Skip to content

สู่วิถีอสุรา 828

ตอนที่ 828 ความยึดมั่น

สำหรับคนอื่นแล้ว นี่คือความคิดบ้าคลั่งไม่ปกติอย่างแน่นอน!

สิ่งนี้อยู่ในความคิดซูหมิง เตรียมการมานานหกสิบกว่าปี จนถึงตอนนี้ในที่สุดเขาก็เริ่มแผนการ ครั้งนี้สำเร็จหรือไม่ไม่ใช่จุดสำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องลองถึงจะมีโอกาสสำเร็จ

นอกจากนี้ซูหมิงยังต้องยืนยันบางอย่างถึงจะทำให้ความคิดบ้าคลั่งนี้ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

‘การยึดร่าง…ตอนข้ายึดร่างครั้งแรกก็ถูกหงส์งูเพลิงบดขยี้ร่างกาย หลังจากวิญญาณถูกสูบเข้าปากมันไปแล้ว การยึดร่างก็สำเร็จได้เอง

ทว่าถึงอย่างไรหงส์งูเพลิงก็เป็นสัตว์ระดับล่าง เอามาเทียบกับต้นไม้ทองนี้ไม่ได้ ลำพังเพียงลำต้นมันก็กินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่งดาวแล้ว แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า หากไม่มีพลังต้นกำเนิดจิต การที่คนนอกจะทะลวงผ่านทะเลสีทองนี้เป็นเรื่องยากยิ่ง จะทำสำเร็จหรือไม่…’

นัยน์ตาซูหมิงฉายแววแน่วแน่ สายตามองดาวแท้จริงที่ไกลออกไป พุ่งทะยานอยู่ในทะเลสีทองด้วยความรวดเร็ว

เขาไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เว้นเสียแต่จะยอมถูกขังอยู่ที่นี่สองหมื่นกว่าปี อีกทั้งยังต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดคิดต่างๆ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว…เขาก็ได้แต่เลือกทางนี้ทางเดียว

‘ต้นไม้นี้ทรงพลังยิ่งนัก ทว่า…ข้าจะต้องทำสำเร็จ หากยึดร่างต้นไม้นี้ได้ ชีวิตข้าจะเปลี่ยนไป โชคชะตาจะเปลี่ยนไปจนน่าตะลึง ทุกอย่างของข้า…จะแตกต่างไปในวินาทีที่ทำสำเร็จ!’ ซูหมิงหัวใจเต้นโครมคราม ความรู้สึกรุนแรงทำให้เลือดในกายไหลเวียนเร็วขึ้น และยังกลายเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้า

ถ้าจะบอกว่าการยึดร่างครั้งนี้เป็นเพราะซูหมิงไม่อยากถูกขังอยู่ที่นี่สองหมื่นกว่าปี และไม่อยากเผชิญหน้ากับเหตุไม่คาดคิดละก็ ไม่สู้บอกว่าเป็นการต่อต้านทุกอย่างต่อโชคชะตาจะดีกว่า มิหนำซ้ำส่วนลึกในใจเขายังมั่นใจยิ่งว่า ครั้งนี้เป็นโชควาสนาครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ตนเคยเจอมา!

โชควาสนาครั้งนี้ไม่อาจบรรยายได้ แต่ทว่า….ระดับความยากของมันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง จุดนี้เขารู้ดีแก่ใจ

ความแน่วแน่ในแววตาเข้มข้นขึ้น ร่างพุ่งทะยานไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงลากยาวดังกังวาน เขาพุ่งอยู่ในทะเลสีทองด้วยความเร็วราวกับดาวตก

แรงกดดันกดทับลงมา อักขระซ้อนทับในดวงตาขวาขยับวิบวับ อักขระสามพันตัวพลันปรากฏขึ้น วนอยู่รอบตัวเขาจนกลายเป็นพายุคลั่งอักขระ เสียงโครมดังกระจายออกไป พายุคลั่งอักขระม้วนซูหมิงเร็วขึ้นอีก ราวหนึ่งก้านธูปต่อมา ดาวแท้จริงก็ห่างจากเขาเพียงหนึ่งล้านจั้งแล้ว

ทว่าตอนนี้อักขระสามพันตัวเหลือเพียงเจ็ดตัว ดวงตาขวาซูหมิงขยับประกายอีกครั้ง มีอักขระอีกสองพันตัวโผล่ขึ้นมา หลังจากผ่านประสบการณ์การบุกทะเลทองมาสามครั้ง เขาสงบนิ่งกว่าครั้งแรกมาก อักขระสองพันตัวโผล่ขึ้นมา ระหว่างที่เกิดพายุคลั่งขึ้นอีกครั้ง เขาก็โคจรพลังทั้งหมดในร่างกาย

โครม!

