Skip to content

สู่วิถีอสุรา 956

ตอนที่ 956 ตัดชะตา

สามตัดสังหาร สังหารได้กระทั่งเทพไท่ซุ่ย!

สามสังหารหรือเรียกได้อีกอย่างว่าสามพิฆาต ท่ามกลางฟ้าดินมีเจวี๋ย ไท และหยั่งสามด้าน เจวี๋ยคือมารแห่งการปล้นชิง ไทคือมารแห่งภัยพิบัติ และหยั่งคือ มารแห่งกาลเวลา

หรือเรียกอีกอย่างว่าสามวิชาปล้นชิงสังหาร ภัยพิบัติสังหาร และกาลเวลาสังหาร

นี่ก็คือวิชาสามตัดสังหารที่ซูหมิงเคยเรียนตอนอยู่ภูเขาทมิฬ

ตอนนั้นเขาใช้วิชานี้ในเรือนพักเผ่าร่องลมที่ถูกท่านปู่ผนึกเอาไว้ ใช้อภินิหารวิชาเปิดผนึกออก แล้วเหนี่ยวนำพลังแห่งการปล้นชิงสังหารมาทำลายประตูผนึก นี่…คือการใช้วิชาสามตัดสังหารครั้งแรก

ตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจรากฐานของวิชานี้

ครั้งที่สองตอนอยู่บนแผ่นดินเผ่าเชมัน เขาเปิดรอยโหว่ของภูเขา เหนี่ยวนำเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นเงามืด ปรับเปลี่ยนเทือกเขาให้ได้มุมเหมือนกับมังกรพ่น ลมหายใจ นี่คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพื้นที่นั้น เหนี่ยวนำพลังแห่งภัยพิบัติสังหารมา วางเป็นวงแหวนอาคมตามธรรมชาติ

ครั้งนั้นเขาใช้วิชาสามตัดสังหารหลังจากเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นแล้ว

ตอนนี้ภายในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ซูหมิงใช้วิชานี้เป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้เขาเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว วิชานี้ไม่ใช่วิชาธรรมดา แต่เป็น…วิชากุมดวงชะตา!

วิชานี้ตัดฟ้า เปลี่ยนรูปแบบ ก่อกวนหยินหยาง พลิกกลับฟ้าดิน ต่อต้านสวรรค์…หัวใจสำคัญของมันแท้จริงแล้วคือใช้ประโยชน์ของการตัดทุกสรรพสิ่ง สุดท้ายก็ตัด ดวงชะตากับกฎดวงชะตาของคนคนหนึ่งออกจากผืนฟ้ากระจ่างดาว

ตัดการเชื่อมต่อทุกอย่างกับจักรวาล ทำให้โดดเดี่ยว เป็นอิสระ ทำให้คล้ายกับเสียดวงตา เสียรากฐาน ไม่มีอยู่ในฟ้าดิน

เหมือนกับการตัดดวงชะตา ทำให้คนกุมชะตาไม่ได้ หรืออาจพูดได้ว่าสามตัดสังหารก็คือสามตัดดวงชะตา!

“เจ้าทำได้เพียงควบคุมดวงชะตาภายนอก ยังไม่อาจควบคุมดวงชะตาข้าได้ ดังนั้น…” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองบรรพบุรุษเผ่าขวางสวรรค์ที่อยู่ห่างไปหมื่นจั้ง นัยน์ตาเขาฉายแววเข้าใจ สีหน้าสงบนิ่ง ถึงร่างเงาซ้อนทับในตัวเขายังถูกฉีกออก แต่เขากลับเมินเฉยต่อความเจ็บปวดจากการถูกฉีกได้

เพราะขณะต่อสู้ครั้งนี้ เขาค้นพบวิชาที่แกร่งที่สุดซึ่งถูกซ่อนอยู่ในความทรงจำท่ามกลางพลังของตนเอง เมื่อฟันมือขวาลง ซูหมิงก็เดินหน้าหนึ่งก้าวทันใด ในเวลาเดียวกันเส้นผมก็กลายเป็นสีขาวอย่างรวดเร็วเริ่มมาจากปลายผม

