ตอนที่ 741 ทำลายสิบเก้า
ทาสเต๋าสามคนซึ่งกำลังสู้กับมังกรเหลืองบนฟ้า ตอนนี้เกิดเสียงโครมครามอย่างต่อเนื่อง เขาพยายามออกจากแสงเหลือง ทว่าเสียงคำรามแฝงไว้ด้วยความเหนื่อยล้าของมังกรเหลืองกลับทำให้แสงเหลืองรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่ามังกรเหลืองใช้พลังทั้งหมดแล้ว
อวี่เซวียนมีใบหน้ามัวหมอง กลิ่นอายมรณะยมโลกแผ่กระจายมาจากตัวนางเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม วนเวียนอยู่รอบๆ จึงมองเห็นข้างในไม่ชัด ทว่าก็มีเสียงระเบิดดังมาอย่างต่อเนื่อง จึงรู้ได้ว่าอวี่เซวียนกับทาสเต๋าภายในกำลังสู้กันอย่างดุเดือด
แต่ถึงอย่างไรอวี่เซวียนก็ไม่ได้มีขั้นพลังก้าวที่สาม เม็ดยาที่นางกินไปมีผลย้อนกลับสูงมาก การต่อสู้ในตอนนี้กล่าวได้ว่านางกัดฟันยืนหยัดอย่างเต็มที่แล้ว
นางไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงเห็นเช่นนี้ หากเป็นการค้าขายธรรมดานางจะไม่ยืนหยัดเช่นนี้ ทว่าครั้งนี้ทุกครั้งที่นางกำลังจะทอดทิ้ง อยากจะให้มังกรเหลืองพานางไปคนเดียว ในความคิดจะผุดขึ้นมาเป็นภาพรอยยิ้มอย่างมีความสุขของซูหมิงตอนอยู่ด้วยกันกับศิษย์พี่ของเขา
รอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ทำให้อวี่เซวียนรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก และอาลัยอาวรณ์
‘เซวียนเซวียน รู้หรือไม่ว่าแม่ตั้งชื่อนี้ให้เจ้ามีความหมายว่าอย่างไร?’ ในความคิดอวี่เซวียนผุดขึ้นมาเป็นภาพหนึ่งในใจ เป็นความทรงจำล้ำค่าที่สุด นั่นคือความทรงจำที่อยู่กับนางเพียงหนึ่งเดียวในค่ำคืนอันโดดเดี่ยวทุกวัน ภายในบ้านอันหนาวเหน็บ
‘เด็กดี อย่าโกรธเลย รอแม่ทำชุดคลุมหนังนี้เสร็จก่อนแล้วเจ้าค่อยออกไปทะเลาะกับเด็กคนอื่น จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบด้วย’
‘แม่จะไปแล้วนะ ไปที่ที่ห่างไกลมากๆ เซวียนเซวียนไม่ต้องร้อง…จำความหมายของชื่อเจ้าที่แม่พูดกับเจ้าก่อนหน้านี้ไว้ให้ดีๆ ต้องเข้มแข็ง อย่าเสียใจ…’ อวี่เซวียนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดขณะกำลังสู้อยู่ถึงปรากฏเป็นความทรงจำล้ำค่าที่สุดในชีวิต
‘บางทีความรู้สึกอบอุ่นนั้นทำให้ข้าชอบที่นี่ ทำให้ข้า…..ไม่อยากจากที่นี่ไป’ ตรงหางตาอวี่เซวียนมีน้ำตาไหล
“ท่านแม่…” นางพึมพำเสียงเบา ไม่สนใจผลย้อนกลับต่อร่างกายที่ค่อยๆ ชาเลย แต่ให้ตนฝืนยืนหยัดไม่ให้ทาสเต๋าออกจากกลิ่นอายมรณะยมโลก
ด้านล่างสนามรบมังกรเหลืองกับอวี่เซวียน บนทะเลนอกอาคมคุ้มกันร้อยลี้ยอดเขาลำดับเก้า หลังจากทวนฝังอสูรส่งเสียงระเบิด ก็เผยเป็นร่างเงาของทาสเต๋าสิบเก้ากับเต้าหยวน
“เจ้าเป็นใคร!” ครั้นทาสเต๋าสิบเก้าลงมายืนบนพื้นดินหมานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเต้าหยวนในทันที แต่จ้องซูหมิง หอบหายใจพลางกล่าวเนิบๆ
ในสายตาเขา ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้มีแผนการหยั่งลึกซึ่งพบเห็นได้ยากในชีวิตเขา อีกฝ่ายเสียเปรียบขนาดนี้ยังทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ รู้กันดีว่าขั้นพลังอีกฝ่ายเพียงก้าวที่สองเท่านั้น ทำได้ถึงขนาดนี้ก็เพียงพอจะยืนยันความแกร่งของอีกฝ่ายแล้ว
คนแบบนี้สำนักดาราสัจธรรมควรจะรับเอาไว้ ไม่ใช่มาสู้กันถึงตายแบบตอนนี้ ทว่าทุกอย่างกลับเป็นไปไม่ได้เลยเพราะความชอบและการกระทำของเต้าหยวนด้านหลัง
‘บุคคลนี้จำเป็นต้องตาย จะให้โอกาสเขาเติบโตไม่ได้ บนโลกหมานเขาสู้กับก้าวที่สองได้ เกรงว่าภายภาคหน้าคงมีสักวันหนึ่งที่มีโอกาสสูงมากจะกลายเป็น…..เลี่ยซานซิวคนที่สอง!’ นัยน์ตาทาสเต๋าลอบเป็นประกายยากจะตรวจจับ ตอนที่กำลังโคจรขั้นพลังอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาอยู่นั้นก็ประสานมือคารวะซูหมิง
“เรื่องนี้บางทีอาจเข้าใจผิด…” ขณะกำลังกล่าว เต้าหยวนข้างๆ ก็ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธทันที
“ทาสเต๋าสิบเก้า หุบปากเดี๋ยวนี้ ข้าสั่งให้เจ้าลงมือสังหารมัน ฆ่ามัน!” เต้าหยวนจ้องซูหมิงด้วยความคลุ้มคลั่ง ชีวิตนี้เขาบาดเจ็บเพียงสองครั้ง ครั้งแรกเกิดจากทวนและกระบี่ของซูหมิง ครั้งที่สอง…ก็ยังเป็นเพราะซูหมิง นี่ทำให้ความแค้นต่ออีกฝ่ายไม่อาจใช้เหตุผลมาอธิบาย
คนเสื้อคลุมดำทาสเต๋าสิบเก้าหน้าเปลี่ยนสี แต่กลับไม่สนใจเต้าหยวน เพียงยิ้มให้ซูหมิง ขณะกำลังประสานมือคารวะและจะเอ่ยขึ้นนั้น ซูหมิงกลับมีนัยน์ตาแวววาว โอสถมอบจิตในร่างกายหลอมละลายอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้จึงเดินหน้าไปอย่างเงียบๆ
เขามองออกนานแล้วว่าทาสเต๋ากำลังถ่วงเวลา อีกฝ่ายบาดเจ็บไม่ว่า แต่เพราะเสื้อคลุมดาราถูกทำลายแล้ว ขั้นพลังจึงถูกกฏโลกหมานจำกัดอย่างรุนแรง นี่คือสิ่งที่เขาคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้ทาสเต๋าเลยจะถ่วงเวลา ด้านหนึ่งเพื่อรักษาบาดแผล อีกด้านหนึ่งก็เพื่อรอให้ทาสเต๋าอีกสี่คนมาช่วย
เรื่องนี้ซูหมิงมองแวบเดียวก็รู้แล้ว เมื่อครู่ที่เขาไม่ลงมือและมอบเวลาให้ทาสเต๋าหลายลมหายใจ นั่นเป็นเพราะจะให้ร่างกายหลอมละลายโอสถมอบจิต ตอนนี้มันละลายแล้ว เขาจะมอบเวลาให้อีกฝ่ายอีกได้อย่างไร
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงห้อเหยียดเข้ามาอย่างเงียบๆ ทาสเต๋าสิบเก้าหน้าเปลี่ยนสี รู้ว่าอีกฝ่ายมองตนออก นัยน์ตาสองข้างขยับประกาย แล้วยกมือขวาคว้าอากาศ พลันมีพายุคลั่งถาโถมเข้ามารวมเป็นสีดำเส้นหนึ่งในมือ นั่นคือแส้ยาวที่รวมขึ้นจากสายลม
เขาเคลื่อนตัวแล้วตวัดแส้ยาวไปหาซูหมิง ในเวลาเดียวกันก็ทำสัญลักษณ์มือซ้ายชี้ไปข้างหน้า ฉับพลันนั้นมีฟ้ากระจ่างดาวมายาปรากฏตรงหน้า มันมีขนาดสามร้อยจั้ง เปล่งแสงดาราสว่างจ้าตา
แต่ที่ชัดเจนอย่างยิ่งคือเขาในตอนนี้ไม่ได้มีพลังในก้าวที่สาม พลังจำกัดมหาศาลไร้รูปกดทับบนตัวเขา พอไม่มีเสื้อคลุมดาราขวางเอาไว้ ขั้นพลังทาสเต๋าผู้นี้จึง…เหลือเพียงก้าวที่สองตอนกลางเท่านั้น
ข้างกายเขาคือเต้าหยวนผู้ไม่รู้อะไรเลย และกำลังร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทว่าพริบตาเดียวเสียงตะโกนก็เงียบไป แล้วแทนที่ด้วยเสียงสูดลมหายใจ ก่อนเปล่งเสียงร้องแหลม
แม้แต่ทาสเต๋ายังหน้าเปลี่ยนสีอย่างสมบูรณ์
เพราะตรงหน้าเขา หลังจากซูหมิงเดินมาสามก้าวแล้ว ร่างกายก็พองบวมขึ้น มวลอากาศรอบๆ บิดเบี้ยว พริบตาเดียวซูหมิงที่เดินมาก้าวที่สี่ก็เปลี่ยนเป็นจู๋จิ่วอินร่างงูที่มีความสูงพันจั้ง!
