ตอนที่ 937 เผ่าลือนาม
เผ่าลือนามเป็นเผ่าเล็กรอบนอกทะเลดาราต้นกำเนิดจิต มีชาวเผ่าเกือบหมื่นคน ในนั้นมีนักรบหลายพันคน
หากไม่รู้การแบ่งขุมอำนาจของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต เช่นนั้นบางทีตอนเห็น เผ่าลือนามครั้งแรกอาจจะเกิดความรู้สึกว่าเป็นเผ่าใหญ่ แต่หากเข้าใจทะเลดารา ต้นกำเนิดจิตจริงๆ จะรู้ว่าเผ่าแบบนี้มีอยู่จำนวนมาก
พวกเขาเหมือนกับเผ่าลำดับเก้าของตี้จิ่วโม่ซา บางทีอาจเคยเป็นเผ่าใหญ่ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตสักช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเวลาละสายตาจากพวกเขาไป พวกเขาก็ค่อยๆ ตกต่ำลง จนกระทั่งไม่อาจมีชีวิตอยู่ที่ส่วนในของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ทำได้เพียงย้ายออกมาส่วนนอก
ที่นี่ พวกเขาถึงจะสืบเชื้อสายต่อไปได้
ทุกชนเผ่าที่มีประวัติศาสตร์จะมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกันในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต อย่างเช่นเผ่าลือนาม ต่อให้อยู่รอบนอกของทะเลดาราต้นกำเนิดจิตมานานนัก ทว่าก็ยังมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเผ่าใหญ่หลายเผ่าตรงทะเลดาราต้นกำเนิดจิตส่วนใน หนึ่งคำสั่งจากเผ่าใหญ่ก็ทำให้พวกเขาส่งนักรบในเผ่าออกไปทั้งหมดได้ บ้างก็ส่งออกไปเลี้ยงสัตว์ร้ายหลายปี รวมถึงดำเนินการปิดล้อมสังหารครั้งนี้ด้วย
ซูหมิงมองเหตุการณ์ตรงหน้า ร่างเขากลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไป ก่อให้เกิดเสียงทะลวงอากาศดังก้อง ดึงดูดความสนใจต่อชาวเผ่าลือนามบนฟ้าเหล่านั้นทันที ทว่าแทบเป็นช่วงที่พวกเขาหันไปมอง ก็เห็นเพียงเงาโลหิตสายหนึ่งขยับวูบเข้ามา
นั่นคือลูกธนู!
เป็นลูกธนูที่ลักษณะไม่ใช่ของจริง เหมือนรวมขึ้นจากความว่างเปล่า เหตุที่เห็นเป็นเงาโลหิตในสายตาทุกคนเป็นเพราะว่าหลังจากมันถูกยิงออกมาแล้วก็ทะลวงผ่านหน้าอกสิบกว่าคน จึงถูกโลหิตย้อมเป็นสีแดง
ลูกธนูทะลวงผ่านระหว่างชาวเผ่าลือนามหลายพันคนบนฟ้า แล้วไปตกอยู่บนตัวแมลงปีกแข็งสีดำที่ทั่วร่างกำลังเน่าเปื่อยกลางหมอกพิษตรงตีนเขา แต่พวกมันก็ยังคงพุ่งออกไป อ้าปากกว้างหมายจะเขมือบชาวเผ่าลำดับเก้าคนหนึ่ง
เสียงโครมดังขึ้น แมลงปีกแข็งร่างระเบิดออก ก่อเป็นแรงปะทะกระจายเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดหมอกถาโถมใส่ชาวเผ่าลำดับเก้าคนนั้นจนถอยไปหลายสิบจั้ง ตรงจุดที่ลูกธนูตกไป ในระยะรอบๆ สิบจั้งไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอด
มีเพียง…ร่างแมลงถูกบดละเอียดสิบกว่าตัว
และยังมีอีกสิ่งคือร่างที่สวมผ้าเนื้อหยาบ มือถือคันศรใหญ่ เส้นผมยาวปลิวไสว ร่างกายเหยียดตรง ในอ้อมอกเขากอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ นางงดงามมาก หลับตาราวกับหลับใหล
“ปกป้องนางแทนข้า” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ เขาคลายแขนออก ส่งหญิงสาวในอ้อมอกให้คนข้างหลัง นั่นก็คือชาวเผ่าลำดับเก้าที่เพิ่งรอดพ้นจากความตายเมื่อครู่
