Skip to content

สู่วิถีอสุรา 964

ตอนที่ 964 พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน…

มังกรยมโลกสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ ร่างซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว สายตาที่มองสวี่ฮุ่ยเหมือนกับเห็นผี ความตื่นตะลึงทางสีหน้าบ่งบอกได้ว่ากายและใจมันตกใจเพียงใด

ถึงมันจะไม่ฉลาดเฉลียวนัก แต่ก็รู้ว่าคนที่มองมันเพียงแวบเดียวก็คาดเดาเรื่องได้มากขนาดนี้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา

นายหญิงน้อยของมันก็มีความสามารถแบบนี้ แต่เมื่อเทียบกับหญิงสาวคนนี้แล้ว นายหญิงน้อยอ่อนกว่าเล็กน้อย

“ดูท่าข้าคงเดาถูก คนที่ต้องเข้างานแต่งครั้งใหญ่ในตอนนั้นกับองค์ชายสามของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกก็คืออวี่เซวียน หรือนายหญิงน้อยของเจ้า” สวี่ฮุ่ยยิ้มพลางหันไปมองซูหมิง

“เช่นนั้น อวี่เซวียนเป็นคนรักของเจ้ารึ?” ตอนที่กล่าวประโยคนี้ สีหน้าสวี่ฮุ่ยไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ ท่าทีสงบนิ่งแบบนี้ทำให้ซูหมิงนึกไปถึงตอนที่คุยกับนาง หลังจากคุยเรื่องเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว ทั้งๆ ที่นางรู้ว่าถูกเขาเห็นหมดทั้งตัว แต่กลับไม่มีความโกรธและอายของสตรีแม้แต่น้อย ความสุขุมแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เด็กสาวผู้ยังไม่โตเต็มวัยจะมีได้

ซูหมิงมองสวี่ฮุ่ยแวบหนึ่ง เขาไม่ตอบ แต่นั่งลงหลับตาทำสมาธิ การต่อสู้ของเขากับบรรพบุรุษขวางสวรรค์ผ่านไปเพียงครึ่งเดือนกว่า ในร่างกายยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ จะต้องรีบฟื้นฟูให้เร็วที่สุด หนำซ้ำเขาในตอนนี้แยกสามร่างแยกใหญ่ออกแล้ว ร่างแยกเอ้อชางกลับไปในแดนประหลาด หากฟื้นฟูอยู่ที่นั่นจะรวดเร็วกว่ามาก

สวี่ฮุ่ยเห็นซูหมิงไม่พูด จึงยิ้มและไม่ถามต่ออีก แต่นั่งอยู่ข้างกายคอยคุ้มกันให้เขา

เวลาผ่านไปหลายวันอย่างรวดเร็ว ซูหมิงเลือกฝึกฝนอยู่ที่นี่ สาเหตุพื้นฐานที่สุดจริงๆ คือกำลังรอการมาถึงของบรรพบุรุษขวางสวรรค์ เรื่องที่เขาข่มขู่ไปก่อนหน้านี้ หากบรรพบุรุษขวางสวรรค์เลือกประนีประนอมจริงๆ เขาก็จะได้ดำเนินแผนการต่ออย่างสบายใจ เวลาสามวันถือว่าไม่นาน แต่ก็มากพอจะยืนยันการเลือกของบรรพบุรุษขวางสวรรค์แล้ว

หากบรรพบุรุษขวางสวรรค์มา เขาจะให้วิญญาณแห่งดินทรายขังอีกฝ่ายเอาไว้อีกครั้งอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็จะไปล่อทะเลสัตว์ร้ายด้วยตัวเองเพื่อทำลายล้างทั้ง เผ่าขวางสวรรค์ ต่อให้บรรพบุรุษขวางสวรรค์วางแผนซ่อนเผ่าขวางสวรรค์ก่อนแล้วค่อยมาล่าสังหารเขา แต่ในเมื่อซูหมิงคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เช่นนั้นเขาย่อมมีการเตรียมตัวแน่

สามวันต่อมา ซูหมิงลืมตาขึ้น เขายกมือขวาทำสัญลักษณ์มือขณะดวงตาขยับประกาย ผ่านไปครู่หนึ่งเขายังคงมีสีหน้าปกติ แต่ดวงตากลับมีประกายเย็นชาวูบผ่าน

“สวี่ฮุ่ย ข้าจะเดินทางในวงแหวนชั้นในของทะเลดาราต้นกำเนิดจิตต่อ เจ้าจะไปกับข้าหรือกลับไปรวมกับเก้าผู้เฒ่ายมโลก” ซูหมิงหันไปมองสวี่ฮุ่ย

