ตอนที่ 848 กระเรียนสารเลว
ชื่อหั่วโหวตะลึงงัน ตอนที่มองไปรอบๆ เขาไม่เห็นร่องรอยกระเรียนขนร่วง และยังสังเกตเห็นว่าซูหมิงมีสีหน้าจริงจัง จึงเกิดการคาดเดาในใจทันที
เขาลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวขึ้น
“ข้าก็ไม่รู้เบื้องหลังความเป็นมาที่แท้จริงของมัน เพียงแต่รู้สึกคุ้นเคยบางจุดจากตัวมัน ดูคล้ายกับบางคนในยุคสมัยของข้ามาก”
“ช่วยอธิบายให้ละเอียดด้วย” ซูหมิงมองชื่อหั่วโหวพลางกล่าวเนิบช้า
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดกับเจ้าแล้ว ผืนฟ้าห้ามหาโลกแท้จริง ในทุกๆ โลกแท้จริงจะมีเจ้าภัยพิบัติหนึ่งท่าน นั่นคือจักรพรรดิของโลกแท้จริง อย่างเช่นเต้าเฉินของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม อิ๋นเซิ่งแห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ และยังมีจักรพรรดิจากเผ่ายมโลกของโลกแท้จริงที่ห้า
พวกเขาล้วนเป็นเจ้าภัยพิบัติ มีขั้นพลังกุมชะตาเกิดดับ
ถัดจากพวกเขาไป ห้ามหาโลกแท้จริงยังมียอดบรรพชนอีกห้าคน ห้าคนนี้มีขั้นพลังน่ากลัวยิ่งกว่า เหมือนจะเหนือกว่าระดับเจ้าภัยพิบัติ กระทั่งการคงอยู่ของพวกเขาห้าคนสามารถรบกวนการหมุนโคจรของห้ามหาโลกแท้จริงได้เล็กน้อย อย่างเช่นร่างจริงของพวกเขาก็เป็นเหมือนกับกฎเกณฑ์ของห้ามหาโลก สามารถเปลี่ยนแปลงได้นับพันนับหมื่นแบบ มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าร่างจริงพวกเขาเป็นใครกันแน่ พวกเขา…คือส่วนหนึ่งของตำนาน” ชื่อหั่วโหวพึมพำ เอ่ยถึงความลับเมื่อยุคบรรพกาล
“ในห้ามหาโลกแท้จริงมีเพียงจักรพรรดิโลกแท้จริงที่ห้าเท่านั้นที่มีขั้นพลังอยู่เหนือกว่ายอดบรรพชน เจ้าภัยพิบัติแห่งสี่มหาโลกไม่มีใครทำได้
บรรพชนของโลกแท้จริงอื่นๆ เป็นใครข้าไม่รู้ แต่ยอดบรรพชนของโลกแท้จริงที่ห้า หลายปีมานี้ปรากฏเพียงร่างเดียว นามคือ…ลู่ยา
เขาเรียกตัวเองว่าเป็นนักบวชเต๋า มีเบื้องหลังลึกลับ ทว่า…ผืนฟ้าดวงดาวกว้างใหญ่ มีหมื่นเผ่าพันธุ์อยู่อาศัย ไม่มีทางที่จะมีเพียงเจ้าภัยพิบัติหรือยอดบรรพชนเพียงสิบคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ในทุกๆ โลกแท้จริงยังมีบุคคลที่มีขั้นพลังใกล้เคียงกับพวกเขาอยู่ กระทั่งแกร่งกว่าก็ยังมี คนเหล่านี้…ก็เป็นตำนานเช่นเดียวกัน
บ้างพวกเขาอยู่คนเดียว บ้างก็มีเผ่าพันธุ์ยิ่งใหญ่หนุนหลัง และก็มีบางคน…ตำนานกล่าวว่ามาจากกลางทะเลดารากว้างใหญ่ซึ่งอยู่นอกห้ามหาโลกแท้จริงไปอีก
