Skip to content

สู่วิถีอสุรา 958

ตอนที่ 958 มันจะทำ

นี่ก็คือแผนการของซูหมิง เขาอยากสู้กับชะตาเกิดดับก่อนเพื่อประเมิณกำลังรบตัวเอง เพื่อตามหาเส้นทางตัวเอง และเพื่อตามหาจุดทะลวงของตัวเองจากการท้าสู้กับผู้แข็งแกร่ง

จากนั้นเขาจะใช้คำขอแรกกับวิญญาณแห่งดินทราย หากสังหารได้ก็สังหาร หากทำไม่ได้ก็ให้พันธนาการไว้ เพื่อถ่วงเวลาให้เขาหนึ่งเดือน

ความจริง ซูหมิงใช้คำขอแรกตั้งแต่แรกเลยก็ได้ ให้วิญญาณแห่งดินทรายลงมือสังหารเผ่าขวางสวรรค์ ทว่าเขาตรึกตรองแล้วกลับไม่ทำเช่นนั้น

หากวิญญาณดินทรายลงมือ ข้ามเรื่องที่ว่าระดับกุมชะตาของเผ่าขวางสวรรค์ปรากฏตัวแล้วจะถูกพันธนาการไปก่อน ถึงตอนนั้นสิ่งที่รอซูหมิงอยู่ก็ยังเป็นสถานการณ์ตอนนี้อยู่ดี

ที่สำคัญกว่าคือเขาอยากจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ใช่การสังหารแบบง่ายดาย แต่เป็นการที่ทั้งเผ่าขวางสวรรค์ต้องจ่ายในราคาที่เคยล่าสังหารเทียนเสียจื่อ ให้พวกเขาหลบหนีจนสุดท้ายต้องตาย

บางที หากยืนในมุมมองของเผ่าขวางสวรรค์ การกระทำของซูหมิงนั้นช่างชั่วร้ายยิ่งนัก เป็นบาปหนาอย่างยิ่ง จะต้องถูกฟ้าดินประฌาม อีกทั้งยังเลือดเย็นและเหี้ยมโหด ถึงอย่างไรคนที่ล่าสังหารเทียนเสียจื่อในตอนนั้นก็เป็นเพียงผู้แข็งแกร่งบางส่วนของเผ่าขวางสวรรค์ ไม่ใช่ชาวเผ่าคนอื่นๆ

ทว่าซูหมิงก็ยังทำเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งก็ดี ชนเผ่าก็ดี พวกเขาล้วนเป็นเผ่าขวางสวรรค์ ในสายตาเขาไม่มีความดีชั่ว มีเพียงแค่หากเขาคิดว่าตนควรทำเช่นนี้ก็ควรทำ ถึงการกระทำจะไร้เหตุผลในสายตาคนอื่นและเต็มไปด้วยความชั่วร้ายจนถึงขั้นเรียกว่าคุ้มดีคุ้มร้ายก็ตาม

แต่ว่าเขาก็ยังทำเช่นนี้ นี่คือความลำเอียงของเขา นี่คือความรู้สึกนึกคิดเขา

เขาคุยด้วยเหตุผล แต่เขาจะเป็นคนกำหนดเหตุผลเอง และเขามีหลักการที่ยึดถือเช่นกัน แต่หลักการที่ว่าก็ต้องให้เขาเป็นคนกำหนด แก่นสำคัญของเหตุผลกับหลักการที่ยึดถือทั้งหมดของเขาก็คือ…

อย่าล่วงเกินข้า อย่าล่วงเกินสหายข้า อย่าล่วงเกินญาติพี่น้องข้า อย่าล่วงเกินอาจารย์และศิษย์พี่ศิษย์น้องข้า

ราคาสำหรับการล่วงเกินก็คือ…ฆ่าล้างเผ่า!

เสียงโครมครามดังก้องฟ้ากระจ่างดาว นั่นคือเสียงร้องลั่นของบรรพบุรุษขวางสวรรค์ที่ดังปะปนกับเสียงลากยาวภายใน มิหนำซ้ำข้างกายเขายังถูกดินทรายนับไม่ถ้วนโอบล้อม มองไปราวกับถูกร่างกายบิดเบี้ยวของมนุษย์ดินทรายยักษ์โอบรัดด้วยความบ้าคลั่ง

นอกตัวบรรพบุรุษขวางสวรรค์มีดินทรายเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครู่ต่อมาดินทรายก็รวมขึ้นเป็นดาวยักษ์ดวงหนึ่ง แกนกลางดาวก็คือบรรพบุรุษขวางสวรรค์

เสียงโครมดังแว่วมาจากในดาวดินทราย ทว่าเมื่อดาวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงจึงค่อยๆ ถูกกลบไป ร่างวิญญาณดินทรายหดเล็กลง ถึงที่สุดแล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ซูหมิงคือดาวยักษ์ดวงหนึ่ง บนดาวดวงนี้มีชายชราแก่เฒ่านั่งอยู่คนหนึ่ง

รูปลักษณ์ของชายชราคือวิญญาณดินทราย เขานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นประหนึ่งเฝ้ารักษาการณ์ ปิดตายบรรพบุรุษขวางสวรรค์ที่ถูกขังอยู่ข้างในไว้

“ข้ามาถึงช่วงโรยราแล้ว พลังอ่อนลงทุกวัน ช่วยเจ้าได้เพียงผนึกเขาหนึ่งเดือน…” ชายชราจากวิญญาณดินทรายเงยหน้ามองซูหมิงกลางฟ้ากระจ่างดาวพลางกล่าวราบเรียบ

น้ำเสียงเขาแฝงไว้ด้วยความรู้สึกโรยรา คล้ายกับว่ากลิ่นอายพลังกำลังเน่าเสียทีละน้อย ความรู้สึกแก่ชรามาพร้อมด้วยกลิ่นอายมรณะเข้มข้นที่วนเวียนรอบตัวเขา

“หนึ่งเดือนก็เพียงพอแล้ว” ซูหมิงก้มหน้ามองร่างกายตัวเอง ตอนนี้ตัวเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขายอมรับอาการบาดเจ็บนี้ เพราะมันมาพร้อมกับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า

เขารู้สึกว่าวิญญาณตนกำลังเปลี่ยนแปลง รู้สึกว่าหลังจากศึกครั้งนี้ร่างแยกเอ้อชางได้ตระหนักรู้ไปมาก ร่างแยกกลืนนภาก็เหมือนสัมผัสกับพละกำลังที่มีเพียงขั้นกุมเท่านั้นถึงจะได้รับรู้

และยังมีร่างแยกขั้นพลัง จากศึกครั้งนี้มันก็กระจ่างแจ้งในด้านการตระหนักรู้เช่นกัน

และสำคัญที่สุดคือเขาไม่มีความกลัวต่อขั้นกุมอีกแล้ว สำหรับเขานี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะส่วนลึกในใจเขายังคงไม่ลืมการหนีตายจากขุมอำนาจผู้รักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงในตอนนั้น สิ่งที่ยอดฝีมือขั้นกุมคนนั้นมอบให้เขาคือความแกร่งและยากจะต่อต้านที่ฝังอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ

มันเป็นเหมือนกับเมล็ดพันธุ์หนึ่งอยู่ในใจเขา สักวันหนึ่งมันจะแตกหน่อขึ้น ถึงตอนนั้นขั้นพลังเขาจะถดถอยเพราะพันธนาการนี้

ทว่าวันนี้เมื่อการต่อสู้จบลง ผลกระทบดังกล่าวก็ถูกลบหายไปจากใจเขา!

ซูหมิงขยับวูบไหวหมุนตัวกลับบินไกลออกไป ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังเผ่าขวางสวรรค์ แต่ไปทะเลดาราข้างนอก ด้วยความเร็วของเขา พริบตาเดียวก็หายวับไป

ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง ขณะที่ซูหมิงห้อเหยียดอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว เขายกมือขวาสะบัด ภาพสัญลักษณ์ชื่อหั่วโหวบนแขนพลันหายไป จากนั้นชื่อหั่วโหวก็ปรากฏกายข้างหน้า ก่อนคารวะซูหมิงด้วยความเคารพ

“เจ้าปกป้องข้าในช่วงนี้ ทำตามแผนการที่ข้าเคยบอกกับเจ้าเอาไว้ก่อนหน้า” ซูหมิงกล่าวราบเรียบ ชื่อหั่วโหวลังเลชั่วครู่แล้วก็ก้มหน้าลงขานรับ

จากนั้นซูหมิงใช้มือขวาตบถุงเก็บวัตถุทีหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีสายรุ้งยาวสีเหลืองกับดำบินออกมา กลายเป็นกระเรียนขนร่วงกับมังกรยมโลกตรงหน้า สองตัวนี้ถูกขังอยู่ในถุงเก็บวัตถุมาหลายปี นี่ถือเป็นการลงโทษต่อสิ่งที่พวกมันทำบนดาวมทมิฬ

หลังจากปรากฏตัวแล้ว กระเรียนขนร่วงก็เงยหน้าตะโกนเสียงแหลมทันที ตะโกนไปตะโกนมาก็เหมือนน้ำตาไหล

“สวรรค์ เจ้าคนสมควรตายนั่นขังข้ายี่สิบปีเจ็ดเดือนยี่สิบสิบเอ็ดวัน ข้าไม่ได้เห็นหินผลึกมายี่สิบปีเจ็ดเดือนยี่สิบเอ็ดวันเชียว…ข้าสาบาน ข้าสาบานว่าจะแตกหักกับ ซูหมิง ข้าสาบาน!”กระเรียนขนร่วงตะโกนเสร็จก็มองซูหมิงอย่างเหี้ยมโหด มันกัดฟันด้วยความโกรธ สีหน้าขมขื่นและเคียดแค้นฝังลึก

“ซูหมิง ท่านกระเรียนผู้ร่ำรวย หล่อเหลา และยิ่งใหญ่คนนี้จะขอแยกทางกับเจ้า จะขอแบ่งฝ่ายกับเจ้า! หึๆ ข้าจะบอกเจ้าให้ ไม่มีใครขังท่านกระเรียนผู้นี้ได้นานถึงยี่สิบปีเจ็ดเดือนยี่สิบเอ็ดวันหรอก ไม่มี…” กระเรียนขนร่วงกำลังตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ทว่ายังกล่าวไม่จบ ซูหมิงก็พูดเบาๆ ขึ้นก่อน เหมือนกับไปอุดคอกระเรียนขนร่วงเอาไว้ทันที ทำให้เสียงมันหายไป

“หินผลึกของหนึ่งชนเผ่า”

“หา? เจ้าว่าอะไรนะ?” กระเรียนขนร่วงตัวสั่น มันเบิกตากว้างในทันที นัยน์ตาเปล่งประกายเด่นชัด สายตาจ้องซูหมิงตรงๆ

มังกรยมโลกข้างๆ ถอนหายใจ ระหว่างส่ายศีรษะอยู่นี้ก็คิดว่ากระเรียนขนร่วงถูกซูหมิงซื้อไปแล้ว คิดไปคิดมา มันยังรู้สึกว่าตนฉลาดอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ไม่ได้ชอบหินผลึกมาก

พอคิดถึงตรงนี้มันก็มองคอตัวเองโดยจิตใต้สำนึก ตรงนั้นเป็นวัตถุสว่างพร่างพราวที่มันแอบซ่อนเอาไว้ในช่วงหลายปีมานี้

“ไม่ใช่ว่าจะแตกหักกับข้ารึ เจ้าไปเถอะ” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ

“ใครบอก สมควรตาย ไอ้เลวระยำคนใดมันพูดกัน ข้ากระเรียนขนร่วงกับซูหมิงผู้มีขั้นพลังสูงส่ง หล่อเหลา และยิ่งใหญ่คือพี่น้องที่ดีที่สุดในผืนฟ้าดวงดาว เป็นใครที่คิดจะแยกเราสองคน เป็นเจ้ารึ?” กระเรียนขนร่วงมองมังกรยมโลกที่ตะลึงงันอยู่ข้างๆ และไม่มีความผิดใดอย่างเหี้ยมโหด

“ไม่ใช่ว่าจะแยกทางกับข้ารึ เจ้าไปได้แล้ว” ซูหมิงชำเลืองตามองกระเรียนขนร่วงด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“บัดซบ เป็นใครกันแน่ อย่าให้ท่านกระเรียนรู้นะว่าใครช่างชั่วช้าเช่นนี้ ข้าจะกัดมันให้ตาย ข้าจะกัดก้นมัน! น่ารังเกียจไป ไร้ยางอายเกินไปแล้ว กระเรียนผู้ดีงามอย่างข้าจะไปพูดจาไร้น้ำใจเช่นนั้นได้อย่างไร ซูหมิง พวกเราเคารพซึ่งกันและกัน พวกเรารักกันเช่นนี้…เอ่อ ไม่สิ พวกเรา…..ไม่ถูกต้อง มันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ” กระเรียนขนร่วงมี สีหน้าร้อนรน มันกัดฟันแล้วหันกลับไปจ้องชื่อหั่วโหว จากนั้นก็ทำท่าจะพุ่งเข้าไป

“เป็นเจ้า เจ้าริษยาความดีงามระหว่างข้ากับนายท่าน เจ้า…..”

ซูหมิงขมวดคิ้ว กระเรียนขนร่วงยิ่งพูดยิ่งไม่มีมูลความจริง เขาจึงแค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง

กระเรียนขนร่วงกะพริบตาปริบๆ มันจับร่างกายไร้ขนของตัวเองทันที แล้วทำท่าทางเสียใจภายหลัง สายตามองซูหมิงอย่างน่าสงสาร

“นายท่านผู้หล่อเหลา นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ นายท่านผู้ชั่วร้าย ขนร่วงผิดไปแล้ว ทุกอย่างเป็นความผิดข้าเอง ทว่าหินผลึกไม่ผิด เมื่อครู่เจ้าบอกว่าหินผลึกของหนึ่งชนเผ่ารึ?” กระเรียนขนร่วงมีสีหน้าตื่นเต้น

“อืม ไม่ใช่เผ่าธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในสี่เผ่าใหญ่แห่งทะเลดาราต้นกำเนิดจิต มีหินผลึกที่สั่งสมมาหมื่นปี” ซูหมิงตอบกลับเรียบๆ

กล่าวเช่นนี้แล้ว กระเรียนขนร่วงก็ตื่นเต้นจนแทบจะหมดสติไป มันพุ่งเข้าไปกอดขาซูหมิงแล้วร้องโอดครวญทันที

“นายท่าน งานใหญ่ขนาดนี้ ท่านอย่าโยนให้ข้าไปจัดการคนเดียวเลย ข้ากระเรียนขนร่วงช่วยท่านนับหินผลึกให้ได้ ข้ารับรองว่าจะไม่ละโมบแม้แต่น้อย ข้ายังช่วยท่านหาหินผลึกได้อีกด้วย ข้าจมูกดี อีกอย่างข้ายังรวดเร็วด้วย ท่านลองนึกดู ข้าว่องไวขนาดนี้ ขโมยหินผลึกหนีไปแล้วใครจะตามทัน

และยังมีอีกๆ ข้าเปลี่ยนร่างได้ ข้าจะเปลี่ยนเป็นหินผลึก ใครก็มองไม่ออก”

“เจ้าอยากเข้าร่วมด้วยจริงๆ รึ?” ซูหมิงก้มหน้าลงมองกระเรียนขนร่วง

กระเรียนขนร่วงรีบพยักหน้า สายตามองซูหมิงอย่างตื่นเต้น

“จะต้องแลกเปลี่ยนเล็กน้อย…” ซูหมิงเพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ กระเรียนขนร่วงก็อึ้งงันไป มันคลายกรงเล็บออกจากสองขาของซูหมิง

“แต่ข้าจะให้หินผลึกแก่เจ้าสามส่วน” กล่าวจบ กระเรียนขนร่วงก็จับขาซูหมิงไม่ยอมปล่อยทันที

“หกส่วน!” มันกัดฟันบอกไป มันเตรียมต่อรองกับซูหมิงมาก่อนแล้ว

“ตกลง แต่เจ้าจะต้องฟังคำสั่งข้าทุกอย่าง” ซูหมิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล กระเรียนขนร่วงตะลึงงัน ในใจพลันนึกตกใจระคนสงสัยเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อ ซูหมิงก็ใช้มือขวาตบถุงเก็บวัตถุทีหนึ่ง เสียงหึ่งๆ พลันดังก้อง จากนั้นผึ้งพิษที่มีน้ำหวานดอกผนึกจิตก็บินออกมาแล้วกัดบนตัวกระเรียนขนร่วง

น้ำหวานดอกผนึกจิตเสี้ยวหนึ่งหลั่งไหลเข้าไปในร่างมัน จากนั้นซูหมิงก็ยกสองมือขึ้นอย่างเร็วไว กดบนตัวกระเรียนขนร่วงติดกันหลายครั้ง มีกลิ่นหอมน้ำหวานผนึกจิตเข้มข้นแผ่กระจายออกมาจากตัวมันอย่างรุนแรง

กลิ่นหอมนี้กระจายออกไปรอบๆ ในทันใด ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตที่เดิมทีเงียบสงัด ยามนี้พลันมีเสียงคำรามแหลมมากมายดังแว่วมา

ตอนนี้กลิ่นหอมเข้มข้นจากน้ำหวานดอกผนึกจิตทำให้กระเรียนขนร่วง…กลายเป็นบ่อเกิดที่ทำให้สัตว์ร้ายทั้งหมดในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตคลุ้มคลั่ง!

มังกรยมโลกยังมองไปด้วยจิตใจที่คึกคัก ทว่าพอเห็นภาพนี้แล้ว มันก็ตัวสั่นขึ้นมาโดยพลันแล้วถอยไปอย่างว่องไว

ชื่อหั่วโหวก็หรี่ตาลง แล้วจึงถอยไปอย่างรวดเร็วและไม่ลังเล

กระเรียนขนร่วงตะลึงงัน มันก้มหน้าดมตัวเอง ก่อนจะร้องเสียงแหลมขึ้นประดุจคลุ้มคลั่ง

“น้ำหวานดอกผนึกจิต สมควรตาย ทะ…ที่นี่คือทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ที่นี่มีสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน ขะ….ข้า….” ระหว่างที่มันร้องเสียงแหลม แม้แต่คำเรียกตัวเองว่าท่านกระเรียนที่ติดปากก็ยังลืมพูดออกมา

“ล่อสัตว์ร้ายแสนตัวมาข้าจะให้เจ้าเจ็ดส่วน ล่อสัตว์ร้ายสามแสนตัวมาข้าจะให้เจ้าแปดส่วน ล่อสัตว์ร้ายห้าแสนมาตัวข้าให้เจ้าเก้าส่วน ล่อสัตว์ร้ายหนึ่งล้านตัว…ข้าจะให้เจ้าสิบส่วน!” ซูหมิงบอกอย่างสงบนิ่ง

กระเรียนขนร่วงพลันตัวสั่นพลางกัดฟันแน่น มันจะทำ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version