“ขั้นกุมชะตาเกิดดับ ดวงชะตาคือกฎ การตัดครั้งแรกนี้ ตัดมารแห่งการปล้นชิง การปล้นชิงหลอมรวมอยู่ในจักรวาล ใช้ดวงชะตาเป็นตัวเหนี่ยวนำ หากไม่มีดวงชะตาก็จะเหนี่ยวนำให้จักรวาลมีภัยพิบัติไม่ได้ ระหว่างดวงชะตากับภัยพิบัติมีเส้นเชื่อมกันอยู่ ข้าขอตัด…ดวงชะตาแห่งจักรวาลของเจ้า!”

ฟ้ากระจ่างดาวเกิดเสียงดังโครมคราม บรรพบุรุษขวางสวรรค์หน้าเปลี่ยนสีเป็นครั้งแรก ขณะที่ซูหมิงฟันมือลง ผืนฟ้ารอบตัวบรรพบุรุษขวางสวรรค์เกิดระลอกคลื่นใหญ่ยักษ์ในชั่วเสี้ยววินาที ระลอกคลื่นขยายออกไม่หยุดหย่อน มองไปคล้ายกับรอบตัวบรรพบุรุษขวางสวรรค์เกิดเส้นนับไม่ถ้วน เส้นเหล่านี้ล้วนมีลักษณะวงแหวน กระจายออกไปรอบๆ ไม่หยุด ดูแล้วดุจดั่งระลอกคลื่น

ทว่าการตัดครั้งแรกของซูหมิงคือตัดดวงชะตาแห่งจักรวาล ตัดวิชาดวงชะตาของบรรพบุรุษขวางสวรรค์กับฟ้ากระจ่างดาวรอบๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ารอบตัวบรรพบุรุษขวางสวรรค์คล้ายมีมีดคมไร้รูปอยู่เล่มหนึ่ง มีดนี้ตวัดไปมาทำให้เส้นเหล่านั้นทยอยกันขาดออกจากกัน พริบตาเดียวผืนฟ้าดวงดาวรอบตัวบรรพบุรุษขวางสวรรค์ก็ม้วนถอยไป

ซูหมิงในตอนนี้เดินก้าวแรก เขาพลันเข้ามาอยู่ในพื้นที่ห่างจากบรรพบุรุษขวางสวรรค์เจ็ดพันจั้ง ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสี เส้นผมซูหมิงก็เปลี่ยนเป็นสีขาวสามส่วน แต่เขาไม่หยุดแค่นี้ ยังยกเท้าเดินก้าวที่สองต่อ

“ตัดที่สอง ตัดมารแห่งภัยพิบัติ ภัยพิบัติหลงเหลือจากดินหนา ต้นกำเนิดจากแผ่นดิน เริ่มต้นจากใต้เท้า ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า การตัดครั้งนี้…ขอตัดดวงชะตาแห่งความว่างเปล่าของเจ้า!” ซูหมิงยกมือขวาขึ้นฟันลงครั้งที่สองอย่างไม่ลังเล

ฟ้ากระจ่างดาวสั่นไหวอย่างรุนแรง ประหนึ่งฟ้าดินย้อนกลับ จักรวาลผันแปร กฎทุกอย่างหายไป โดยเฉพาะมวลอากาศใต้เท้าบรรพบุรุษขวางสวรรค์ที่เกิดระลอกคลื่นจำนวนมากขึ้นอีกครั้ง

ทว่าเมื่อซูหมิงฟันไปลงครั้งที่สอง ระลอกคลื่นเหล่านั้นก็แตกกระจายออกพร้อมกัน เหมือนกับตัดการเชื่อมต่อมวลอากาศของบรรพบุรุษขวางสวรรค์

ดวงชะตาแห่งจักรวาล ดวงชะตาแห่งมวลอากาศ ดูแล้วเหมือนล่องลอย แต่ความจริงฟ้ากระจ่างดาวเกิดขึ้นจากการรวมของฟ้าและอากาศ การตัดสองอย่างนี้ไปก็เท่ากับว่า…ตัดบรรพบุรุษขวางสวรรค์ออกไปนอกฟ้าแห่งนี้ ทำให้เขาไม่อาจเชื่อมต่อกับฟ้ากระจ่างดาว

ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นเขตดาราของเผ่าขวางสวรรค์ ดาวแท้จริงที่นี่ ฟ้ากระจ่างดาวที่นี่ล้วนยอมรับเผ่าขวางสวรรค์ ทว่าซูหมิงกลับตัดการยอมรับและดวงชะตานี้ออกทั้งเป็น

เวลานี้ซูหมิงเดินก้าวที่สองเข้าไปอยู่ในพื้นที่ห่างจากบรรพบุรุษขวางสวรรค์สามพันจั้ง เส้นผมเขากลายเป็นสีขาวหกส่วน กลิ่นอายผ่านโลกมาอย่างโชกโชนเด่นชัดยิ่ง ยามบรรยายทุกอย่างดูไม่เร็วนัก ทว่าตอนที่เกิดขึ้นจริงเพียงไม่กี่ลมหายใจก็เสร็จแล้ว

“ตัดที่สาม ตัดมารแห่งกาลเวลา ตัดดวงชะตาแห่งฟ้ากระจ่างดาวของเจ้า เจ้ายังมีความคิดถึงของกาลเวลา คงอยู่ยาวนานในกาลเวลาที่นี่ หากกาลเวลามีวิญญาณ วิญญาณนี้ก็มีทุกอย่างของเจ้าในความทรงจำ การตัดนี้ ขอตัดดวงชะตาแห่งกาลเวลาของเจ้า!” ซูหมิงพลันยกก้าวที่สองขึ้น ฟ้ากระจ่างดาวประหนึ่งถูกพลิกกลับในทันใด บรรพบุรุษขวางสวรรค์เงยหน้าร้องลั่นด้วยความโกรธ เสียงคำรามสะเทือนฟ้า สะเทือนจนซูหมิงกระอักเลือด แต่กลับไม่อาจหยุดไม่ให้เขาก้าวเดิน ไม่อาจขวางการตัดครั้งที่สามจากมือเขา

ตัด!

จักรวาลแปรเปลี่ยน น้ำวนพายุกระจายออกโดยมีบรรพบุรุษขวางสวรรค์เป็นใจกลาง ฟ้ากระจ่างดาวในจุดที่น้ำวนผ่านจะเหมือนกับเวลาย้อนกลับ ถูกลบความทรงจำหายไป เมื่อน้ำวนหายลับ ตรงจุดที่บรรพบุรุษขวางสวรรค์อยู่ ในกาลเวลาตรงนั้นไม่มีร่างเงาบรรพบุรุษขวางสวรรค์ ฟ้ากระจ่างดาวตรงนั้นไม่มีการเชื่อมต่อกับเขาอีก

วิชาสามตัดสังหารของซูหมิงไม่ได้ตัดบรรพบุรุษขวางสวรรค์ แต่ตัดจักรวาลแห่งนี้ ตัดผืนฟ้ากระจ่างดาว ตัดความว่างเปล่า ตัดกาลเวลา ดังนั้นบรรพบุรุษขวางสวรรค์จึงต่อต้านไม่ได้ กระทั่งเขาก็เพิ่งเคยเห็นวิชาชนิดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจากซูหมิง มิหนำซ้ำยังรู้สึกว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานมากแล้ว!

วิชานี้ตัดกาลเวลาของฟ้ากระจ่างดาว และก็เป็นการตัดดวงชะตาของบรรพบุรุษขวางสวรรค์ทางอ้อมด้วย!

