายไร้จำกัด สายน้ำเชี่ยวไหลลงมาเชื่อมกับพื้นดินราวกับน้ำตก ทว่าจุดที่อยู่ไกลกว่านั้นกลับไหลย้อนขึ้นฟ้า ผสานรวมกับต้นน้ำ สร้างเป็นวงเวียนธารสวรรค์ ต่อให้ที่นี่ห่างออกมาไกลมากก็ยังได้ยินเสียงสายน้ำไหล

เพียงแต่เพราะภูเขาสูงเกินไป ธารสวรรค์จึงถูกยอดเขานี้บดบังไปเกือบครึ่ง เลยมองไม่เห็นเต็มๆ

หนึ่งภูเขา หนึ่งแม่น้ำ และยังมีทะเลทราย

ทะเลทรายอยู่บนแผ่นดินทั้งหมด พายุทรายม้วนตลบส่งเสียงครืนๆ ดังกังวานโดยรอบ บดบังภูเขาและแม่น้ำในสายตาซูหมิง

นี่ก็คือชั้นเก้าหอคอยรกร้างบูรพา

“ชั้นเก้าหอคอยรกร้างบูรพา หนึ่งภูเขาหนึ่งแม่น้ำหนึ่งทะเลทราย…ผู้บุกมาถึงชั้นนี้ จะใช้พลังทำลายทั้งหมด หรือจะตระหนักรู้ก็ย่อมได้เหมือนกัน

สองทางเลือก สองเส้นทาง” มีเสียงอึ้ออึงดังก้องกังวานรอบๆ เสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกของกาลเวลา เหมือนอยู่ที่นี่มานานแสนนาน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงนี้ ครั้งแรกที่เข้ามาในหอคอยรกร้างบูรพาก็มีเสียงนี้ดังขึ้นแล้ว ทว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งตอนขึ้นชั้นสองที่ไม่ได้ยิน

นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายวาววับ ก่อนเดินหน้าหนึ่งก้าว พริบตาเดียวร่างเขาก็หายไป มาปรากฏอยู่บนหินภูเขาก้อนหนึ่งที่นูนออกมาตรงกลางภูเขา เขายืนอยู่ตรงนั้นมองทอดไกลไป ธารสวรรค์ปรากฏในสายตาอย่างชัดเจนยิ่ง

ธารสวรรค์ยิ่งใหญ่นัก เสียงสายน้ำดังสนั่นไปรอบๆ เพียงแต่ว่า…ระยะความห่างตอนนี้กับตอนเพิ่งเดินออกมาจากตรงใจกลางชั้นเก้าเหมือนมีอะไรต่างออกไป

ซูหมิงเงยหน้ามองภูเขาสูงใต้เท้าอย่างเงียบๆ แล้วขยับวูบไหวกลายเป็นสายรุ้งตรงไปยังยอดเขา

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ครึ่งชั่วยามต่อมา ซูหมิงขมวดคิ้ว เขา…ยังคงอยู่ตรงกลางภูเขา ตอนที่เงยหน้าขึ้น ยอดเขายังคงซ่อนอยู่ในเมฆหมอก ต่อให้ตอนนี้อยู่จุดสูงของยอดเขาก็ตาม แต่ก็ยังไปไม่ถึงยอดเขาลูกนี้จริงๆ

ซูหมิงตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วก้มหน้ามองพื้นดิน ผ่านไปพักหนึ่งก็หรี่ตาลง

“ภูเขาลูกนี้ไม่มีสิ้นสุด…” ซูหมิงพึมพำเบาๆ ความสูงของภูเขานี้ ตอนมองไปรู้สึกเพียงมันสูงมาก แต่พอก้าวเดินขึ้นมาแล้วก็เห็นเงื่อนงำอะไรบางอย่าง ภูเขาลูกนี้เหมือนไร้ที่สิ้นสุด ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นไปหนึ่งช่วง มันจะยืดยาวออกไปหนึ่งช่วง

ฉะนั้นมันจึงไม่มีสิ้นสุด ไม่มีปลายยอดเขา

ซูหมิงเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้นกลายเป็นสายรุ้งยาวออกจากยอดเขานี้ มุ่งหน้าไปยังธารสวรรค์ตรงหน้า แต่ไม่ว่าจะใช้ความเร็วเท่าใด ระยะห่างระหว่างธารสวรรค์ในสายตากลับเหมือนกัน ประหนึ่งว่าพื้นที่ระหว่างสองฝ่ายเหมือนกับความสูงของยอดเขา จะยืดยาวตามทางที่เข้าไปใกล้

เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ ซูหมิงเคยเจอมาแล้วตอนอยู่บนแท่นบวงสรวงหลังภูเขาที่อยู่ของเผ่าชะตาชีวิตในโลกเก้าหยิน ทว่าแท่นบวงสรวงนั้นอยู่ข้างหน้าชั่วนิรันดร์ ไม่ว่าใช้ความเร็วเท่าใดก็ตามไม่ทัน

แม้ซูหมิงจะผ่านแท่นบวงสรวงนั้นมาด้วยการชี้แนะของชายชราเผ่าวิญญาณหยิน แต่ภูเขากับแม่น้ำในตอนนี้ ด้วยขั้นพลังของเขา จึงมองออกว่าความลึกลับของมันมากเกินกว่าแท่นบวงสรวงในโลกเก้าหยิน

ซูหมิงค่อยๆ หยุดบิน หย่อนตัวลงบนทะเลทรายรกร้าง ก่อนนั่งขัดสมาธิมองทรายบนพื้น

เขารู้สึกรางๆ ว่าในภูเขา แม่น้ำ และทะเลทรายรกร้างมีความหมายลึกซึ้งบางอย่างแฝงอยู่ หากเข้าใจความหมายแฝงนี้ก็จะเข้าใจในโชคชะตาได้ลึกซึ้งขึ้นอีกไม่น้อย

‘เลี่ยซานซิว….เจ้าใช้หอคอยรกร้างบูรพามาเป็นแผนการร้ายอย่างโจ่งแจ้ง ให้เผ่าเซียนฆ่าแกงกันเอง และให้ความหวังเผ่าหมานได้ผงาดขึ้น

ทว่าหอคอยนี้ สำหรับเผ่าเซียน สิ่งที่พวกเขาปรารถนาคือความเข้าใจต่อภัยพิบัติที่เจ้าฝากเอาไว้บนชั้นยอดสุด ทว่าสำหรับเผ่าหมาน หอคอยรกร้างบูรพาช่วยให้พวกเขายกระดับขั้นพลัง เป็นที่ให้ชาวเผ่าหมานทั้งหมดฝึกฝน

แปดชั้นก่อนหน้านี้มีวิชาของเผ่าวิญญาณชั่วร้ายกับเผ่าหมีซื่อจากระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูงอยู่ และตอนอยู่ชั้นหกยังมีคำอธิบายสองเผ่านี้ด้วย ดังนั้นชั้นนี้จะต้องมีความหมายลึกซึ้งของเจ้าอยู่แน่นอน…’

นัยน์ตาซูหมิงฉายแววตรึกตรอง ผ่านไปพักหนึ่งก็หลับตาลงแล้วสัมผัสหนึ่งภูเขา หนึ่งแม่น้ำ หนึ่งทะเลทรายบนชั้นเก้าอย่างเงียบๆ

เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านไป….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version