ชาวเผ่าลำดับเก้าผู้นี้หน้าซีดขาว ตะลึงค้างกับภาพการมาเยือนของซูหมิง นางเป็นหญิงคนหนึ่ง วิกฤตอันตรายของชนเผ่าทำให้นางที่เป็นสตรีก็ยังต้องสู้เพื่อชนเผ่า นางแทบจะเข้าไปรับสวี่ฮุ่ยที่หมดสติอยู่โดยไม่รู้ตัว
แววตาซูหมิงเรียบนิ่ง เสียงคำรามรอบๆ ดังสนั่น สงครามครั้งนี้สำหรับคนอื่นแล้วยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง ถึงอย่างไรก็เป็นสงครามของหลายพันคน ทั้งยังมีทะเลแมลงปีกแข็งอีกหลายหมื่นตัว แต่สำหรับซูหมิง สถานการณ์แบบนี้เล็กจ้อยจนไม่มีค่าพอให้สนใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามใหญ่ของแต่ละสำนักเซียนบนเผ่าหมาน หรือสงครามสัตว์คลื่นเสียงในเร็วๆ นี้ ก็ล้วนห่างจากสงครามที่นี่ไปไกลมาก
เขายืนอยู่ที่เดิม มือซ้ายถือคันศรของวิญญาณดินทราย ระหว่างที่ยกมือขวาขึ้น ลูกธนูดอกหนึ่งพลันพุ่งออกไป ลูกธนูนั้นยังคงไร้รูป มันทะลวงผ่านอากาศไปตกบนพื้นข้างหน้า เสียงระเบิดดังกึกก้อง พื้นที่สิบจั้งระเบิดออกอีกครั้ง
ซูหมิงยิงไปทีละดอกอย่างไม่ลังเล จนท้ายสุดตอนที่เขาใช้พลังไปมากกว่าครึ่ง เมื่อลูกธนูทุกดอกที่ยิงออกไปตกถึงพื้น ในระยะหลายร้อยจั้งก็กลายเป็นแดนมรณะ
ระหว่างนั้นเอง บนสนามรบเกิดเสียงโครมครามดังต่อเนื่อง ซูหมิงพลันกระโดดลอยขึ้นมาปรากฏตัวอยู่บนยอดเขาลูกด้านหลัง ยืนอยู่ตรงนั้น มือขวาง้างสายคันศร ลูกธนูพุ่งลงพื้นดินประดุจสายฝน
ขั้นพลังเขามากเพียงพอ มิหนำซ้ำร่างกายยังแกร่งกล้า ทำให้ลูกธนูที่ยิงออกไปทุกดอกเหมือนกับเขาโจมตีอย่างสุดกำลังหนึ่งครั้ง กล่าวได้ว่าเมื่อคันศรนี้อยู่ในมือเขา มันจะระเบิดเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงยิ่งกว่าผู้ถือคันศรคนก่อนออกมา
การปรากฏตัวของเขา ลูกธนูของเขา สร้างเสียงฮือฮาให้กับเผ่าลำดับเก้าและ เผ่าลือนามได้ในเวลาสั้นๆ ชาวเผ่าลำดับเก้าทุกคนล้วนมีสีหน้าตื่นเต้นฮึกเหิม พวกเขาจุดประกายไฟแห่งความมุ่งมั่นในการรบอีกครั้ง ความแกร่งของลูกธนูซูหมิงคนเดียวก็แทบจะเข้ามายึดครองแผ่นดินใหญ่แห่งนี้แล้ว ส่งผลให้แมลงปีกแข็งที่เข้ามาใกล้ยอดเขาร่างละเอียดไม่หยุดหย่อนท่ามกลางเสียงระเบิดของลูกธนูบนพื้นดิน
ส่วนชาวเผ่าลำดับเก้าบนฟ้าเหล่านั้น ขณะพวกเขากำลังใช้วิชาอภินิหารที่เหลืออยู่ก็พากันฮึกเหิมขึ้นมา ต่างมองซูหมิงบนยอดเขาอยู่ตลอด คนคนนั้น ร่างเงาที่ถือคันศร ฝังลึกลงในดวงตาพวกเขาแล้ว
ทว่าในสายตาคนเผ่าลือนาม การปรากฏตัวของซูหมิงทำให้สงครามปั่นป่วนทันใด ส่งผลให้ทะเลแมลงบนพื้นเดินหน้าต่อไม่ได้ พวกเขาต่างมีสีหน้าเหี้ยมโหด สายตาจ้องซูหมิงบนยอดเขาเขม็งและเผยจิตสังหารเด่นชัด
ตี้จิ่วโม่ซาส่งเสียงร้องลั่น ตะขาบด้านหลังเขาพลันผละออกจากร่าง เมื่อขยายขนาดเป็นหลายร้อยจั้งแล้ว ก็พุ่งตรงไปหาชาวเผ่าลือนามหลายพันคนนั้น
ซูหมิงมีสีหน้าปกติ พอง้างสายคันศรและยิงไปอีกครั้ง แผ่นดินก็เกิดเสียงดังสนั่น กลายเป็นหลุมลึกร้อยจั้งหลุมหนึ่ง จากนั้นเขาก็วางคันศรลง
หากมองจากฟ้าลงไป จะเห็นชัดว่าตรงทิศทางของทะเลแมลงที่เข้าไปใกล้ยอดเขานี้มีหลุมลึกเส้นหนึ่งห่างจากตีนเขาไปราวห้าร้อยจั้ง หลุมลึกนี้ล้อมยอดเขาเป็นวงกลม สร้างเป็นเส้นเส้นหนึ่ง!
ภายในเส้น นอกจากชาวเผ่าลำดับเก้าแล้วก็ไม่มีแมลงปีกแข็งอีก ส่วนนอกเส้นเป็นทะเลแมลงแน่นขนัด แต่กลับไม่มีตัวใดกล้าเข้าไปด้านใน ได้แต่เพียงคำรามด้วยความโกรธแค้นอยู่ข้างนอก
ซูหมิงใช้การระเบิดของลูกธนูวาดเส้นนี้ขึ้น ภายในมีกลิ่นอายดุร้ายเย็นเยียบของเขาอยู่ และยังมีคำพูดเย็นชาที่ไม่ต้องเอ่ย ขอเพียงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาก็จะรู้สึกได้
ผู้ใดข้ามเส้นนี้มา…ตาย
การสังหารทะเลแมลงเหล่านี้ให้สิ้นซาก กระทั่งฆ่าล้างเผ่าลือนามไปทั้งหมดไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซูหมิง นี่คือเผ่าที่ไม่มีผู้ฝึกฌานระดับภัยพิบัติจันทรา ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่นี่เป็นเพียงเจ้าปกครองโลกตอนปลายเท่านั้น
ส่วนชาวเผ่าลือนามคนอื่นๆ ขั้นพลังมีตั้งแต่ระดับดินไปจนถึงเจ้าปกครองโลกตอนกลาง เผ่าแบบนี้ไม่มีอำนาจคุกคามต่อเขาแม้แต่น้อย
เขายืนอยู่บนยอดเขานั้นโดยไม่กล่าวอะไร แต่การคงอยู่และลูกธนูของเขากลับเขย่าขวัญมากกว่าคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ทะเลแมลงปีกแข็งไม่กล้าข้ามผ่านไปแม้ครึ่งก้าว การเพิ่มขึ้นของพลังอำนาจที่มาพร้อมกับการกระทำนี้ส่งผลให้ซูหมิงบนยอดเขามีลักษณะท่าทางโอหังในสายตาของทุกคน
ชายชราที่มีขั้นพลังเจ้าปกครองโลกตอนปลายท่ามกลางเผ่าลือนามบนฟ้าส่งเสียงร้องต่ำแว่วมา เสียงนั้นกลายเป็นแรงปะทะสองส่วน หนึ่งลงสู่พื้นดิน มีผลให้ทะเลแมลงเหล่านั้นเหี้ยมโหดขึ้น กระทั่งบางตัวทนไม่ไหว เกิดอารมณ์ชั่ววูบจะข้ามเขตแดนไป
ส่วนเสียงคำรามอีกส่วนกลายเป็นคลื่นเสียงพุ่งเข้าใส่ชาวเผ่าลำดับเก้าหลายร้อยคนบนฟ้าตรงหน้าซูหมิง และยังพุ่งไปหาซูหมิงด้วย
ขณะเดียวกัน ภายใต้เสียงคำรามของชายชรา ชาวเผ่าลือนามหลายพันคนรอบตัวเขาล้วนพุ่งทะยานออกไป หลายพันคนกลายเป็นสายรุ้งยาวหลายพันสายตรงไปยังยอดเขา ตรงไปยังชาวเผ่าลำดับเก้าหลายร้อยคนที่นอกยอดเขาเหล่านั้น
หลังจากพวกเขาพุ่งออกไป ทะเลแมลงบนพื้นก็ส่งเสียงร้องแสบแก้วหู แมลงปีกแข็งเดินเข้าไปในเส้นที่เกิดจากหลุมลึกทีละตัว หมายจะข้ามผ่านไป
โดยเฉพาะชายชราเผ่าลือนามที่มีขั้นพลังเทียบเท่าเจ้าปกครองโลกตอนปลาย เขายังคงจ้องซูหมิง นัยน์ตามีจิตสังหารวูบผ่าน เขามองออกว่าซูหมิงมีขั้นพลังเพียงเจ้าปกครองโลกตอนกลาง และคาดเดาว่าที่ซูหมิงแกร่งขนาดนี้จะต้องเป็นเพราะคันศรนั้นแน่ๆ
เขาเชื่อว่าขอเพียงตนเข้าใกล้อีกฝ่าย ด้วยขั้นพลังของตน จะทำให้อีกฝ่ายรู้ได้ทันทีว่าจุดจบของการอยู่ตรงข้ามกับเผ่าลือนามเป็นเช่นไร
เขาแค่นเสียงหึเย็นชาพร้อมเดินหน้าหนึ่งก้าว ตอนที่ยกมือขวาขึ้น ในมือปรากฏกลองป๋องแป๋งขนาดเท่าฝ่ามืออันหนึ่ง กลองเป็นสีขาว เห็นได้ชัดว่าทำจากกระดูก เพียงเขย่าจะเกิดเสียงดังก้องที่ประหนึ่งแฝงไว้ด้วยการทะลวงผ่าน มันดังสะท้อนไปรอบๆ เข้าถึงหูทุกคน และยังดังออกไปไกลยิ่งกว่า เห็นอยู่ว่าเสียงกลองไม่ได้ดังนัก แต่ต่อให้เป็นซูหมิงก็ยังได้ยินเสียงนี้
แทบเป็นช่วงที่เขาได้ยินเสียงกลอง ชายชราเผ่าลือนามคนนั้นยิ้มชั่วร้าย เขาขยับวูบไหวตัว ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้พลังเจ้าปกครองโลกตอนปลายในการเคลื่อนย้าย!
นี่เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่เขาจะเหมือนกับซูหมิงคือมีวิญญาณของผู้แข็งแกร่งระดับภัยพิบัติจันทราอยู่กับตัวและอาศัยวิชาเคลื่อนย้าย มิเช่นนั้นแล้วการเคลื่อนย้ายด้วยพลังเจ้าปกครองโลกตอนปลายก็เป็นเรื่องยากยิ่ง
โดยเฉพาะ…ฟ้ากระจ่างดาวที่นี่ ใช้การเคลื่อนย้ายไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้ซูหมิงก็ลองมาแล้ว แต่ตอนนี้ชายชรากลับหายวับไปในพริบตา!
ซูหมิงมีสีหน้าปกติ ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย สายตามองทะเลแมลงเหล่านั้นพุ่งข้ามเส้นเขตแดนของตน ภายใต้การลุกลามด้วยความรวดเร็ว จึงเกิดเป็นพลังอำนาจซึ่งเหมือนจะผลักเข้ามายังยอดเขาที่เขาอยู่ได้
ครั้งนี้ซูหมิงไม่ใช้คันศรอีก แต่ยกมือขวาขึ้นและก้มมองหลายที ก่อนจะกดมือไปบนพื้นขณะอยู่บนยอดเขา
เมื่อกดมือไป ฟ้าดินเกิดเสียงครึกโครม แผ่นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง มีมือยักษ์ปรากฏขึ้นบนฟ้าและกดทับลงมายังพื้นดินด้วยความเร็วระดับในพริบตา
ทั้งแผ่นดินสั่นสะเทือน เสียงโครมครามสนั่นฟ้าในเวลานี้ แมลงปีกแข็งในทะเลแมลงบนพื้นแต่ละตัวส่งเสียงร้องด้วยความสิ้นหวัง การลุกลามไปแตกรังโดยพลัน พวกมันต่างหนีไปรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง
และเป็นตอนนี้เอง อากาศด้านหลังซูหมิงบิดเบี้ยว ชายชราที่หายไปก่อนหน้านี้เดินออกมา เขายิ้มชั่วร้ายแล้วยกมือขวาขึ้นตบฝ่ามือใส่ข้างหลังซูหมิง ห้านิ้วมือเป็นสีดำทึบ ทั้งยังมีเส้นหมอกดำโอบล้อมกลายเป็นวิญญาณแมลงปีกแข็งหลายตัว ตอนที่ฝ่ามือกำลังจะสัมผัสซูหมิง เขา…เห็นฝ่ามือปรากฏขึ้นบนฟ้าและพื้นดิน เห็นทะเลแมลงบนพื้นแตกรัง ภาพนี้ทำให้เขาเพ่งสายตา หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ดวงตาฉายแววหวาดกลัวและตื่นตระหนก
“ผะ…ผู้กุมชะตาเกิดดับ…เป็นไปไม่ได้!” ชายชราสูดลมหายใจเข้า ขณะหวาดกลัวย่อมไม่มีใจจะโจมตีซูหมิงอีก แต่ถอยร่นไปอย่างรวดเร็วด้วยจิตใจสั่นสะท้าน ราวกับว่าแม้แต่ความคิดจะโจมตีซูหมิงยังไม่อาจเกิดขึ้นอีก ตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวคือหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด