ตอนที่ 988 บรรพบุรุษแห่งต้นไม้
“ซู…” ยามเสียงที่ทั้งแปลกตาและคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เจตนาเดิมของมันเพียงเรียกหาซูหมิง การเรียกหานี้แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ซูหมิงบอกไม่ถูก เขารู้สึกว่า….เสียงนี้ไม่มีเจตนาร้ายต่อเขาแม้แต่น้อย
กลับกัน มันแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นที่ทำให้เขาใจสั่นไหว ความอบอุ่นนี้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากจะไปหา อยากจะเก็บมันไว้ชั่วนิรันดร์
ทว่าเขากลับไม่นึกเลยว่าการปรากฏของเสียงนี้จะทำให้กระเรียนขนร่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เสียงสองเสียงนั้นเป็นของกระเรียนขนร่วง เป็นมันที่พูดออกมา ทว่าหนึ่งเป็นกระเรียนขนร่วงที่เขารู้จัก และอีกหนึ่ง ถึงจะมีเสียงเหมือนกัน แต่ความรู้สึกดื้อรั้น เย็นชา และอยู่สูงส่งจากน้ำเสียงกลับ ทำให้มันดูต่างจากกระเรียนขนร่วงที่เขาคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง
ข่งหมัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินนามนี้ เขารู้นานแล้วว่ากระเรียนขนร่วงก่อนเสียความทรงจำมีนามว่าข่งหมัว!
พอได้ยินกระเรียนขนร่วงร้องตะโกน ได้ยินคำพูดของดวงจิตสองดวงที่กำลังต่อต้านกันในตัวกระเรียนขนร่วง โดยเฉพาะยามได้ยินคำว่าฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนแล้ว ก็พลันเกิดเสียงโครมดังในความคิดซูหมิง
เหมือนกับเป็นเยื่อกั้นชั้นหนึ่งถูกทำลาย เขาเข้าใจแล้ว!
เขาเข้าใจแล้วว่าตอนนั้นเหตุใดพอดวงจิตเอ้อชางเห็นกระเรียนขนร่วงแล้วถึงตะโกนด้วยความโกรธว่ามันเป็นคนทรยศ เขายังเข้าใจอีกว่าผู้เฒ่าเมี่ยเซิงไม่ได้อยู่ในมหาโลกสามรกร้าง แต่เป็นฝ่ายที่มีหนึ่งร้อยแปดสิบมหาโลกนามว่าเงามืดรุ่งอรุณ
จินตนาการได้ว่าเมื่อไม่รู้กี่ปีก่อน ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงนั่งเรือโบราณลำหนึ่งมายังมหาโลกสามรกร้าง มาถึงที่นี่ และสร้างเพลงกลอนบทหนึ่งขึ้น ในเพลงกลอนมีสิ่งมีชีวิตเก้าตัวและสี่กลุ่ม พวกมันได้รับชีวิตนิรันดร์ไป
ในเพลงกลอนมีเอ้อชางและก็มี…กระเรียนขนร่วง!
ทว่าฐานะจริงๆ ของกระเรียนขนร่วง แม้แต่ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงก็อาจจะมองไม่ออก มันไม่ได้อยู่ในมหาโลกสามรกร้างเหมือนกัน มันคือข่งหมัว มันคือฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนที่มีหนึ่งร้อยแปดสิบมหาโลก!
ดังนั้น เอ้อชางถึงบอกว่ามันเป็นคนทรยศ บางที…การตายของผู้เฒ่าเมี่ยเซิงอาจจะมีความลับที่ลึกล้ำกว่านั้น บางทีมันอาจมาจากคำว่า…ทรยศ!
‘แก่นสวรรค์….มหาโลกสามรกร้างถูกเรียกกว่าแก่นสวรรค์อย่างนั้นหรือ เพราะว่าที่นี่คือเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนสองฝ่าย พวกมันต่างฝ่ายต่างกำลังแย่งชิงหนึ่งโลกกัน หากฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณขาดหนึ่งโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนเพิ่มมาหนึ่งโลก กลับกันก็เป็นเช่นนี้ ใครยึดครองแก่นสวรรค์ได้ ใครมีโอกาสได้ก่อน ก็จะ….เริ่มสงครามได้!
ดังนั้น เพื่อยึดครองมหาโลกสามรกร้าง ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนจึงใช้กลอุบายของตัวเอง ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณส่งผู้เฒ่าเมี่ยเซิงมา ส่วนฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนสร้างข่งหมัวขึ้นมา!