ในตำนานของห้ามหาโลกแท้จริง มีอยู่ตำนานหนึ่งกล่าวถึงกระเรียนตัวใหญ่ยักษ์ มันเรียกตัวเองว่าเฮยโม่ มีนิสัยเจ้าเล่ห์ เหี้ยมโหดอย่างไร้ใครเปรียบ สังหารปล้นชิงจนเป็นนิสัย ไม่ว่าผ่านไปที่ใดสำนักนั้นๆ จะพังพินาศ เม็ดยาจะหายไปทั้งหมด มันเหมือนจะสนใจเพียงเม็ดยา หากไม่ต่อต้านก็ไม่เท่าไร แต่หากต่อต้านจะเป็นหายนะไปเลย
กระเรียนตัวนี้เชี่ยวชาญการแปลงกาย จุดนี้คล้ายกับยอดบรรพชนอย่างยิ่ง เบื้องหลังความเป็นมาของมันไม่มีใครรู้ ทว่ามันมีชื่อเสียงโด่งดังมากในโลกแท้จริงที่ห้า
มันแทบจะทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าทุกอย่าง ยั่วเย้าผู้แข็งแกร่งอาวุโสทุกดินแดน ปล้นชิงเม็ดยาของทุกคน และยังเปลี่ยนรูปร่างเพื่อให้คนอื่นไม่ทันระวังตัว ทำให้ยุคสมัยนั้นกระเรียนในโลกแท้จริงที่ห้าแทบจะถูกสังหารจนหมดสิ้น
เมื่อเผชิญหน้ากับกระเรียนตัวนี้ ไม่ว่าจะใช้กลอุบายใดก็ไม่มีประโยชน์มากนัก มันเหมือนจะมีพรสวรรค์ทำลายวงแหวนอาคมได้ทุกชนิด สำหรับมันแล้ววิชาผนึกไม่มีผลใดๆ เลย กระทั่งชื่อเสียงชั่วช้าของมันทำให้สำนักยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งต้องอพยพหนี ทำให้ฟ้ากระจ่างดาวผืนหนึ่งกลายเป็นฝุ่นละออง….ชีวิตนี้มันล้มเหลวเพียงสองครั้ง ครั้งแรกคือไปบ้านเกิดเผ่ายมโลกแล้วแพ้ให้กับจักรพรรดิ ทว่ามันเพียงบาดเจ็บ เพราะจักรพรรดิไม่ได้ล่าสังหาร มันจึงหนีไปสำเร็จ
ครั้งที่สองคือมัน…ไปขโมยเม็ดยาของยอดบรรพชนลู่ยา ถูกนักบวชเต๋าลู่ยาล่าสังหารพันปี สุดท้ายไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด แต่เรื่องพวกนี้คนอื่นเล่าลือกันมา รายละเอียดเป็นอย่างไรมีน้อยคนนักที่จะรู้” ชื่อหั่วโหวกล่าวถึงตรงนี้ ก็มองซูหมิงด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่ง
ซูหมิงเองก็มีสีหน้าประหลาดเล็กน้อยเช่นกัน กระทั่งไม่ต้องพิสูจน์อีกก็มั่นใจได้แปดส่วนว่ากระเรียนขนร่วงคือกระเรียนสารเลวที่ปล้นชิงเม็ดยาในตำนานของโลกแท้จริงที่ห้า
“มันตอนที่อยู่กับเจ้า…ตรงอยู่หลายจุดมาก ทั้งละโมบ ไม่ยี่หระวงแหวนอาคม ชำนาญการแปลงกาย และยังเป็นร่างกระเรียน เพียงแต่ที่ข้าสงสัยไม่กล้ามั่นใจเต็มร้อยมาตลอดคือกระเรียนในตำนานโลกแท้จริงที่ห้าในตอนนั้นสนใจเพียงเม็ดยา ไม่ได้สนใจวัตถุจำพวกหินผลึกเลย…
ทว่า…ตัวที่อยู่กับเจ้ากลับกระหายและยึดติดกับหินผลึก ถึงขั้นที่เรียกว่าสุดจะบรรยาย ดังนั้นข้าเลยไม่มั่นใจว่ามันจะใช่มันตัวเดียวกับตอนนั้นหรือไม่!” ชื่อหั่วโหวยิ้มเฝื่อนพลางเอ่ยขึ้น
