ตอนที่ 716 กระบี่ในมือ
ในมรดกวิชาของหงหลัวที่ซูหมิงได้รับมา วิธีใช้กระบี่แตกต่างกับวิชากระบี่บินของคนเผ่าเซียนอย่างชัดเจน วิธีการใช้กระบี่จะโบราณยิ่งกว่า แทบจะไม่มีความคล่องแคล่ว เทียบกับความไหลลื่นของกระบี่บินไม่ได้เลย ฉะนั้นหลังจากได้รับมรดกของหงหลัวมาแล้วเลยไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง
แต่ซูหมิงสนใจวิธีการใช้กระบี่ประเภทนี้มาก วิชาการใช้กระบี่แบบโบราณนี้ สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือกุมกระบี่ มีเพียงให้กระบี่อยู่ในมือเท่านั้นถึงจะเป็นอาวุธอย่างแท้จริงของผู้ใช้กระบี่
กระบี่สังหารในมือขยับแสงสีทองวูบวาบ ซูหมิงแทงไปข้างหน้าแบบไม่ใส่ใจ ทันทีที่กระบี่ทะลวงอากาศไปข้างหน้า ก็มีแรงสูบรุนแรงระเบิดออกมาจากตัวกระบี่
นี่ไม่ใช่พลังของตัวกระบี่เอง แต่คือการแทงของซูหมิงที่คล้ายจะสอดคล้องกับกฎของฟ้าดินบางอย่าง จึงเกิดการแปรเปลี่ยนพิลึกเล็กน้อย ส่งผลให้จุดที่กระบี่ผ่านไปกลายเป็นใจกลางของโดยรอบ ทำให้ทุกอย่างหรือกระทั่งจิตสัมผัสกับกลิ่นอายพลังต้องถูกสูบเข้ามาในการแทงครั้งนี้
ปราณกระบี่หลายหมื่นเล่มรอบๆ พลันบิดเบี้ยวแล้วถูกเปลี่ยนทิศทางพร้อมกัน แต่ละอันถูกสูบตรงมายังตัวกระบี่ ราวกับว่าเส้นตรงที่กระบี่ลากผ่านเปิดเป็นหลุมดำที่กลืนกินทุกสิ่งอย่างได้
ทว่า ปราณกระบี่ซึ่งเกือบจะเป็นของจริงที่บินออกมาจากรอยแยกเก้าจุดบนแผ่นดินกลับสลายไปเล็กน้อย ครั้นเกิดการแปรเปลี่ยนระหว่างมายากับของจริงแล้วก็ส่งเสียงร้องกระบี่แสบแก้วหู มันไม่เปลี่ยนทิศทาง แต่กลับตรงมาหาซูหมิง ชั่ววินาทีเดียวก็ห่างจากเขาไปไม่ถึงสิบจั้ง กระบี่เก้าเล่มนี้เข้ามาใกล้พร้อมกัน และยังแผ่กระจายแรงกดดันแก่กล้าประหนึ่งทำลายล้างได้ทุกสิ่ง
หลังจากแทงกระบี่ไปแล้ว ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง มือขวาที่ถือกระบี่สังหารคลายออกเล็กน้อย ไม่ได้กำเอาไว้แน่น แต่ตอนที่กระบี่เก้าเล่มเข้ามาใกล้ เขาสะบัดข้อมือ ลากกระบี่สังหารจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง วนจนครบหนึ่งรอบ!
ตอนที่มองไปหลังจากเขาหมุนกระบี่ในมือตรงหน้าแล้ว ก็เกิดเป็นวงกลมกระบี่ที่รวมขึ้นจากเศษเสี้ยวเงากระบี่นับไม่ถ้วน ตามการกวัดแกว่งกระบี่ของซูหมิง
มองไปแล้วมันคือวงกลมกระบี่ มองไปอีกครั้งมันกลับเป็นวิชาค่ายกลกระบี่ เหมือนรวมเป็นเกราะกระบี่ปกป้องซูหมิงจากด้านหน้า ก่อนเข้าปะทะกับกระบี่บินเก้าเล่มที่กำลังตรงเข้ามา
เสียงปะทะกันของกระบี่ดังขึ้น สุดท้ายกลายเป็นคลื่นเสียงกระจายออก กระบี่ของจริงเก้าเล่มนั้นสลายหายไปในทันที ซูหมิงยืนอยู่บนที่ราบด้วยสีหน้าเฉยชา พลางใช้กระบี่ในมือวาดเป็นเส้นโค้งงดงาม เริ่มจากทางด้านล่างซ้าย นัยน์ตาเขาเป็นประกายเย็นชา ความชั่วร้ายเผยอยู่ในนั้น
ความชั่วร้ายกับการวาดเส้นโค้งด้วยกระบี่จากซ้ายล่าง ให้ความรู้สึกว่าเขากำลังสะสมพลังอยู่
เหมือนกับคืนก่อนเกิดพายุฝนกระหน่ำ คล้ายกับความเงียบก่อนภูเขาไฟปะทุ ราวกับสัตว์ร้ายโบราณที่มีท่าทางฮึกเหิมก่อนจะเขมือบฟ้าดิน อีกทั้งในยามนี้ ฟ้าดินทั้งหมดรอบๆ หมุนโคจร และปรากฏเค้าลางว่าจะหยุดนิ่ง แรงกดดันที่ไร้รูปปกคลุมโดยรอบอย่างเงียบเชียบ ต้นตอทุกอย่างมาจากการที่ซูหมิงลากกระบี่เป็นเส้นโค้ง
“กระบี่มีสิบสามรูปแบบ ข้าเข้าใจเพียงสี่รูปแบบ แบ่งเป็นดีด แทง หมุน ตัด…แต่มันก็เพียงพอจะทำลายค่ายกลนี้แล้ว!” ช่วงที่ซูหมิงเอ่ยเสียงเบา กระบี่ที่วาดจากซ้ายล่างพลันลากขึ้นไปทางขวาบน
ลากเส้นจากซ้ายล่างเชื่อมกับขวาบน ปรากฏอย่างชัดเจน นี่คือการตัด ใช้ความคมของกระบี่ตัดปราการที่ขวางหน้าทุกอย่าง
หนึ่งกระบี่สะบัดออกไป พลันเกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น มันแฝงไว้ด้วยการแปรเปลี่ยนกฎบางอย่างของโลก ชั่วขณะที่ตัดออกไป ก็มีเสียงร้องตื่นเต้นของกระบี่แว่วมาจากกระบี่สังหาร ภายในเสียงร้องกระบี่นี้มีความฮึกเหิมและตื่นเต้น นั่นคือการยอมรับทุกอย่างของกระบี่เล่มนี้ เพราะมีเพียงวิธีใช้กระบี่แบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้กระบี่สังหารระเบิดพลังน่าสะพรึงกลัวได้อย่างแท้จริง!
หากใช้เป็นกระบี่บิน ด้วยความที่ไม่มีใครกุมมันไว้ จึงไม่มีทางใช้วิธีการตัดได้ นอกจากพวกแทงกับฟันแล้วก็ไม่มีความปราดเปรียวอื่นๆ
กระบี่สังหารมีจิตวิญญาณ ก่อนหน้านี้ถูกซูหมิงกำราบมันจำต้องยอม แต่จะเห็นได้ว่าพอยอมศิโรราบก็ยังมีการแว้งกัดอยู่ ทว่าจนถึงตอนนี้ หลังจากที่มันส่งเสียงร้องกระบี่ จิตวิญญาณในกระบี่สังหารก็ยอมรับซูหมิงอย่างแท้จริง เพราะมันรู้สึกว่าเมื่ออยู่ในมือซูหมิง การแทงและการหมุนเมื่อครู่ โดยเฉพาะการตัดสามรูปแบบ สามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์ กระทั่งเกินกว่าพลังของตัวมันไป
พลังนี้ทำให้มันร่างสั่นและตื่นเต้น ทำให้รู้สึกถึงการชะล้างและความเข้าใจ ประหนึ่งว่าตนเป็นกระบี่ก็ควรจะปล่อยพลังแบบนี้
ฟ้าดินส่งเสียงดังสนั่น หลังจากซูหมิงใช้การตัดสร้างเป็นรอยกระบี่โค้ง มวลอากาศตรงหน้าเขาก็เกิดรอยฉีกขึ้น รอยฉีกแยกลุกลามออกไปตรงหน้า จุดที่เคลื่อนผ่านฟ้าดินจะฉีกออก อากาศแหลกสลาย รอยฉีกแยกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกวาดไปไกลพันลี้จนถึงยอดเขาสำนักชุมนุมเซียนแล้วจึงเกิดเสียงระเบิดรุนแรงยิ่งกว่าเดิม รอยกระบี่ที่ซูหมิงตัดออกไปลากผ่านยอดเขาสำนักชุมนุมเซียน
ครั้นลากผ่านยอดเขาไปแล้วก็ยังลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเกิดเป็นรอยแยกยาวหลายพันจั้งบนแผ่นดิน วนรอบค่ายกลกระบี่ของสำนักชุมนุมเซียน ก่อนระเบิดออกเป็นช่องโหว่ยักษ์
หลังจากเกิดช่องโหว่ขึ้น ค่ายกลกระบี่คุ้มกันภูเขาของสำนักชุมนุมเซียนพังทลายลงทันใด ค่ายกลพินาศลงกลายเป็นเศษเสี้ยวปราณกระบี่นับไม่ถ้วนม้วนกระเด็นถอย สร้างพายุหมุนม้วนตลบห่างออกไป และยังส่งเสียงครึกโครมสั่นสะเทือนโดยรอบ
ขณะเดียวกัน วินาทีที่ค่ายกลกระบี่สำนักชุมนุมเซียนพังทลายลง ยอดเขารูปทรงกระบี่ของสำนักชุมนุมเซียนสั่นไหว ท่ามกลางเสียงโครมคราม ตรงกลางยอดเขาค่อยๆ เอียงลงมา จนกระทั่งครึ่งยอดเขาล้มลงไปทางซ้าย ตกลงสู่พื้นดิน ส่งผลให้แผ่นดินสั่นสะเทือนและเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เศษฝุ่นม้วนตลบแผ่กระจายออกเป็นวงกว้าง เส้นผมและอาภรณ์ซูหมิงถูกพายุจากยอดเขาถล่มพัดจนสะบัด ทว่าสีหน้ากลับไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ยังคงถือกระบี่สังหารในมือ มองไปอย่างเย็นชา
ภูเขาสำนักชุมนุมเซียนตอนนี้พังลงครึ่งหนึ่งแล้ว ตรงจุดที่ตัดขาดเรียบเนียน ตรงนั้นก็คือจุดที่รอยกระบี่ของซูหมิงลากผ่านไป
ภูเขากระบี่ ขาดสะบั้น!
กระบี่สังหารในมือซูหมิงสั่นไหว มันส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น ตรงปลายกระบี่แผ่กลิ่นอายสังหารเหมือนกำลังกระหายโลหิต กระหายที่จะใช้รูปแบบการใช้กระบี่นี้เพื่อดื่มกินโลหิตสดไปชั่วชีวิต
“กระบี่ อาวุธเจ้าสังหาร” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองสำนักชุมนุมเซียนขาดครึ่ง ก่อนเดินไปอย่างช้าๆ วันนี้เขามาคนเดียว จะทำลายสำนักนี้และช่วยศิษย์พี่รองในสำนักชุมนุมเซียนออกมา
ด้านหลังซูหมิง ชาวเผ่าชะตาชีวิตมองท่านโม่ของตนด้วยสีหน้าตื่นเต้น พลานุภาพของกระบี่เมื่อครู่สั่นสะเทือนฟ้าดิน เพียงพอจะสร้างความตื่นตะลึงกับผู้พบเห็นทุกคน
ซูหมิงก้าวเดินเหมือนช้า แต่ความจริงแล้วในทุกย่างก้าว ตัวเขาจะเลือนรางเล็กน้อย ตอนที่ชัดเจนอีกครั้งก็ห่างออกไปร้อยจั้งแล้ว หากมองจากด้านหลังคงไม่รู้สึกแปลกอะไรนัก แต่หากมองจากด้านหน้าจะเกิดความรู้สึกเวียนหัวตาลายทันที
เพราะเห็นๆ อยู่ว่าห่างไปหลายพันจั้ง ทว่าพริบตาเดียวกลับเหมือนดวงตาลวงหลอกตัวเอง ภายใต้สภาวะที่ทุกสิ่งโดยรอบหยุดนิ่ง ร่างเงาซูหมิงพลันเลือนรางและชัดเจนในทันที ทำให้คนสำนักชุมนุมเซียนจำนวนมากที่กำลังมองเขาอยู่เวียนหัว
ความรู้สึกเวียนหัวเพิ่งเริ่ม ซูหมิงก็มายืนอยู่ใต้ยอดเขาซึ่งขาดครึ่งของสำนักชุมนุมเซียนแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองยอดเขากระบี่หัก สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วปล่อยออกมา
เมื่อซูหมิงหายใจ บนน่านฟ้าเหนือสำนักชุมนุมเซียนพลันมีหิมะโปรยปรายลงมา หิมะล้วนแผ่ไอหนาวไร้ที่สิ้นสุด ชั่วพริบตาเดียวก็ปกคลุมทั่วในระยะหมื่นลี้
เกล็ดหิมะอยู่กันแน่นขนัด โปรยปรายลงพื้นดินพร้อมกัน หากมองไกลๆ จะเหมือนกับผนึกยักษ์ครอบสำนักชุมนุมเซียนเอาไว้ภายใน!