ร่างกายใหญ่ยักษ์ เกล็ดสีแดงฉาน มีพลังเต็มไปด้วยแรงกดดัน บวกกับความรู้สึกของผู้ดูดวิญญาณเฉพาะของจู๋จิ่วอิน นี่ก็คือการเปลี่ยนแห่งมอบจิตด้วยโอสถมอบจิต!
จู๋จิ่วอิน!
วินาทีนี้เสียงคำรามสะเทือนนภาดังมาจากปากจู๋จิ่วอิน ซูหมิงในร่างจู๋จิ่วอินตอนนี้ใช้ขั้นพลังเผ่าหมานมากำหนดไม่ได้อีก เพราะเขามีพลังไร้ขีดจำกัด และยังมีอภินิหารพรสวรรค์ของจู๋จิ่วอินอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงครึกโครมฉีกมวลอากาศดังสนั่นพร้อมกับจู๋จิ่วอินใช้หางฟาดไปยังทาสเต๋าด้วยพลังมหาศาล
เสียงระเบิดดังกังวาน หางจู๋จิ่วอินของซูหมิงปะทะกับแส้สายลมโดยพลัน ท่ามกลางเสียงระเบิด แส้เส้นนั้นสลายไปทันที ในเวลาเดียวกัน หางจู๋จิ่วอินก็ยังฟาดใส่แสงดาราสามร้อยจั้ง
ช่วงที่เสียงระเบิดซึ่งดังสนั่นยิ่งกว่าเดิมแผ่กระจาย ดาราสามร้อยจั้งแหลกเป็นเสี่ยงๆ นอกจากนี้หางจู๋จิ่วอินยังกลายเป็นแผลเหวอะหวะ ทว่าขณะกำลังสลายไปกลับยังคงฟาดไปยังทาสเต๋ากับเต้าหยวนด้านหลัง
“จู๋จิ่วอิน!” ทาสเต๋าหน้าเปลี่ยนสีพลางคว้าตัวเต้าหยวนด้านหลังและพาถอยไปอย่างเร็วรี่ ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงคำรามแหลมในฉับพลัน
เสียงคำรามนี้แฝงไว้ด้วยอภินิหาร ทำให้ระหว่างที่เขาถอยไป มวลอากาศตรงหน้าบิดเบี้ยวกลายเป็นระลอกคลื่นวงกลมประดุจผิวน้ำ หมายจะขวางหางยักษ์จู๋จิ่วอินร่างแปลงซูหมิง
เสียงโครมครามดังสะเทือนนภา หางจู๋จิ่วอินฟาดทำลายระลอกคลื่นผิวน้ำมายาทั้งหมด ทั้งยังฟาดทาสเต๋าที่กำลังถอยร่นอยู่ด้วย
ทาสเต๋าเบิกตากว้าง ขณะกระอักโลหิตกองใหญ่ เขาก็อาศัยแรงกระแทกมหาศาลนี้กระชากเต้าหยวนให้ถอยไปเร็วยิ่งกว่าเดิม ยามนี้เขาตื่นกลัวในใจ เกิดความกลัวต่อศัตรูเผ่าหมานตรงหน้าคนนี้ อภินิหารและของวิเศษของอีกฝ่ายมาไม่หยุด มีความคิดหยั่งลึก มีการวางแผนอย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังเปลี่ยนร่างเป็นจู๋จิ่วอินสัตว์ร้ายทำลายล้างโลกได้อีก
ขนาดเขายังเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเต้าหยวน เต้าหยวนหวาดกลัวจนใกล้จะขวัญหนีดีฝ่อ เขามองร่างใหญ่ยักษ์จากซูหมิงด้วยใบหน้าขาวซีด ในใจพลันเกิดความรู้สึกนึกเสียใจภายหลัง
ซูหมิงรู้ว่าเวลาแปลงร่างจู๋จิ่วอินจะอยู่นานไม่ได้ มิหนำซ้ำภายในยังบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้พอฟาดหางไปแล้ว ร่างใหญ่ยักษ์ก็เงยหน้าขึ้นอ้าปากกว้างออกแรงสูบ ตั้งใจจะใช้อภินิหารพรสวรรค์ของจู๋จิ่วอินกินทาสเต๋ากับเต้าหยวน
ทว่าวินาทีที่จู๋จิ่วอินอ้าปากกว้างนั้นกลับมีเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นดังมาจากด้านหลัง นั่นคือ……ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดที่กำลังสู้กับอวี่เซวียน!