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนล้วนไม่อาจลงมือกับมหาโลกสามรกร้างก่อน ที่นี่จะต้องมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่แน่นอน!
และยังมีการหายไปของแคว้นเว่ยโบราณหนึ่งในสามแคว้นโบราณอีก ในนั้น…จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างแน่ๆ!’
เกิดเสียงโครมในใจซูหมิง เรื่องราวทุกอย่างเหล่านี้ ก่อนหน้านี้เป็นเพียงเบาะแสกระจัดกระจายในความคิด ทว่าตอนนี้ จากการเปลี่ยนแปลงของกระเรียนขนร่วง เมื่อเกิดการต่อต้านของสองดวงจิตในร่างกายมัน ซูหมิงจึงได้เข้าใจ!
‘ตอนนั้นข่งหมัวกลายเป็นคนทรยศในสายตาเอ้อชาง ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว ข่งหมัวบาดเจ็บสาหัสสามครั้งจนกระทั่งเสียกายหยาบไป แม้แต่ความทรงจำยังถูกทำลายไปด้วย ทว่ามันไม่ตาย เหมือนกับที่ข่งหมัวบอกไว้ก่อนหน้านี้ กระเรียนขนร่วงไม่ควรจะปรากฏตัว…เพียงแต่ดวงจิตของข่งหมัวหลับใหลอยู่ จึงเกิดดวงจิตของกระเรียนขนร่วงขึ้น
กระเรียนขนร่วงไม่มีภารกิจ มันยึดมั่นต่อหินผลึก มันเลวทราม มันไร้ยางอาย ทว่ามัน…เป็นสหายของข้า!’
‘แต่ข้าได้รับเศษเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างมา จึงเปิดเป็นการสืบทอด ดังนั้นแล้ว ข้า…ก็คือผู้มาแทนที่ชายชราเมี่ยเซิง ข้า…กลายเป็นทูตจากค่ายเงามืดรุ่งอรุณในมหาโลกสามรกร้าง!
ถ้าอย่างนั้นแล้ว…เสี่ยวหงที่มอบเศษเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างนี้ให้กับข้า มันเป็นวานรเพลิงจริงๆ หรือว่า…’ ซูหมิงหายใจกระชั้น การเข้ามาเตาหลอมลำดับห้าครั้งนี้สร้างแรงปะทะต่อตัวเขารุนแรงเกินไปจริงๆ
‘และยังมีหม้อฮวงสมบัติล้ำค่าของเผ่าหมานอีก ข้าเคยสงสัยว่าเศษของเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างคือเศษของหม้อฮวง ทว่าตอนนี้มันซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ ทุกอย่างซ่อนความลับอะไรเอาไว้กันแน่ แดนมรณะหยินเป็นสถานที่แบบใด ระหว่างหม้อฮวงกับเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตมีความเกี่ยวข้องอย่างไร และเกี่ยวอะไรกับ เต้าเฉิน ถึงอย่างไรหม้อฮวงก็เคยเป็นของเต้าเฉิน’ ความคิดเหล่านี้วูบผ่านในความคิดซูหมิงในพริบตา
เขาเข้าใจเยอะมาก ทว่าเมื่อเข้าใจก็เกิดความรู้สึกนึกคิดมากกว่าเดิม ทุกอย่างซับซ้อนเหมือนกับตรงหน้ามีตาข่ายใหญ่ถักอย่างแน่นหนาและปกปิดความจริงเอาไว้
“ซู…” ตอนที่เสียงนี้ดังขึ้นอีกครั้ง กระเรียนขนร่วงมีสีหน้าดิ้นรนมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน ในดวงตามีจิตสังหารและคลุ้มคลั่ง นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย ย่วนเว่ยใต้ร่างพลันพุ่งออกไป กระทั่งซูหมิงยังไม่มีเวลาไปสนใจสภาพแวดล้อมรอบๆ เขารู้ว่าที่ข่งหมัวในตัวกระเรียนขนร่วงมีเค้าลางจะตื่นขึ้นจะต้องเกี่ยวกับเสียงนี้อย่างแน่นอน
เสียงนี้เหนี่ยวนำจิตสังหารของข่งหมัวในตัวกระเรียนขนร่วง เพราะแรงกระตุ้นของจิตสังหาร จึงทำให้ดวงจิตของข่งหมัวเกิดสัญญาณจะตื่นขึ้น มันคิดจะทำลายกระเรียนขนร่วงเพื่อกลับมาเป็นข่งหมัวอีกครั้ง
เรื่องนี้คนอื่นยากจะช่วยได้ จุดสำคัญคือกระเรียนขนร่วงจะต่อต้านไหวหรือไม่ ทว่าตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือออกห่างเสียงนี้ ให้เสียงนี้ไม่ดังขึ้นอีก ก็จะทำให้ข่งหมัวหลับใหลอีกครั้ง
ซูหมิงให้เสียงนี้หยุดลงไม่ได้ ทว่าหลังจากข้ามมิติก่อนหน้านี้มา จะเห็นได้ว่าเสียงเบาลงเล็กน้อย หากข้ามมิติติดต่อกัน สุดท้ายเสียงนี้ก็จะเบาลงเรื่อยๆ จนหายไป บางทีอาจจะดังขึ้นอีกครั้ง แต่นี่ก็เป็นการถ่วงเวลาให้กระเรียนขนร่วงได้อย่างแน่นอน
ด้วยความเร็วของย่วนเว่ยพริบตาเดียวก็ห้อเหยียดไกลออกไป ด้วยสัญชาตญาณของมันบวกกับจิตสัมผัสของซูหมิงจึงหาทางออกเจอทันที ก่อนพุ่งเข้าไปและออกมา ห้อวิ่งต่อไปอีกหลายมิติ
ระหว่างนั้นเจอกับโลกที่เต็มไปด้วยวิญญาณร้ายไม่น้อย ทว่าด้วยความที่ซูหมิงไม่มีใจจะสู้ประกอบกับการร่วมมือของย่วนเว่ย หลังผ่านอันตรายมาหลายครั้ง ข้ามผ่านมิติมาราวยี่สิบกว่ามิติ เสียงนั้นก็หายไปจนหมด
จนถึงตอนนี้กระเรียนขนร่วงถึงค่อยสงบลง มันมีสีหน้าอ่อนเพลียก่อนหมดสติไป
ซูหมิงลอบถอนหายใจโล่งอก ยี่สิบกว่ามิติก่อนหน้านี้ไม่มีสมบัติเลย คงจะถูกคนเอาไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้เมื่อกระเรียนขนร่วงหมดสติไปแล้ว เขาก็ออกจากมิตินี้ ประสบกับการไหลเวียนของเวลา ครั้นโผล่มาอีกมิติหนึ่งแล้วเขาพลันหรี่ตาลง
นี่เป็นโลกหนึ่ง บนฟ้ามีแสงสีเขียวต่างจากโลกฟ้าครามอย่างชัดเจน พื้นดินเต็มไปด้วยพืช เห็นได้รางๆ ว่าบนพื้นดินไกลออกไปมีต้นไม้ใหญ่ราวหลายร้อยจั้งอยู่
บนลำต้นไม้มี…พืชสีเขียวลอยอยู่ต้นหนึ่ง มันเป็นพืชเขียวที่มีสามใบและเป็นมันที่เปล่งแสงสีเขียวย้อมโลกทั้งใบให้กลายเป็นสีเขียว
‘สมบัติรอง!’ ตาซูหมิงเป็นประกาย มิตินี้ไม่ใหญ่ มองจากขนาดแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของสมบัติล้ำค่า เป็นเพียงมิติธรรมดาแห่งหนึ่ง ทว่าที่ต่างไปคือสมบัติของที่นี่ยังไม่มีใครเอาไป
กระทั่งพวกเสวียนซางก็มองเห็นถึงความต่างของที่นี่ทันที พวกเขาต่างจริงจังขึ้นมา ตอนที่มองพืชต้นเล็กสีเขียวที่ลอยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ไกลๆ ในใจพวกเขาต่างเกิดความโลภขึ้น
สมบัติที่อยู่ในเตาหลอมลำดับห้า แม้จะเป็นเพียงสมบัติรองก็มีความไม่ธรรมดาอยู่เช่นกัน อีกทั้งดูจากลักษณะของพืชเขียวแล้ว ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีได้ย่อมไม่ใช่ธรรมดา
ซูหมิงมองรอบๆ อย่างตื่นตัว เขาไม่ได้ผลีผลาม ในมิติที่มีสมบัติอยู่จะมีวิญญาณร้ายเฝ้าสมบัติไม่น้อยแน่ๆ ทว่าเขากวาดจิตสัมผัสไปรอบๆ แล้วกลับไม่พบร่าง เงาวิญญาณร้ายเลย
เขาขมวดคิ้วและส่งกระแสจิตไปหาย่วนเว่ย ม้าดำจึงเดินเข้าไปใกล้อย่างเนิบช้า พอเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ตอนที่เขาห่างจากต้นไม้ใหญ่ราวร้อยจั้ง จิตใจก็สั่นไหวโดยพลัน
คนที่ตกตะลึงยังมีพวกเสวียนซางสี่คน แม้แต่สวี่ฮุ่ยยังใจเต้นขึ้นมา
ซูหมิงเห็นว่าใต้ต้นไม้ใหญ่มีคนนั่งอยู่สี่คน!