โครม!

ช่วงที่ซูหมิงเดินก้าวที่สาม เส้นผมกลายเป็นสีขาวทั้งหมด ใบหน้ามีร่องรอยของเวลาเล็กน้อย ทว่าร่างเงาสามร่างที่แยกจากตัวเขากลับหายไป หลังจากกลับมาเป็นสภาพตอนแรกสุดแล้ว เขาก็ยืนอยู่ห่างจากบรรพบุรุษขวางสวรรค์เกือบร้อยจั้ง จากนั้นเดินหน้าพลางยกมือขวาขึ้นชกผ่านอากาศไปทางบรรพบุรุษขวางสวรรค์

นี่คือหนึ่งหมัดจากร่างแยกขั้นพลัง หนึ่งหมัดจากร่างแยกกลืนนภา และหนึ่งหมัดจากร่างแยกเอ้อชาง พริบตาที่ชกหมัดไป ร่างเงาเอ้อชางพลันปรากฏขึ้นด้านหลัง เสียงโครมครามดังสนั่นฟ้าดิน สั่นสะเทือนฟ้ากระจ่างดาว ขณะเดียวกับที่เกิดรอยร้าวเป็นวงใหญ่ หมัดก็ส่งแรงพุ่งไปยังบรรพบุรุษขวางสวรรค์

ตอนสู้กันก่อนหน้านี้เขาไม่ต้องลงมือเลย แต่อาศัยคำพูด อาศัยพลังดวงชะตาของทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ก็แทบจะทำให้ซูหมิงโต้กลับไม่ได้แล้ว เวลานี้บรรพบุรุษขวางสวรรค์ที่ใกล้จะตายคนนี้หน้าซีดขาว ก่อนยกมือขึ้นโดยพลัน จากนั้นสะบัดแขนเสื้อตัวใหญ่ไปทางซูหมิงที่กำลังชกหมัดมา

เพียงสะบัด ฟ้าดินตรงหน้าเขาเกิดเสียงครึกโครมทันที และยังปรากฏฝ่ามือใหญ่ยักษ์ไร้ที่เปรียบข้างหนึ่ง มันตั้งอยู่ในฟ้ากระจ่างดาว จากนั้นก็พุ่งไปหาซูหมิงเหมือนกับการผลัก จุดที่มันผ่านฟ้ากระจ่างดาวจะพังพินาศลง พริบตาเดียวก็เข้าปะทะกับหมัดซูหมิง

โครม โครม โครม โครม!

ท่ามกลางเสียงโครมดังสนั่นหวั่นไหว ซูหมิงกระอักโลหิต ร่างซวนเซถอยไปหลายพันจั้งแล้วกระอักเลือดอีกครั้ง ทว่าเขากลับยิ้มมุมปากชั่วร้าย ดวงตาเปล่งประกาย

ส่วนบรรพบุรุษขวางสวรรค์มีสีหน้าทะมึนจนเหมือนกับบึงน้ำ ตัวเขาไม่แม้แต่จะสั่นไหว ทว่ามองจากสีหน้าเขากับซูหมิงก็จะรู้เลยว่าเขา…เป็นรองกว่า!

เพราะเขาถูกบีบให้ใช้ดวงชะตาไม่ได้อีก ทำได้เพียงใช้พลังของขั้นกุมชะตาโจมตีซูหมิง นี่เท่ากับว่าถูกคนผนึกอภินิหาร ใช้ได้เพียงพละกำลังลงมือ

และเพราะตอนนี้ตรงระหว่างคิ้วเขาปรากฏอักขระแถวหนึ่ง มันประทับอยู่ตรงหน้าผาก เมื่อครู่นี้มันยังไม่เผยมาอย่างชัดเจน แต่ยามนี้กลับเผยออกมาอย่างแจ่มชัด เพียงแต่อักขระมันอ่อนแสงอย่างยิ่ง ซูหมิงยังเห็นอีกว่ารอบตัวอีกฝ่ายมีเส้นนับไม่ถ้วนลอยอยู่ เขาลองต่อเส้นแห่งจักรวาล ฟ้ากระจ่างดาวและกาลเวลาที่ถูกซูหมิงตัดไปเมื่อครู่แล้ว แต่การตัดขาดจากเขตดาราทำให้มัน…เชื่อมต่อกันไม่ได้