“เรื่องพวกนี้ หากเจ้าไม่ถามข้าข้าก็คงไม่พูดไป เพราะหากมันไม่ใช่ตัวในตำนานก็แล้วไป ทว่าหากใช่ขึ้นมา ข้าจำได้ว่ามันในตอนนั้นมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างยิ่ง ถึงเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะจำไปชั่วชีวิต” ชื่อหั่วโหวยังคงยิ้มฝืดเฝื่อน มีท่าทีจนปัญญา
ตอนนี้ซูหมิงไม่ได้มั่นใจแปดส่วนแล้ว แต่มั่นใจเก้าส่วน กระเรียนขนร่วงคือตัวในตำนานตามที่ชื่อหั่วโหวกล่าว เพราะเขาจำนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นนี้ได้อย่างลึกซึ้ง
นึกโยงไปถึงสิ่งที่เอ้อชางสีม่วงเคยกล่าวในตอนนั้น กระเรียนขนร่วงเคยบาดเจ็บสาหัสสามครั้ง เห็นได้ชัดว่าในยุคสมัยนั้นที่ชื่อหั่วโหวบอก มันต้องการรักษาอาการบาดเจ็บจึงต้องปล้นชิงเม็ดยาอย่างบ้าคลั่ง
เพียงแต่ซูหมิงยังสงสัยอยู่ว่า สิ่งใดกันที่ทำให้กระเรียนขนร่วงเปลี่ยนจากยึดมั่นในเม็ดยามาเป็นหินผลึก เขาตรึกตรองอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจ บางทีอาจต้องให้กระเรียนขนร่วงฟื้นความทรงจำก่อน มันถึงจะเข้าใจว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อะไรขึ้นกันแน่
‘สิ่งที่ชื่อหั่วโหวรู้เป็นเพียงเบื้องหลังส่วนหนึ่งของกระเรียนขนร่วง ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งเก่าแก่อยู่ในยุคสมัยเดียวกับเอ้อชาง’ หลังจากซูหมิงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ก็เงยหน้ามองชื่อหั่วโหว
“เอ่อ…ยังมีอีก…” ชื่อหั่วโหวลังเลอีกชั่วครู่ แอบคิดว่าในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว บอกให้หมดเลยจะดีกว่า เขาจึงกัดฟันกล่าวต่อ
“ข้าเคยได้ยินตำนานหนึ่งมา ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เล่าลือว่ามันยัง…มักมากในกามอย่างยิ่ง ตอนนั้นในโลกแท้จริงที่ห้ามีผู้ฝึกฌานสตรีไม่น้อยเคยมีสัมพันธ์กับมัน…ทุกครั้งที่เอ่ยถึงมัน พวกนางจะกัดฟันด้วยความแค้นเสียจนอยากจะสังหารมันด้วยมือตัวเอง นอกจากนี้…ข้ายังเคยเจอผู้ฝึกฌานสตรีคนหนึ่ง ตอนที่นางพูดถึงมันจะมีท่าทีอับอายจนโกรธอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับว่ามันทำอะไรบางอย่างที่ทำให้นางโกรธมาก” ชื่อหั่วโหวกล่าวจบ ซูหมิงก็นิ่งอึ้งไป
จุดนี้เขาไม่เคยเห็นจากกระเรียนขนร่วงมาก่อน
“เช่นนั้นตอนนี้ในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีที่ใดที่จะไปหาเบาะแสของมันได้บ้าง หรือบางที…หากมันบาดเจ็บใกล้ตาย มีวิธีใดช่วยชีวิตมันได้หรือไม่” ซูหมิงมีสีหน้าเด็ดขาด ไม่ว่ากระเรียนขนร่วงจะมีเบื้องหลังอย่างไร ไม่ว่าจะมีกี่คนที่แค้นมัน แต่มันยอมหมดสติเกือบตายเพื่อเขา เขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตมันไว้