นั่นคือผู้ฝึกฌานสี่คน ซูหมิงไม่เคยเจอผู้ฝึกฌานสี่คนนี้
พวกเขายังไม่ตายแต่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น หน้าอกยังขึ้นลงอยู่ กระทั่งไม่ได้หลับตา แต่ลืมตามองต้นไม้ใหญ่ แน่นิ่งไม่ขยับไหว
ดวงตาพวกเขามีความสับสนและดิ้นรน และยังมีความประหลาดที่บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่า….นั่งอยู่ตรงนี้มานานกี่ปีแล้ว
อาภรณ์พวกเขาขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าขาวซีด แรงกดดันจากตัวพวกเขาทำให้คาดการณ์ได้ว่าในนั้นมีสามคนมีขั้นพลังภัยพิบัติตะวัน ส่วนอีกคนเป็นผู้กุมชะตาเกิดดับสูญ
เป็นภาพนี้ที่ทำให้ซูหมิงหยุดเดิน
“บรรพบุรุษหลงไห่!” น้ำเสียงสวี่ฮุ่ยมีความเหลือเชื่อ
“ยอดฝีมือผู้กุมชะตาเกิดดับสูญคนนั้นคือบรรพบุรุษหลงไห่ที่เฝ้ารักษาการณ์แดน รกร้างต้นกำเนิดจิตจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรม หลังจากเขาเข้าเตาหลอมลำดับห้าเมื่อหมื่นปีก่อนแล้วก็ไม่เคยออกมาอีกเลย กระทั่งตำแหน่งวิญญาณเขายังแตกหัก จึงถูกยืนยันว่าตายไปแล้ว!
ตะ….แต่ว่าสภาพเขาตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่!” สวี่ฮุ่ยส่งกระแสจิตมาทันที เสียงดังก้องในใจพวกซูหมิง
นัยน์ตาซูหมิงแวววาว ครั้นมองรอบๆ อีกครั้งแล้ว เขาก็มั่นใจว่าที่นี่ไม่มีวิญญาณร้ายใดๆ นอกจาก…ต้นไม้ใหญ่สูงร้อยจั้งต้นนั้น!
เห็นได้ชัดมากว่าหากที่นี่ไม่มีวิญญาณร้ายตัวอื่นจริงๆ เช่นนั้นตามคำบอกเล่าที่ว่าจุดที่มีสมบัติจะมีคนเฝ้า ถ้าอย่างนั้นต้นไม้ต้นนี้…ก็เป็นวิญญาณร้ายของที่นี่เพียงตัวเดียว!
ทว่าต้นไม้ต้นนี้ทำให้ตัวประหลาดภัยพิบัติตะวันสามคนกับบรรพบุรุษหลงไห่ถูกขังอยู่ที่นี่!
‘ต้นไม้…’ ซูหมิงพลันยิ้มเยาะมุมปาก
‘ร่างเอ้อชางของข้าก็เป็นต้นไม้ และยังเป็นบรรพบุรุษของต้นไม้ทั้งหมด!’ทันทีที่นัยน์ตาเขามีประกายวาววูบผ่าน เขาก็หันหน้าไปมองมวลอากาศข้างหลังทันที ตรงนั้นคือจุดที่เขาเข้ามาในมิตินี้ ซึ่งตอนนี้เกิดการบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงขึ้น
‘ในที่สุดก็มีคนเข้ามาในมิติเดียวกับข้า…’ ซูหมิงหรี่ตาลง เขาขยับวูบไหวไปยังพื้นดิน ร่างกายจากสมบัติล้ำค่าเปลี่ยนแปลงไป มันหลอมรวมตัวเองเข้าสู่รอบๆ เพื่อซ่อนตัว ระหว่างนั้นเองก็มีชายชราหลังค่อมคนหนึ่งเดินออกมาจากกลางมวลอากาศบิดเบี้ยวไกลๆ
บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิง!