Skip to content

สู่วิถีอสุรา 94

ตอนที่ 94 ใครฆ่าซู่เอ๋อร์ของข้า

ลูกศรดอกนี้เปื้อนโลหิตของซูหมิง ขณะพุ่งส่งเสียงลากยาว ราวกับมีแสงจันทร์รวมอยู่ในตัวมัน มองไกลๆ เหมือนไม่ใช่เงาลูกศร แต่เป็นแสงโลหิตจากดวงจันทร์

ยามนี้ปี้ซู่เพิ่งเข้าประชิดตัวเหลยเฉิน ใบหน้ายังคงรอยแสยะยิ้ม ทว่าทันใดนั้นพลันแข็งค้าง เขาสัมผัสถึงภัยอันตรายตรงเข้ามาจากด้านหลังอย่างรวดเร็วยิ่งนัก ทำให้เขาไม่มีเวลาไคร่ครวญ ในเสี้ยววินาทีนั้นลูกศรพลันเข้าถึงตัว!

ในตัวของปี้ซู่กลับมีหมอกโลหิตหลั่งไหลมาจำนวนมาก ก่อรูปขึ้นเป็นค้างคาวจันทราตัวหนึ่งโอบล้อมปี้ซู่เอาไว้ หมอกค้างคาวจันทรานี้ สามารถต้านทานทุกการโจมตีที่ต่ำกว่าขั้นชำระล้างได้ ตรงจุดนี้ปี้ซู่ทราบดี เพราะท่านปู่ปี้ถูของเขาเป็นคนบอกด้วยตัวเอง

ทว่ายามนี้ ขณะที่ลูกศรปะทะกับเงาหมอกค้างคาวจันทรา มันกลับแผดเสียงร้องแหลม ราวกับหวาดกลัวโลหิตบนลูกศร พริบตาเดียวพลันหลอมละลาย ทำให้ลูกศรทะลวงหมอกเข้าใส่ปี้ซู่ เขารู้สึกเจ็บปวดตรงหน้าอก โลหิตสาดกระเซ็น ลูกศรทะลวงผ่านร่างของเขา ตกลงตรงเท้าของเหลยเฉิน

ปี้ซู่ตัวสั่นเทา พลันล้มลงกับพื้น เขาเบิกตากว้างราวกับปลาพ้นน้ำ หายใจกระชั้นถี่ กุมหน้าอกราวกับพยายามอุดเลือดและชีวิตเอาไว้ ไม่ยอมให้พวกมันหลั่งไหลไป ทว่าธนูดอกนี้แฝงไว้ด้วยความเศร้าและความเคียดแค้นของซูหมิง อีกทั้งยังมีพลังทั้งหมดของเขาอยู่ในนั้น นั่นคือความเจ็บปวดที่ปี้ซู่ไม่มีวันเข้าใจ

“เป็นไป…..ไม่ได้…….ท่านปู่บอกว่า……ข้าจะไม่…” สีหน้าปี้ซู่เผยความหวาดกลัวจนไม่อาจบรรยายได้ เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่อยากเชื่อว่าชีวิตจะมาจบลงเช่นนี้ ร่างของเขาหนาวเย็น นัยน์ตาฉายแววสิ้นหวัง

เขาไม่อยากตาย เขากลัวตาย เขายังหนุ่มแน่นนัก อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งเผ่าภูผาดำ ชีวิตคนของเขาไม่ควรจะมาจบลงเช่นนี้ เขายังอยากเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดที่เหยียบย่ำเหนือเผ่าร่องลม…เขายังอยากจับไป๋หลิงมาเป็นผู้หญิงของตน…ทำให้ใบหน้างดงามของนางต้องสะอื้นไห้เมื่ออยู่ใต้เรือนร่างของเขา…

เขายังมีเรื่องอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ…ไม่เคยคิดเลยว่าตนจะมาจบชีวิตลงตรงนี้ ตายอย่างกะทันหันเช่นนี้ ไม่ให้เขาได้มีเวลาเตรียมตัวแม้แต่น้อย เขาลืมตาล้มลงกับพื้น ในดวงตาเห็นท้องฟ้าสีเลือด ดวงจันทร์โลหิต และยังมีเงาของท่านปู่ปี้ถูในหมอกโลหิต

ในชีวิตแสนสั้นของเขา มองเห็นปลายทางสุดท้ายแล้ว

ปี้ซู่สิ้นใจลง!