ซูหมิงพุ่งออกไปภายใต้การปะทุความเร็ว ความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่พายุคลั่งอักขระรอบที่สองสลายไปจนเหลือไม่ถึงหลายสิบตัว เขาก็ขึ้นมาอยู่บนดาวแท้จริง

นัยน์ตาฉายแววตื่นเต้น ครั้งนี้เขาใช้อักขระไปเกือบห้าพันตัว สุดท้ายก็เข้ามาอยู่นอกชั้นบรรยายกาศของดาวนี้ได้ เขาจำได้ว่าครั้งก่อนตอนที่มาถึงที่นี่ อักขระเหลือเพียงห้าตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้…อักขระตัวใหญ่ข้างกายมีมากกว่าหลายสิบตัว อธิบายได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องพูดถึงอักขระในดวงตาขวา ตอนนี้ยังมีอักขระอีกสองพันตัว

ซูหมิงพลันวูบไหวกายอย่างไม่ลังเล พาอักขระตัวใหญ่หลายสิบตัวเข้าไปในชั้นบรรยากาศของดาว พายุรุนแรงดุจคมมีด อักขระจึงสลายไปทีละตัว ร่างกายเขาเองก็ถึงขีดจำกัดเช่นกัน ตอนที่เห็นว่าร่างกายจะฉีกขาด อักขระในดวงตาขวาขยับประกายอีกครั้ง

อักขระสองพันตัวปรากฏขึ้นทั้งหมด มันวนเวียนเป็นพายุคลั่งรอบตัว ม้วนร่างเขาห้อเหยียดไปตลอดทาง เสียงอึกทึกกังวานไม่หยุด ครู่ต่อมาตอนที่เขาพุ่งออกจากชั้นบรรยากาศ อักขระข้างกายยังมีเหลืออีกไม่น้อย ร่างกายยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก ถึงเขาในตอนนี้ยังไม่ใช่สภาพสมบูรณ์เต็มร้อย แต่ก็ดีกว่าหลายครั้งก่อนมาก

โครม!

ซูหมิงพุ่งออกจากชั้นบรรยากาศ มายืนอยู่กลางฟ้าเหนือดาวแท้จริง ท้องฟ้าเป็นสีทอง แผ่นดินก็เป็นสีทอง ต้นไม้ทองใหญ่ยักษ์ไร้ที่เปรียบซึ่งกินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่งดาวตั้งตระหง่านอยู่กลางฟ้าดิน เทียบกับต้นไม้นี้แล้ว ร่างกายเขาเล็กจ้อยประดุจมดปลวก

บนต้นไม้มีร่างเงาคนในความทรงจำอยู่ราวกับดอกไม้ตูม ร่างเงาคนเหล่านี้กำลังยิ้มให้เขา รอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน เหมือนกำลังเรียกเขาให้เข้าไปหา

ตอนนี้เอง กิ่งไม้ที่ไม่มีดอกไม้ตูมพุ่งเข้ามาหาซูหมิงจากที่ไกลๆ ในพริบตา มันทะลวงมวลอากาศจนเกิดเสียงเล็กแหลมเสียดแก้วหู ทำให้อดตื่นตะลึงมิได้

ภาพนี้ซูหมิงคุ้นตาดี หลายครั้งก่อนหน้านี้เขาก็ถูกกิ่งไม้ตวัดเข้ามา ทำให้กาลเวลาย้อนคืน การทดสอบล้มเหลว

ครั้งนี้ดวงตาซูหมิงแวววาว เขาสูดลมหายใจเข้าลึก อักขระทั่วร่างพลันขยายออก และเข้าปะทะกับกิ่งไม้นั้นในทันที

ระหว่างเกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว อักขระทั้งหมดนอกตัวซูหมิงแหลกสลาย อ่อนแอจนเหมือนไม่มีแรงสวนกลับเมื่ออยู่ต่อหน้ากิ่งไม้ นี่เป็นเพียงหนึ่งในกิ่งไม้นับไม่ถ้วนของต้นไม้ใหญ่เท่านั้น ก็เห็นได้ถึงความแกร่งของต้นไม้แล้ว

เมื่ออักขระสลายไป กิ่งไม้ก็ตรงเข้ามาและสัมผัสร่างซูหมิง แต่ทันทีที่สัมผัส ตัวเขาพลันกลายเป็นเลือดเนื้อเหวอะหวะ และยังย้อนคืนกลับไป การย้อนเวลากลับมาอีกครั้งแล้ว

ทว่าทันใดนั้นเอง ขณะที่การย้อนเวลามาถึง กิ่งไม้สัมผัสร่างซูหมิง วิญญาณของเขาออกจากร่างนี้เป็นครั้งแรก ปล่อยให้ร่างแยกม้วนถอยไป วิญญาณที่คล้ายปราณไร้รูปกลุ่มหนึ่งพุ่งไปหากิ่งไม้

พลังแห่งเวลาไม่เพียงปะทะใส่ร่างแยกซูหมิง วิญญาณเขาก็อยู่ในการย้อนเวลาเช่นกัน ทว่าเขาเป็นชาวเผ่ายมโลก ย่อมมีพรสวรรค์การควบคุมเวลาเช่นกัน แทบเป็นชั่วขณะที่กาลเวลารบกวนวิญญาณเขา ก็มีพลังแห่งการย้อนเวลาแบบเดียวกันระเบิดมาจากวิญญาณ ระหว่างที่ต่อต้านกัน ในที่สุดวิญญาณเขาก็สัมผัสกับกิ่งไม้ได้

ซูหมิงหลอมรวมอยู่ในกิ่งไม้อย่างบ้าคลั่ง เขาเห็นโลกสีทอง โลกนี้เลือนราง มีเส้นใยนับไม่ถ้วน ตรงใจกลางเส้นใยที่ไม่รู้ว่ามีเท่าไรนี้ เขาเห็น…หัวใจสีทองดวงหนึ่ง!

หัวใจนั้นไม่เต้นเหมือนกับตายแล้ว มีเส้นใยสีทองโอบล้อม กลิ่นอายมรณะเข้มข้นแผ่มาจากหัวใจดวงนั้น ในกลิ่นอายมรณะมีความเน่าเปื่อยซึ่งตกตะกอนมาแต่โบราณกาล ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไรแล้ว

‘เร็ว เร็ว เร็ว!’ ซูหมิงร้องตะโกนในใจ วิญญาณเขาเคลื่อนไปตามกิ่งไม้อย่างรวดเร็ว ในความรู้สึกเขา เวลานี้เส้นใยนับไม่ถ้วนมีส่วนน้อยที่ถูกวิญญาณของตนปกคลุมแล้ว เขารู้สึกรางๆ ว่าเมื่อไรที่วิญญาณตนปกคลุมเส้นใยทั้งหมดไป เขาจะยึดร่างได้สำเร็จ

แต่ถึงอย่างไรการยึดร่างจะต้องมีการขัดขืนอย่างแน่นอน ยิ่งสำเร็จเร็วมากเท่าไรก็ยิ่งดี

เวลาผ่านไปทีละลมหายใจ พริบตาเดียวก็เจ็ดลมหายใจแล้ว แต่วิญญาณซูหมิงครอบคลุมเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เวลานี้เอง มีเสียงคำรามด้วยความโกรธแว่วมาจากในต้นไม้ใหญ่

สิ้นเสียงคำราม ต้นไม้ใหญ่บนดาวแท้จริงดวงนี้พลันสั่นไหว กระทั่งดาวยังเกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดิน

จากนั้นซูหมิงก็เห็นว่าเส้นใยเปล่งแสงสีทองวิบวับและบิดเบี้ยว ไม่เพียงแต่หัวใจสีทองจะถูกปกคลุมอย่างหนาแน่นเท่านั้น มันยังรวมขึ้นเป็นอักขระสีทองตัวหนึ่ง

อักขระนี้ขยับแสงเช่นกัน

เขารู้สึกถึงพลังยิ่งใหญ่ไม่อาจบรรยายซึ่งแกร่งพอจะสังหารตน ระหว่างนั้นอักขระก็ขยับวิบวับพร้อมกับพุ่งตรงมาหาเขา

ทั้งยังมีความโกรธถึงขีดสุด มาพร้อมด้วยดวงจิตที่น่าสะพรึงกลัว

“ตาย ตาย ตาย!” ดวงจิตนั้นแก่กล้าอย่างยิ่ง มันพุ่งชนซูหมิงพร้อมกับเสียงครึกโครม ก่อนจะกลายเป็นจิตสังหารบ้าคลั่ง ช่วงที่จะสังหารวิญญาณซูหมิง พลังนี้ก็กลับกลายเป็นพลังย้อนเวลาอย่างกะทันหันยิ่ง

ราวกับว่ามีกฏบางอย่างควบคุมทุกอย่างอยู่ในเงามืด เปลี่ยนพลังสังหารซูหมิงให้กลายเป็นพลังย้อนเวลา แล้วพาวิญญาณเขาออกจากต้นไม้ใหญ่ ถอยไปจนตามทันร่างกายแล้วหลอมรวมเข้าไปใหม่อีกครั้ง

“ไอ้บัดซบซุ่ยเฉินจื่อ ถึงเจ้าตายแล้ว กฏของเจ้ายังจะขวางข้าอีกรึ ข้าจะฆ่ามัน ฆ่ามัน มันคุกคามข้า มันเป็นผู้ยึดร่างข้าคนที่สามพันเจ็ดร้อยสี่สิบสอง ทว่ากลับเป็นคนเดียวที่ทำให้ข้ารู้สึกถึงอันตราย!”

นี่คือเสียงสุดท้ายที่ซูหมิงได้ยิน หลังจากวิญญาณหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายแล้วก็มีเสียงโครมดังข้างหู เมื่อทุกอย่างกลับมาสงบอีกครั้ง ตอนที่เขาลืมตาขึ้น เขาก็กลับมายังแผ่นศิลาหนึ่งแสนอัน แผ่นศิลาตรงหน้ามีความสูงสองพันสี่ร้อยจั้ง

“ล้มเหลวแล้ว…” ซูหมิงพึมพำเสียงเบา ทว่าต่อมานัยน์ตากลับเปล่งแสงหม่น

‘ทว่าก็สำเร็จเช่นกัน!’ ซูหมิงเงยหน้าจ้องแผ่นศิลาของตัวเอง

‘ใช้ได้ทุกวิธี การยึดร่างต้นไม้นั่นก็ได้รับอนุญาต ถึงสุดท้ายต้นไม้สีทองจะสังหารข้า แต่ก็ถูกกฏของซุ่ยเฉินจื่อขวางเอาไว้ ข้าเลยไม่เป็นอันตรายใดๆ เพียงย้อนเวลากลับมาอยู่ที่นี่’

‘ฉะนั้น กฏที่ซุ่ยเฉินจื่อกำหนดเอาไว้ก่อนตายก็เป็นดวงจิตที่อยู่สูงสุด ต่อให้เป็นต้นไม้สีทองก็ต้องถูกจำกัดภายใต้ดวงจิตนี้ มันสังหารข้าไม่ได้ แต่…มอบโอกาสให้ข้ายึดร่างอย่างไม่มีขีดจำกัด!’

ดวงตาซูหมิงแวววาว แม้จะล้มเหลว ทว่าหากมันสำเร็จง่ายๆ ก็คงแปลกยิ่งนัก หลังล้มเหลวหนึ่งครั้ง ได้รับคำตอบและการยืนยันเหล่านี้มา เขาจึงมีความมั่นใจอย่างมาก

‘ข้าจะต้องยึดวิญญาณต้นไม้ใหญ่สีทองนั่นเพื่อปูเส้นทางต้นกำเนิดจิตในอนาคต….มุ่งหน้าสู่…ผู้ยิ่งใหญ่!’ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววมั่นใจอย่างแรงกล้า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ หลับตาลง

‘ก่อนหน้านี้มีสามพันเจ็ดร้อยสี่สิบเอ็ดคนเคยจะยึดร่างต้นไม้ใหญ่สีทอง ทว่า…น่าจะไม่มีใครทำสำเร็จ เพราะวิธีการยึดร่างของพวกเขาต่างจากข้า ข้ายึดร่างมาเป็นร่างแยก นี่คือวิชาพรสวรรค์ของเผ่ายมโลก!

อีกฝ่ายใช้เวลาเจ็ดลมหายใจถึงจะรู้ว่าข้ากำลังจะยึดวิญญาณ บางทีก่อนหน้านี้มันอาจประมาท แต่ก็มีโอกาสสูงมากที่จะมีช่วงเวลาเฉพาะ ข้าต้องลองอีกหลายครั้งถึงจะมั่นใจได้!’

ไปๆ มาๆ การทำให้แผ่นศิลาสูงแสนจั้งก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขาอีก เป้าหมายตอนนี้คือยึดร่างต้นไม้ใหญ่สีทอง

การล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งทำให้ซูหมิงยึดมั่นกับการยึดร่างมากขึ้น หากไม่สำเร็จก็จะไม่ยอมเลิกราโดยเด็ดขาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version