นี่คือวิชาการสร้างชะตาของซูหมิง เหมันต์หนาวเหน็บ
ใช้วิชานี้ผนึกโดยรอบ ทำให้คนสำนักชุมนุมเซียนในสำนักหนีไปไม่ได้ และเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นคุกขุมขัง!
“วันนี้ข้าซูหมิงมาที่นี่ จะทำลาย…สำนักชุมนุมเซียน” ซูหมิงกล่าวเนิบๆ ช่วงที่เสียงดังกึกก้อง ภายในหิมะนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงสะท้อนของซูหมิงออกมา หลังจากเสียงเหล่านั้นผสานรวมเข้าด้วยกันก็กลายเป็นเหมือนเสียงตะโกนของผืนฟ้า สั่นสะเทือนยอดเขาครึ่งหนึ่งของสำนักชุมนุมเซียน
ขณะเดียวกับที่เอ่ยคำ ซูหมิงก้าวเดินขึ้นบันไดยอดเขาสำนักชุมนุมเซียนตรงหน้า ทันทีที่เหยียบเท้าลง ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาจากในสำนักชุมนุมเซียน ปราณกระบี่เหล่านั้นบินออกมาพร้อมกัน กลายเป็นสายรุ้งสองพันสาย
ภายในสายรุ้งสองพันสายคือศิษย์สำนักชุมนุมเซียนสองพันคน พวกเขาตาแดงก่ำ ห้อเหยียดเข้าไปหาซูหมิงพร้อมกับปราณกระบี่ ด้านหลังพวกเขามีเสียงคำรามดังกังวาน เป็นศิษย์สำนักชุมนุมเซียนที่มากกว่าบินตรงมาหาเขา
กระบี่ในมือเขาส่งเสียงร้อง ความกระหายโลหิตสดทำให้มันสั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงร้องเหมือนอ้อนวอนขอให้ซูหมิงใช้มันสังหารอย่างเต็มที่
ซูหมิงมองคนหลายพันตรงเข้ามาใกล้ นัยน์ตาเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนก้าวเดินอีกก้าวหนึ่ง ขั้นบันไดด้านหลังพลันแหลกสลายเป็นฝุ่นธุลี
ไม่มีการกล่าวอะไรให้มากความ จังหวะเดียวกับที่ก้าวเดินไป คนสำนักชุมนุมเซียนหลายพันคนก็เข้ามาใกล้แล้ว ซูหมิงฟันกระบี่ไปข้างหน้า ศีรษะคนหนึ่งลอยขึ้น โลหิตย้อมตรงปลายกระบี่ สะเก็ดกระบี่แผ่กระจายออกรอบๆ ศีรษะหลายคนลอยขึ้นอีกครั้งในทันที ขณะเดียวกับที่โลหิตบดบังสายตาระหว่างซูหมิงกับเผ่าเซียน เขาเดินอีกสามก้าว สี่ก้าว ห้าก้าว…
เขาเดินขึ้นไปอย่างสงบนิ่ง ข้างกายเป็นเซียนจำนวนมาก และยังมีเสียงระเบิดจากปราณกระบี่ เขาไม่หยุดกระบี่ในมือแม้แต่น้อย ภายใต้เสียงร้องกระหายเลือดของกระบี่ มีศีรษะคนตกลงพื้นนับไม่ถ้วนแล้วกลิ้งลงเขาไป