ช่วงที่เขาสิ้นใจ จ้าวเผ่าภูผาดำเหม่อลอย สีหน้าเหลือเชื่อและหวาดกลัว สิ่งที่เขากลัวไม่ใช่เขาทมิฬ แต่เป็นท่านปู่ภูผาดำ เขาทราบดีว่าจ้าวหมานปี้ถูเป็นคนอำมหิตเย็นชา อารมณ์แปรปรวนไม่ปกติ ชาวเผ่าในสายตาของเขาไม่เท่าเทียมกัน ทำเหมือนกับพวกเขาเป็นทาส ทว่ามีเพียงคนเดียวที่พิเศษ นั่นคือปี้ซู่!

ปี้ถูแทบจะมอบทุกอย่างให้กับปี้ซู่ ทว่าตอนนี้ปี้ซู่….สิ้นใจแล้ว…

ใบหน้าจ้าวเผ่าภูผาดำพลันขาวซีด ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น สองคนข้างกายก็เหม่อลอยเช่นเดียวกัน ใบหน้าตื่นตระหนกถูกความกลัวเข้ามาแทนที่ กระทั่งลืมว่ากำลังต่อสู้อยู่

ร่างซูหมิงตกลงบนพื้นเสียงดังพลั่ก ทำให้หน้าอกของเขามีเลือดไหลมากกว่าเดิม ทว่ากลับหาความเจ็บปวดบนสีหน้าไม่พบ ใบหน้าเขาเผยรอยยิ้ม ยิ้มนั้นราวกับส่งให้กับเด็กสาวบางคน

การสังหารปี้ซู่อยู่ในความคิดของซูหมิงมาโดยตลอด เพราะการสังหารเขา ไม่เพียงเพื่อช่วยเหลยเฉินกับหนานซงเท่านั้น แต่ยังช่วยไป๋หลิงหลังจากที่เห็นแววตาหื่นกระหายของปี้ซู่บนลานเผ่าร่องลม

ยามนี้ ในป่าทึบด้านหลังจ้าวเผ่าภูผาดำ มีนักรบภูผาดำเข้ามาอีกหนึ่งระลอก ส่งเสียงคำรามห่างไปหลายร้อยจั้ง ทว่าทันใดนั้น หมอกโลหิตบนท้องฟ้าราวกับมีเสียงร้องลั่นด้วยความโศกเศร้าและเคียดแค้นถึงขีดสุด เสียงนั้นเป็นของปี้ถู!

“ซู่เอ๋อร์!” น้ำเสียงประดุจฟ้าผ่าสะเทือนแผ่นดินยังผลให้หิมะบนพื้นระเบิดกระจาย แผ่นดินสั่นไหวไม่หยุด หลังจากเสียงดังขึ้น มีเงาคนสีหน้าดูเศร้าอาดูรพุ่งทะยานออกมาจากหมอกโลหิตบนท้องฟ้าด้วยความบ้าคลั่ง ในสายตาของเขามีแค่ปี้ซู่ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

“ใครฆ่าซู่เอ๋อร์ของข้า! พวกเจ้าต้องตาย เผ่าเขาทมิฬทั้งหมดต้องตาย!”

ปี้ถูเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แฝงไว้ด้วยจิตสังหารมหาศาล แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าประชิดตัว มีน้ำเสียงเย็นเยือกดังกังวานในหมอก พบว่าเป็นท่านปู่โม่ซังที่มีโลหิตไหลตรงมุมปาก ยกมือขวาขึ้น ฟ้าดินเปลี่ยนสี งูเหลือมทมิฬข้างกายเขาแผดเสียงคำรามเข้าขวางปี้ถูเอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจลงไปได้

ด้วยเสียงร้องลั่นของปี้ถู จ้าวเผ่าภูผาดำตกใจสะดุ้ง ได้สติขึ้นมา ในใจของเขาตื่นตระหนก เขาทราบดีว่าจะต้องทำความดีความชอบระหว่างต้องโทษ มิเช่นนั้นแล้วยากจะรองรับเพลิงโทสะของจ้าวหมานได้

เขาในยามนี้ไม่สนใจหนานซงอีกต่อไป แต่หมุนตัวจ้องไปทางซูหมิง สาวเท้ายาวเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว เขาต้องสังหารซูหมิงเพื่อสร้างความดีต่อหน้าปี้ถู เช่นนั้นแล้วจึงจะมีชีวิตรอดได้

อีกสองคนข้างกายก็ได้สติเช่นเดียวกัน จึงพุ่งตรงเข้าหาซูหมิง

ซูหมิงยังคงยิ้มมองสามคนที่กำลังใกล้เข้ามา เขาทราบดีว่าตนทำสำเร็จแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือระเบิดเส้นเลือดตัวเองเพื่อถ่วงเวลาให้กับหนานซงมากที่สุด

ฉับพลันทันใด หนานซงพลันลืมตาขึ้น ขณะตัวสั่นเทา ตรงกลางระหว่างคิ้วพลันปรากฎเส้นรอยแยก ก่อนเงาแสงสีดำลอยจะออกมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าหนานซงพลันมืดสลัวราวกับไม่มีชีวิต

เงาแสงเลือนรางพุ่งตรงไปเบื้องหน้า ด้วยความเร็วของเขา ชั่วพริบตาก็เข้ามาประชิดตัวซูหมิง หนานซงโบกมือไปทางนักรบภูผาดำทั้งสามคน เสียงระเบิดพลันดังขึ้น จ้าวเผ่าภูผาดำกระอักเลือด ล้มลงกับพื้น ส่วนอีกสองคนร่างกายระเบิดเป็นเศษเนื้อ ตายตกในทันที

ช่วงที่จ้าวเผ่าภูผาดำนอนลงกับพื้น นักรบภูผาดำสิบกว่าคนด้านหลังพลันตรงเข้ามา ผู้นำหน้าสุดเป็นชายฉกรรจ์ชุดดำ แววตาไร้จิตวิญญาณ

“ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึง…” มีเสียงของหนานซงดังมาจากเงาแสง มันลอยอยู่เบื้องหน้าซูหมิง ขณะกล่าวพลันชูมือทั้งสองข้างแล้วตบลงบนพื้น

แผ่นดินขยับขึ้นลงประดุจลูกคลื่น ก่อนยุบลงห่อหุ้มจ้าวเผ่าภูผาดำรวมถึงศัตรูสิบกว่าคนเข้าไปด้านในท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน

เงาแสงหมุนตัวกลับมองซูหมิง ยกมือขวาขึ้น หลุดพ้นออกจากร่างกาย กลายเป็นจุดแสงสีดำหลอมเข้าไปในร่างกายของซูหมิง

ทำให้สติที่กำลังพร่ามัวของซูหมิงพลันแจ่มชัด ความรู้สึกอบอุ่นหลั่งไหลท่ามกลางความเจ็บปวดของร่างกาย แล้วจึงฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว

เงาแสงพลันอ่อนลง ลอยกลับเข้าไปหาร่างของหนานซง หลังจากเข้าไปในรอยแยกระหว่างคิ้ว รอยแยกจึงค่อยเชื่อมเข้าหากัน หนานซงลืมตาขึ้น แววตาเผยความเหนื่อยล้า สีหน้ามัวหมอง

“เผ่าภูผาดำพวกนี้ไม่สำคัญ การต่อสู้ระหว่างจ้าวหมานต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญระหว่างความเป็นและตายของชนเผ่า…ปี้ถูยังไม่สำแดงเคล็ดวิชาหมานชั่วร้ายที่แข็งแกร่งยิ่งนัก…รีบไป เขาใกล้จะสำแดงวิชาหมานชั่วร้ายแล้ว!”

หนานซงยืนขึ้น กล่าวจบจึงพาพวกเหลยเฉินล่าถอยอย่างรวดเร็ว ยามนี้ซูหมิงอาการดีขึ้นไม่น้อย เขาทราบว่าหนานซงเป็นคนช่วยเขา ยังไม่ทันได้ขอบคุณ เขาพลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังแห่งความตายจากฟากฟ้า หิมะบนพื้นกลายเป็นสีดำ ต้นไม้ใบหญ้ารอบตัวเหี่ยวเฉาเป็นสีเทาในชั่วพริบตา

สีหน้าซูหมิงเปลี่ยน รีบตามพวกหนานซงไปอย่างรวดเร็ว ช่วยประคองเหลยเฉินและพวกเป่ยหลิง พลางมุ่งหน้าไปตามทิศทางของขบวน ป่าทึบด้านหลังของพวกเขาแห้งเหี่ยวในพริบตา กลิ่นอายพลังสีดำมุดออกมาทะยานสู่ฟ้า อีกทั้งหิมะสีดำบนพื้นยังแผ่ขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว คลับคล้ายติดตามพวกซูหมิงไม่ยอมปล่อย

เวลาผ่านไปไวว่อง ไม่นานเมื่อหิมะสีดำด้านหลังหยุดแผ่ขยาย มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นบนท้องฟ้า ทั่วทั้งผืนนภาราวกับสั่นสะเทือน กลิ่นอายพลังแห่งความตายพลันเข้าปกคลุมฟ้าดิน

ซูหมิงเป็นห่วงท่านปู่ แต่ยามนี้ยังหันกลับไปมองไม่ได้ เขากับหนานซงพาพวกเหลยเฉินห้อเหยียดออกมา จนกระทั่งตามขบวนอพยพทัน ครั้นเห็นว่าเหล่าชาวเผ่าไม่มีใครเป็นอันตรายหลังจากแยกกันก่อนหน้านี้ ซูหมิงจึงโล่งอก

ชาวเผ่าเขาทมิฬเห็นพวกซูหมิงกลับมา สีหน้าทั้งเศร้าโศกและฮึกเหิม ที่พวกเขาเศร้าโศก นั่นก็เพราะว่าตอนไปมีทั้งหมดเก้าคน ทว่าตอนนี้กลับมาเพียงห้าคนเท่านั้น

ผู้นำกองรักษาการณ์ที่เสียขาทั้งสองข้างหมดสติ เป่ยหลิงบาดเจ็บสาหัส มีโลหิตไหลมาจากมุมปากไม่หยุด เหลยเฉินเสียตาข้างขวา สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนหนานซงแม้ว่าจะดูปกติ ทว่าสีหน้ากลับมัวหมอง เผยเค้าลางแห่งความตาย

ซูหมิงโลหิตอาบไปทั้งตัว ตรงหน้าอกมีแผลเหวอะ หากไม่ใช่เพราะหนานซงช่วยรักษา เกรงว่าตอนนี้คงสิ้นใจไปแล้ว

หลังจากพวกเขากลับมา แพทย์สามัญในเผ่าเข้ามารับตัวผู้นำกองรักษาการณ์ พาเขาเข้าไปในกลุ่มคน ก่อนเริ่มรักษาทันที เป่ยหลิงเดินคุ้มกันบิดาจนถึงที่หมาย ทว่าก็ยืนหยัดไม่ไหว ล้มลงในอ้อมกอดของเฉินซิน

“เผ่าภูผาดำมีกำลังเสริมจากภายนอก…พวกมันจะต้องมีอีกแน่ ข้าสละชีวิตก็ยังไม่อาจสังหารพวกมันได้ทั้งหมด แต่ก็ปิดล้อมเอาไว้ได้กลุ่มหนึ่ง พอถ่วงเวลาให้ชนเผ่าได้…รีบไป!” หนานซงหอบหายใจแรง มองไปทางจ้าวเผ่าหน้าขบวน

จ้าวเผ่าไม่สอบถามสิ่งใด เพียงแต่เผยความหนักแน่น พาขบวนอพยพไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว

ทว่าเดินไปได้ไม่นาน พลันมีเสียงระเบิดดังสนั่นบนท้องฟ้า เกิดระลอกคลื่นมหาศาลแผ่เป็นวงกว้าง งูเหลือมทมิฬตัวใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าใกล้กับขบวนอพยพ บนตัวของมันเต็มไปด้วยรอยระเบิดจำนวนมาก มันพยามดิ้นรนแหงนหน้าขึ้นอีก ในช่วงที่เกล็ดหิมะบนพื้นแยกออก มีเงาชายชราตกลงมาจากฟากฟ้าอีกครา ซูหมิงเห็นชัดเลยว่าเป็นท่านปู่!

ท่านปู่กระอักเลือด ขณะร่างกายใกล้ถึงพื้น ด้านหลังของเขามีค้างคาวจันทราสีโลหิตตัวใหญ่ตามลงมาอย่างเหี้ยมเกรียม หลังค้าวคาวจันทราคือปี้ถู ใบหน้าของเขาขาวซีด มุมปากมีโลหิตไหลเช่นเดียวกัน สีหน้าเผยความเคียดแค้นพร้อมจิตสังหาร

เหมือนจะไม่มีใครช่วยท่านปู่ได้ มันกระชั้นชิดจวนตัวเกินไป!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version