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดขยับวูบไหวตรงมาหาซูหมิง อวี่เซวียนด้านหลังกระอักเลือด ใบหน้าขาวซีดราวกับศพ ร่างโซเซถอยไป นางพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ยื้อเวลาทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดได้ไม่น้อย นี่คือขีดจำกัดของนางแล้ว
กระทั่งยังฝืนชีวิต แต่…..ก็ขวางไว้ไม่ได้อีก
เวลานี้ขณะถอยไป อวี่เซวียนกระอักเลือดอีกครั้ง ในดวงตานางมีน้ำตา สีหน้าเหม่อลอยเล็กน้อย มีแค่นางที่ได้ยินเสียงนุ่มนวลของมารดาในความทรงจำ
‘เซวียนเซวียน เจ้าต้องเข้มแข็ง……แม่อยู่ที่ที่ไกลมาก จะขออวยพรให้เจ้า…..ขออวยพรให้ลูกสาวของแม่มีความสุขไปชั่วชีวิต……’
“ท่านแม่…..” อวี่เซวียนพึมพำเสียงเบา
หากไม่ใช่เพราะตอนนี้ทาสเต๋าสิบเก้ากับเต้าหยวนมีอันตราย ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดที่พุ่งมาจากจำกัดกลิ่นอายพลังมรณะยมโลกจะต้องจับอวี่เซวียนก่อนแน่นอน ทว่าตอนนี้เขาเป็นห่วงเต้าหยวนเลยไม่ได้สนใจนาง เขาใช้ความเร็วสูงสุดมาปรากฏอยู่ข้างจู๋จิ่วอินร่างแปลงซูหมิงในพริบตา ก่อนยกมือขวาขึ้นทั้งมือขวาหายวับไป ถูกดาราเข้ามาแทนที่แล้วผสานรวมกับดาราบนเสื้อคลุม จากนั้นก็กดฝ่ามือไปทางจู๋จิ่วอิน
นัยน์ตาซูหมิงฉายแววบ้าระห่ำ เขาดำเนินแผนการทุกอย่างมาก่อนหน้านี้จนในที่สุดก็มีโอกาสนี้ ทว่าบางครั้งระหว่างแผนการกับการเปลี่ยนแปลงห่างกันเพียงเส้นเดียว ตอนนี้ฝ่ามือพุ่งมาด้านหลัง ซูหมิงเลยอ้าปากใช้พลังของจู๋จิ่วอินอย่างไม่ลังเล ภายใต้การสูบกินอย่างบ้าคลั่ง ร่างเต้าหยวนกับทาสเต๋าสิบเก้าก็ตรงเข้าไปในปากใหญ่ของจู๋จิ่วอินอย่างไร้การควบคุม
ทว่าทันใดนั้น ฝ่ามือของทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดกดตรงศีรษะจู๋จิ่วอิน
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังกึกก้อง ร่างทาสเต๋าสิบเก้ากลายเป็นสายรุ้งยาวถูกจู๋จิ่วอินกินเข้าไป ทว่าร่างจู๋จิ่วอินเองกลับกินเต้าหยวนไม่ทัน แหลกสลายเป็นชิ้นๆ ด้วยฝ่ามือไปก่อน
ครั้นร่างจู๋จิ่วอินสลายไป โอสถมอบจิตในร่างซูหมิงก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ก่อนเผยเป็นร่างเงาซูหมิงกระอักโลหิต ทั้งยังกระเด็นถอยไปข้างหลัง
“ฆ่ามัน ถลกหนังมัน ดึงกระดูกมันออกมา ผนึกวิญญาณของมัน ฆ่ามัน!” เต้าหยวนกลัวจนตัวสั่นอย่างแรง ร้องคำรามเสียงแหลมเล็ก
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดตาแดงก่ำ เขารู้สึกว่ากลิ่นอายพลังของทาสเต๋าสิบเก้าหายไป ความโกรธและเสียใจอบอวลอยู่ในกายและใจ ก่อนเคลื่อนตัวตรงไปหาซูหมิง