“ในเมื่อมาที่นี่แล้ว ข้าย่อมไม่อาจกลับไปคนเดียว” สวี่ฮุ่ยยิ้มงดงาม

ซูหมิงพยักหน้า ก่อนยันกายขึ้นเดินหน้าหนึ่งก้าว มายืนอยู่บนหัวสัตว์อากาศธาตุ สัตว์อากาศธาตุตัวสั่นไหวครู่หนึ่ง สีหน้าดูว่านอนสอนง่าย ถึงอย่างไรหลายปีมานี้คนที่ให้อาหารมันส่วนใหญ่ก็เป็นซูหมิง ดังนั้นจึงค่อนข้างรู้สึกดีกับเขา และลืมความทรมานตอนถูกกำราบในตอนนั้นไปนานแล้วด้วย

สวี่ฮุ่ยเดินมายืนอยู่ข้างซูหมิง ส่วนกระเรียนขนร่วงกับมังกรยมโลก ในสามวันนี้พวกมันคุยกันเรื่องแบ่งผลประโยชน์ตลอด ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างพอใจมากแล้ว จึงวิ่งมาอยู่บนตัวสัตว์อากาศธาตุเช่นกัน ทว่ามังกรยมโลกจะออกห่างจากสวี่ฮุ่ยไปไกลมาก เห็นได้ชัดว่าเงามืดก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ตลอด จึงไม่กล้าล่วงเกิน

ทว่ากระเรียนขนร่วงยึดมั่นมาตลอดว่ามันเป็นพี่ใหญ่ของมังกรยมโลกแล้ว พอเห็นน้องเล็กหวาดกลัวสวี่ฮุ่ยเช่นนี้ จึงเกิดความคิดให้มังกรยมโลกหลุดพ้นจากสภาพเลวร้ายนี้ เพียงแต่ส่วนใหญ่มันจะแสดงออกเป็นการยั่วยุ เหมือนกับมีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะบ่งบอกฐานะของมันได้อย่างชัดเจน ทว่าก็ได้แววตาฮึกเหิมจากมังกรยมโลกกลับมาจริงๆ

“ก่อนหน้านี้ข้าเห็นผู้ฝึกฌานน่าสนใจอยู่สี่คน” ซูหมิงยืนอยู่บนสัตว์ร้ายอากาศธาตุ เขาเอ่ยเสียงเบาระหว่างที่สัตว์ร้ายพุ่งไปข้างหน้า ด้วยความเร็วของมัน วูบเดียวก็ออกไปจากหินผุพัง

“ผู้ฝึกฌานสี่คน?”สวี่ฮุ่ยกะพริบตา

“เป็นผู้ฝึกฌานที่มีความลับสี่คน พวกเขาเชิญข้าให้เดินทางไปด้วยกัน ข้าตอบตกลงไปแล้ว ทว่าตอนนี้พวกเขากลับเปลี่ยนใจ ไม่ทำตามคำสัญญากับข้า” ซูหมิงกล่าวเรียบนิ่ง

สวี่ฮุ่ยยิ้ม ดวงตาหรี่ลงเป็นจันทร์เสี้ยว นางจินตนาการออกเลยว่าความจริงไม่ใช่อย่างที่ซูหมิงพูดแน่นอน ผู้ฝึกฌานสี่คนนั้นต้องยื่นข้อเสนอนี้ภายใต้ความกลัวอย่างแน่นอน คำเชิญที่ว่าเป็นเพียงแผนการเฉพาะหน้าเท่านั้น

“อืม เป็นผู้ฝึกฌาน ต้องให้ความสำคัญกับสัญญาถึงจะถูก เหตุใดสี่คนนี้ถึงทำแบบนี้ได้” สวี่ฮุ่ยพยักหน้าพูดอยู่ข้างๆ

“ใช่ พวกเขาทำเกินไปหน่อย” ซูหมิงยิ้มเยาะพลางตอบด้วยสีหน้าปกติ

“ต้องให้บทเรียนพวกเขาบ้าง” สวี่ฮุ่ยข้างๆ ก็ช่วยพูดสนับสนุนด้วย

“ข้าตั้งใจว่าจะวางผนึกในตัวพวกเขาเล็กน้อย” ซูหมิงเอ่ยขึ้น

“แบบนี้ไม่ดี สู้พวกเราวางเครื่องหมายในตัวพวกเขาสี่คนไม่ดีกว่ารึ ข้าเคยเห็นวิชาชนิดนี้มาก่อน สามารถทำให้บุรุษกลายเป็นสตรีได้ วิชานี้มีประโยชน์มาก ข้าเคยหาคนมาฝึกใช้อยู่บ่อยครั้ง…หรืออาจจะให้จิตแรกกับร่างกายพวกเขาสี่คนสลับกันก็ได้ คล้ายๆ กับการยึดร่าง การลงโทษแบบนี้จะทำให้พวกเขาจำไปจนวันตาย” สวี่ฮุ่ยคิดอยู่ชั่วครู่ก็เสนอขึ้นมา

คำพูดของนางกับซูหมิงเข้าถึงหูกระเรียนขนร่วงที่มีนัยน์ตายั่วยุ และก็เข้าถึงหูมังกรยมโลกเช่นกัน เจ้าสองตัวนี้ตัวสั่นในฉับพลัน

โดยเฉพาะกระเรียนขนร่วง มันรีบเก็บสายตายั่วยุกลับไปแล้วเผยท่าทีประจบ มันพบว่าสตรีนามสวี่ฮุ่ยคนนี้ที่แท้ก็ช่างร้ายกาจเพียงนี้เลย…

มันมองแผ่นหลังของนางกับซูหมิงพลางฟังบทสนทนาของสองคน รู้สึกทันทีว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างเหมาะสมกันจริงๆ มันใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงกลายร่างทันที ไม่ใช่ร่างสุนัขอีก แต่เป็นร่างเดิมของมัน เพื่อไม่ให้ล่วงเกินสตรีคนนี้และขีดเส้นความสัมพันธ์กับมังกรยมโลก

ทางมังกรยมโลกเองก็ถอยหลังไปอีกหลายก้าว ส่วนลึกในใจตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีทางล่วงเกินสวี่ฮุ่ย โดยเฉพาะความหมายแฝงจากในคำพูด พอมันได้ยินแล้วก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

คาดการณ์ได้ว่าหากผู้ฝึกฌานสี่คนนั้นถูกทรมานแบบนี้จริงๆ นั่นจะเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

“แบบนี้…คงจะไม่ดีนัก” ซูหมิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

“เหตุใดถึงไม่ดี ไม่เป็นไรๆ ถึงตอนนั้นเจ้าคอยดูข้าเถอะ เรื่องแบบนี้ข้าทำบ่อย….เฮอะๆ….” สวี่ฮุ่ยกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น เหมือนกระตือรือร้นกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ

“เอ่อ…” ซูหมิงหันไปมองสวี่ฮุ่ย ข้อเสนอนี้อย่าว่าแต่กระเรียนขนร่วงเลย แม้แต่เขายังรู้สึกว่าโหดเกินไปหน่อย

“โธ่ อย่าลังเลเลย ถึงตอนนั้นเจ้าคอยดูข้าเถอะ ข้าละเชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้ วางใจเถอะ ข้าจะให้พวกเขาจำบทเรียนครั้งนี้ไว้ ให้พวกเขารู้ว่าเป็นผู้ฝึกฌานจะต้องรักษาคำพูดเป็นสำคัญ” สวี่ฮุ่ยเลียริมฝีปาก พอเสริมกับสีหน้าตื่นเต้นแล้วดูน่าดึงดูดมาก เพียงแต่คำพูดนางกลับทำให้ซูหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเฝื่อน

“…ก็ได้” ซูหมิงส่ายศีรษะ ส่วนสัตว์อากาศธาตุใต้เท้าก็ห้อเหยียดไปตามตราประทับที่วางเอาไว้ในตัวสี่คนซึ่งสัมผัสได้จากในกระแสจิต

ณ ฟ้ากระจ่างดาวที่ห่างจากซูหมิงเล็กน้อย ตอนนี้พวกเสวียนซางสี่คนกำลังทะยานไปอย่างเร่งรีบ พวกเขารวดเร็วอย่างยิ่ง กลายเป็นสายรุ้งยาวสี่สาย จุดที่ผ่านไป ภายในฟ้าดวงดาวจะไม่เกิดระลอกคลื่นแม้แต่น้อย

“ผ่านมามากกว่าครึ่งเดือนแล้ว พวกเราจะไปกันแบบนี้ จะไม่รอคนนั้นจริงๆ รึ?” ชายนามอวิ๋นโหยวหนึ่งในสี่คนกล่าวเสียงเบาด้วยความลังเล

“เขาคือคนที่มีแต่ความชั่วร้าย มีเขาอยู่ ข้าว่าครั้งนี้พวกเราคงไม่ได้อะไรเลย…”

“แต่ข้าคิดว่าในเมื่อเขากล้าปล่อยพวกเราไป เช่นนั้นก็จะต้องมีวิธีหาพวกเราเจอแน่ เฮ้อ”

“ไม่เป็นไร เดินทางอีกสามวันพวกเราก็จะเข้าไปในอาคมเคลื่อนย้ายน้ำวนแล้ว ถึงตอนนั้นจะออกจากที่นี่ไปไกล ต่อให้เขามีอภินิหารวิชาตามหาพวกเราพบ ต่อให้เขาวางตราประทับไว้ในตัวพวกเรา แต่ขอแค่อยู่ห่างมากพอและเขาไม่รู้ตำแหน่งอาคมเคลื่อนย้ายน้ำวนของที่นี่ ก็จะหาเราไม่พบ”