สิ่งนี้ไม่ประสานรวมกับบรรพบุรุษขวางสวรรค์ เหมือนกับว่าถูกประทับตรงระหว่างคิ้วเอาไว้เฉยๆ…ไม่ใช่ของจากตัวเขา แต่เป็นสมบัติภายนอก

ขั้นพลังจริงๆ ของเขาเป็นเพียงระดับต้นในหนึ่งขั้นพลังของระดับกุมชะตา ยังไม่อาจเทียบกับระดับสูงในขั้นกุมชะตาที่ซูหมิงเคยเจอได้ ที่เขาก้าวสู่ขั้นกุมชะตาเกิดดับได้ก็เพราะวัตถุสิ่งนี้ ทำให้เขาสามารถควบคุมดวงชะตาของทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาล

ทว่าผลสุดท้ายของการทำแบบนี้คือขั้นพลังจะหยุดนิ่ง ไม่อาจควบคุมดวงชะตาของตัวเองอย่างผู้แข็งแกร่งระดับสูงในขั้นกุมชะตาอย่างแท้จริงไปชั่วนิรันดร์ หากควบคุมตัวเองได้ เช่นนั้นวิชาสามตัดสังหารที่ซูหมิงเข้าใจก่อนหน้านี้ก็จะไม่อาจตัดดวงชะตาได้

“นี่ต่างหากคือพลังที่แท้จริงของเจ้า และก็เป็นสาเหตุที่ว่าเหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าไม่แกร่งเท่าผู้กุมชะตาเกิดดับคนนั้นที่ข้าเคยเจอ แต่กลับรับมือยากยิ่งกว่า” ซูหมิงเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปาก เขาอยู่ห่างไปหลายพันจั้ง เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบโดยไม่สนใจเส้นผมขาวของตัวเอง

“รสชาติของการถูกตัดดวงชะตาเป็นอย่างไร”

“ข้าดูถูกเจ้าไป วิชาตัดดวงชะตาที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะนี้หายากยิ่ง…..ต้องเซ่นด้วยอายุขัยถึงจะใช้ได้ เจ้าใช้แล้วคงจะเสียพลังชีวิตไปไม่น้อย

ทว่า…ต่อให้เป็นแบบนี้ ด้วยพละกำลังที่แกร่งอย่างยิ่งในฟ้าดินของขั้นกุมชะตาของข้าก็สังหารเจ้าได้เช่นกัน” จิตสังหารในแววตาบรรพบุรุษขวางสวรรค์เข้มข้นยิ่ง ตอนนี้ในสายตาเขา ซูหมิงไม่ใช่คนที่เขาดูถูกและเหยียดหยามอย่างก่อนหน้านี้อีก แต่ถูกยกระดับขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับตน กระทั่งส่วนลึกในใจยังเกิดความละโมบอย่างแรงกล้า

เขารู้ดีว่าวิชาตัดดวงชะตานี้หายากยิ่ง หนำซ้ำเขายังไม่เคยเห็นวิชาอย่างที่ซูหมิงใช้เมื่อครู่มาก่อน จึงทำให้เขาอดเกิดความคิดอยากได้วิชานี้ขึ้นมามิได้

เขากล่าวพลางเดินหน้าหนึ่งก้าว พละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งปะทุออกมาทั่วร่าง พูดได้ว่าร่างกายเขาถึงระดับที่เรียกว่าฟ้าดินดับสูญแต่เขาไม่ดับสูญ จักรวาลเสื่อมโทรมแต่เขาไม่โรยราแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version