“เอ่อ…” เมื่อครู่นี้ในใจชื่อหั่วโหวเกิดการคาดเดาบางอย่าง ตอนนี้พอได้ยินซูหมิงถามก็ยิ่งมั่นใจว่าเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นกับกระเรียนขนร่วงแน่ เขามีสีหน้าขบคิด ผ่านไปนานก็ส่ายศีรษะ
“ตอนนั้นขั้นพลังข้าอยู่คนละระดับกับมัน ไม่รู้จริงๆ ว่ามีวิธีใดช่วยมันได้บ้าง….ตอนนี้มันเป็นร่างวิญญาณ เม็ดยาปกติคงช่วยไม่ได้ หากหายอดบรรพชนลู่ยาพบ ด้วยวิชาเม็ดยาของเขาอาจจะทำได้ ทว่า…ก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร อีกอย่างไม่รู้ด้วยว่ายอดบรรพชนลู่ยายังอยู่หรือไม่” ชื่อหั่วโหวถอนหายใจ ขณะกำลังส่ายศีรษะนัยน์ตาขยับประกายวูบไหว เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก
“มันเรียกตัวเองว่าเฮยโม่…ข้านึกออกแล้ว ตอนนั้นในโลกแท้จริงที่ห้า เหมือนข้าจะเคยได้ยินใครคาดเดาไว้ว่ามันมีโอกาสสูงมากที่จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจากโลกแท้จริงที่ห้า แต่มาจากฟ้าต้นกำเนิดจิตผืนนี้” ชื่อหั่วโหวมองซูหมิงทันที
“เจ้าหมายความว่า…ดาวทมิฬ?” นัยน์ตาซูหมิงแวววาว
“เฮยโม่ (หมึกดำ) กับดาวทมิฬ บางทีที่นั่นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่าง แต่ข้าไม่แน่ใจ เจ้าต้องพิจาณาเอาเอง” ชื่อหั่วโหวพยักหน้า
ซูหมิงหลับตาลง ผ่านไปพักใหญ่ก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาฉายแววเด็ดขาด กระเรียนขนร่วงรู้จักกับเอ้อชางก็พอจะอธิบายข้อสงสัยได้จำนวนมากแล้ว มีโอกาสสูงมากที่มันจะมาจากทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ดังนั้นดาวทมิฬก็มีโอกาสสูงมากเช่นกันที่จะเกี่ยวข้องกับกระเรียนขนร่วง
‘ดาวทมิฬอยู่มานานมาก เว้นแต่ก่อนยุคบรรพกาลจะมีคนเปลี่ยนชื่อดาวเพื่อวางกับดักกระเรียนขนร่วง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วความบังเอิญนี้จะต้องมีเงื่อนงำแน่นอน’
ซูหมิงก้มหน้ามองขนนกสีดำในมือแวบหนึ่ง มองโลหิตด้านบนพลางรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของกระเรียนขนร่วงที่คุ้นเคย ในความคิดลอยขึ้นมาเป็นภาพต่างๆ ตั้งแต่เจอกระเรียนขนร่วงจนถึงตอนที่มันแผดเผาวิญญาณ
ข้างหูยังเหมือนได้ยินเสียงเรียกตัวเองว่าท่านกระเรียนผู้นี้อย่างลำพองใจเบาๆ
‘เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุผล รู้ทั้งรู้ว่าอันตราย…แต่ก็ยังทำ’
‘ในเมื่อเจ้าเผาวิญญาณช่วยข้า แซ่ซูก็จะเสี่ยงอันตรายเพื่อเจ้าเช่นกัน!’
‘เดิมทีข้าไม่มีทางได้ขนนกนี้มา หากไม่ใช่เพราะผนึกอักขระต้นกำเนิดจิตรอบๆ ต่อให้ข้าสังหารข่งหวนก็ได้เส้นสีดำมาเพียงเส้นเดียว ยากจะได้ครบสองเส้นและรวมเป็นขนนกนี้
ข้า…จะเดิมพัน กระเรียนขนร่วง ต่อให้ขนนกนี้มีปัญหา เราก็จะเดิมพัน!
หากเจ้าสูบพลังขนนกนี้แล้วฟื้นฟูกลับมาได้ เช่นนั้นต่อให้เป็นแดนอันตราย ข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย หากพวกเราแพ้ ข้าซูหมิงขอรับปากว่าตอนที่ต้นกำเนิดจิตข้าเติบโตขึ้น ข้าจะทำลายสี่มหาโลกแท้จริงให้ตายไปกับเจ้าด้วย!’ ซูหมิงกัดฟันนำขนนกในมือส่งเข้าไปในถุงเก็บวัตถุ วินาทีที่มือเขาสัมผัสกับถุงเก็บวัตถุ มันสั่นไหวเบาๆ เป็นการบอกว่าเขากำลังตึงเครียดในใจ
ทันทีที่ขนนกสีดำเข้าไปในถุงเก็บวัตถุ มันพลันเปล่งแสงสีดำไม่มีที่สิ้นสุด ขณะเดียวกัน ระหว่างที่แสงดำขยับวูบวาบเด่นชัดขึ้น วิญญาณกระเรียนขนร่วงที่หลับใหลอยู่ก็เหมือนจะต่อต้านกับแสงดำ
ตอนนี้เอง ขนนกกลายเป็นนกยูงสีดำตัวหนึ่งกลางแสงดำ มันดุร้ายและคลุ้มคลั่ง ทั้งยังมีจิตใจกำเนิดขึ้นในแววตา มันตรงไปหากระเรียนขนร่วง ส่วนกระเรียนขนร่วงก็สร้างร่างออกมาเป็นกระเรียนที่หลับตาข้างหนึ่งกลางแสงดำเช่นกัน ก่อนจะเข้าไปใกล้นกยูงดำราวกับสัญชาตญาณ
สองฝ่ายเข้าใกล้กันในพริบตา ดวงตาขวาซูหมิงขยับประกาย อักขระต้นกำเนิดจิตปรากฏขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปในถุงเก็บวัตถุ ปกคลุมร่างนกยูงสีดำเอาไว้
‘มีปัญหาจริงๆ ด้วย!’ ซูหมิงแค่นเสียงเย็นชา อักขระต้นกำเนิดจิตเกิดเสียงระเบิด นกยูงสีดำตัวนั้นร่างระเบิด และถูกลบจิตใจในดวงตาไปทันใด ทำให้มันส่งเสียงโหยหวนดังก้อง
“ต้นกำเนิดจิต…เป็นไปไม่ได้!”
ช่วงที่นกยูงสีดำร้องโหยหวน นัยน์ตามันไม่มีประกายแวววาว ร่างกายจะสลายไป และถูกกระเรียนขนร่วงที่หลับตาพุ่งกระโจนเข้าใส่ หลังจากสองฝ่ายหลอมรวมกันในพริบตาแล้ว กระเรียนขนร่วงก็ยังคงหลับตาอยู่ มันยังหลับใหล ทว่าการสลายของร่างกายกลับช้าลงมาก
รู้สึกรางๆ ว่ากระเรียนขนร่วงคล้ายเหมือนเดิม มีต่างไปเล็กน้อย เหมือนกับวิญญาณของมันฟื้นฟูกลับมาบ้างแล้ว
‘ได้ผล!’ นัยน์ตาซูหมิงเปล่งประกาย