“มีแต่วิธีนี้เท่านั้นแล้ว แต่เขาสู้กับบรรพบุรุษขวางสวรรค์ ไม่มีทางที่จะไม่บาดเจ็บเลย บางทีตอนนี้อาจจะรักษาตัวอยู่จนไม่มีเวลามาสนใจพวกเราก็ได้”

“ถูกต้อง ไม่ต้องกังวล ต่อให้เขาตามมาก็ไม่เป็นไร เดิมทีเขาไม่ได้บอกที่ให้พวกเรารออยู่แล้ว แต่บอกว่าจะมาหาเราเอง ในเมื่อเป็นอย่างนั้น นี่จึงถือว่าไม่ใช่ความผิดพวกเรา”

สี่คนสนทนากันพลางห้อเหยียดไป หลังจากสนทนากันไปชั่วขณะหนึ่ง แม้ในใจยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อย แต่กลับเพิ่มความเร็วขึ้นอีก และมุ่งหน้าไปยังจุดอาคมเคลื่อนย้ายน้ำวนที่ห่างจากที่นี่ไปสามวัน

เวลาค่อยๆ ผ่านไป เมื่อวันที่สามมาถึง ผู้ฝึกฌานสี่คนตาเป็นประกาย หากข้ามผ่านอาคมเคลื่อนย้ายน้ำวนตามแผนที่ที่พวกเขาได้มา ก็จะเข้าไปสู่เขตใจกลางวงแหวนชั้นในของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ซึ่งที่นั่นห่างจากเผ่าธุลีแผดเผาไม่ไกล

“ถึงแล้ว ข้างหน้านี่เอง ตอนนี้คนชั่วร้ายนั่นก็ยังไม่มา ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องรอเขาแล้ว” ชายนามอวิ๋นโหยวยิ้ม

สามคนที่เหลือก็ถอยหายใจโล่งอกอยู่ภายใน ถึงปากพวกเขาจะบอกว่าผ่อนคลายลง แต่ความจริงครึ่งเดือนกว่ามานี้พวกเขาตึงเครียดมากมาตลอด ถึงอย่างไรแรงกดดันที่ ซูหมิงมอบให้ในตอนนั้นก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

ครู่ต่อมา สี่คนนี้หยุดอยู่ในฟ้ากระจ่างดาว ผู้ฝึกฌานนามเสวียนซางมองไปรอบๆ แล้วยกมือขวาโบกไป ทันใดนั้นมีฝุ่นละอองโปรยลงมา จากนั้นตรงจุดเล็กมากที่อยู่ไม่ไกลก็สูบกินฝุ่นละอองไปเล็กน้อย

ตรงจุดนั้นมีขนาดเพียงเล็บมือ หากไม่มองดีๆ ก็ยากจะมองออกจากในผืนฟ้าดวงดาวกว้างใหญ่

“เป็นที่นี่เอง!” นัยน์ตาเสวียนซางฉายประกายตื่นเต้น ขณะกำลังจะเดินเข้าไปในน้ำวนนั้น เสียงหนึ่งที่ทำให้สี่คนตัวแข็งค้างก็ดังก้องในฟ้ากระจ่างดาว

“สี่ท่านเดินทางกันเร็วจริงๆ หรือว่าลืมสัญญาของแซ่ซูไปแล้ว”

ขณะเดียวกับที่เสียงดังก้อง ฟ้ากระจ่างดาวเกิดระลอกคลื่นวงกว้าง ชั่วเสี้ยวขณะเดียว ภายในดวงตาสี่คนนี้ พวกเขาเห็นสัตว์ร้ายอากาศธาตุรูปร่างคล้ายจระเข้ขนาดหลายพันจั้งตัวหนึ่งโผล่มาจากความว่างเปล่า

เห็นซูหมิงบนหัวสัตว์ร้ายมองมาอย่างเย็นชา และยังมีหญิงสาวงามล้ำข้างหลังกำลังยิ้มตาหยีมองมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย รวมถึง…มังกรยมโลกในร่างสุนัขกับกระเรียนขนร่วงด้านหลังสองคนนี้

ตอนที่เห็นกระเรียนขนร่วง พวกเขาสี่คนหน้าเปลี่ยนสี ราวกับว่าแม้แต่ซูหมิงยังไม่สำคัญในใจพวกเขาแล้ว แต่ถูกกระเรียนขนร่วงดึงดูดไปทั้งหมด

พวกเขามองแวบเดียวก็รู้แล้วว่ากระเรียนขนร่วงตัวนั้นคือตัวเดียวกับที่พวกเขาเคยเห็นกลางฟ้ากระจ่างดาว เป็นมันที่ถูกฝูงสัตว์ร้ายล้านตัวล่าสังหาร

‘พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน…’ ในความคิดพวกเขาสี่คนมีเพียงประโยคนี้ลอยขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version