Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 225


บทที่ 225 ไม่ใช่เซียนกระบี่งั้นหรือ? ฆ่ามันเสีย! (ต้น)

หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! ทั้งสองคน โม่อวิ๋นฉีและไป๋เจ๋อต่างก็คุ้นเคยกับทักษะกระบี่ชนิดนี้!

ทักษะกระบี่ที่เยี่ยฉวนถนัดและแข็งแกร่งที่สุด!

เมื่อต้องเผชิญกับตนเอง โม่อวิ๋นฉีย่อมไม่กล้าปะทะด้วยอย่างแน่นอน ฉะนั้นวิธีเดียวที่จะทำให้รอดพ้นก็คือวิ่งหนี!

ไป๋เจ๋อก็เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงแกล้งตาย! เวลานี้เห็นได้ชัด ว่าเยี่ยฉวนเป็นคนประเภทเมาอาละวาด ทางที่ดีจึงอย่างไปวอแว หลบเลี่ยงได้ก็หลบเลี่ยง เพื่อสวัสดิภาพ…

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเยี่ยฉวนหยุดแสดงพฤติกรรมบ้าคลั่งลงเสียเฉยๆ กระบี่หลิงซิ่วจึงพลอยชะงักหยุดด้วย พลันเขาทิ้งตัวลงแผ่หลาอยู่บนพื้น คงเป็นเพราะเริ่มสร่างเมาแล้วนั่นเอง โม่อวิ๋นฉีสังเกตเห็นเข้า จึงยุติการวิ่งหนีและแอบมองเยี่ยฉวนซึ่งนอนเหยียดยาวบนพื้นนิ่งเงียบอยู่เป็นครู่เพื่อให้แน่ใจ จากนั้นจึงถอนใจดังเฮือก และเดินย้อนกลับมาตรงที่คนนอน

ภายใต้แสงเดือนส่องสว่าง คนสามคนนอนเรียงกันบนพื้นที่ด้านหน้าก้อนหินใหญ่ เยี่ยฉวนกึ่งนั่งกึ่งนอนเอนหลังพิงก้อนหิน นัยน์ตาเหม่อลอยแหงนหน้าขึ้นบนท้องฟ้ายามราตรี มีโม่อวิ๋นฉีและไป๋เจ๋อนั่งเคียงข้างขนาบซ้ายขวา คนทั้งสามตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง ไม่มีใครเอ่ยปาก จึงนิ่งเงียบอยู่เช่นนั้น

พลันเสียงของเยี่ยฉวนดังทำลายความเงียบขึ้นก่อน “บูรณะฉางหลานและแก้แค้นให้อาจารย์ใหญ่จี้… เป็นเรื่องยากและอันตรายยิ่ง สำหรับพวกเจ้า…”

“หยุดเลย!” โม่อวิ๋นฉีสวนขัดขึ้นทันควัน “พี่หัวขโมยเยี่ย …จะไล่ให้พวกเราไปอีกใช่ไหม?” เยี่ยฉวนนิ่งเงียบ เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าการล้างแค้นไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยตัวของเองไม่อาจรู้ได้ว่าดินแดนอันธกาลและสถานศึกษาฉางมู่แข็งแกร่งแค่ไหน แต่ที่รู้แน่ๆ คือคู่ต่อสู้เป็นสองขั้วอำนาจที่กล้าแกร่งยิ่งนัก!

ขั้วอำนาจทั้งสองไม่มีทางยอมยุติง่ายๆ! นอกจากนั้นเขายังต้องไปสำนักใหญ่ฉางหลานที่ตั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่

…และที่จริงแล้ว เยี่ยฉวนไม่อยากให้ใครต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับตน!

ในโลกปัจจุบันเมื่อต้องการทำให้อีกฝ่ายยอมรับเหตุผลของอีกฝ่าย จะต้องใช้กำลังทำให้อีกฝ่ายยอมสยบและรับฟังแต่โดยดี!

ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไร คนจะยอมรับฟังมากเท่านั้น! หนทางข้างหน้าจึงทั้งขรุขระ และเต็มไปด้วยอันตรายยิ่ง!

พลันโม่อวิ๋นฉีเอ่ยเสียงขึงขัง “พี่หัวขโมยเยี่ย พวกเราทุกคนรู้ดีว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายและลำบาก เพราะอย่างนั้นเราจึงไม่ปล่อยเจ้าไปเพียงลำพังยังไงล่ะ” พูดจบคนพูดเอนหลังลงนอนหงายไปบนพื้น หน้าแหงนมองท้องฟ้าอันมืดมิด ก่อนเอ่ยเสียงเบาแทบกระซิบ

“ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงพวกเราจะเผชิญมันไปด้วยกัน ฉะนั้นเราจะต้องไปด้วยกัน……ถ้าสำเร็จเราก็ไปต่อ แต่ถ้าไม่ก็แค่ตายไปด้วยกัน ถึงข้าจะยังไม่อยากตาย แต่ไม่อยากได้ชื่อว่าขี้ขลาด อาจารย์ใหญ่จี้ไม่ได้ตายเพราะช่วยเจ้า แต่เขาช่วยทั้งข้าและไป๋เจ๋อด้วย! ดังนั้นการแก้แค้นและทำตามความปรารถนาของเขา จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องทำให้สำเร็จ!!”

ไป๋เจ๋อซึ่งนิ่งฟังเงียบเฉย พยักหน้าหงึก “พวกเราเผชิญหน้าด้วยกัน”

ขณะที่พูดดังนั้นคนตัวใหญ่กำหมัดแน่น ด้วยเหตุเช่นนั้นแขนข้างขวาของเขาเริ่มพองขยาย กระทั่งมองเห็นเส้นเลือดดำที่แขนโป่งนูนชัดเจน ดูน่ากลัวว่าอาจระเบิดแตกออกกระนั้น ไป๋เจ๋อหันมองไปทางเยี่ยฉวนพลางพูดว่า “ตอนนี้สายเลือดอมนุษย์ในกายข้าถูกกระตุ้นเต็มที่ รับรองสู้กับศัตรูได้สบายมาก!”

โม่อวิ๋นฉีหันขวับมามองไป๋เจ๋อ ร้องถามรวดเร็ว “เจ้ายักษ์ไป๋ เจ้ามีสายเลือดอสูรนี่นะ ว่าแต่เป็นอสูรชนิดไหน? แต่อย่าบอกนะว่าเป็นหมาหรือแมว…”

พลั่ก!

เสียงของโม่อวิ๋นฉีขาดห้วน เพราะร่างคนพูดกระเด็นวืดออกไปทันที โม่อวิ๋นฉีตกลงบนพื้นห่างไปหลายจั้งเสียงดังตุ้บ แต่ตัวคนกลับดีดตัวยืนอย่างรวดเร็วน่าประหลาด พลันชี้หน้าไป๋เจ๋อส่งเสียงตะโกนมาอย่างโกรธเคือง “มาสิวะ… มาสู้กันตัวต่อตัว!”

ไป๋เจ๋อร่างยักษ์ไม่รอช้าเช่นกัน พลันถลันพรวดเข้าหา หลังจากนั้นทั้งคู่เริ่มเปิดฉากตะลุมบอนทันที! คนที่นั่งอยู่ใกล้ก้อนหินใหญ่ เยี่ยฉวนจับตามองส่ายหน้าอย่างอ่อนใจพลางพูดยิ้มๆ “เอาละ พวกเราจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน ถ้าแพ้เราก็จะตายด้วยกัน!” พูดแล้วเยี่ยฉวนก้มลงฉวยไหสุรา ยกขึ้นกรอกใส่ปากอึกใหญ่

สองคนที่กำลังต่อสู้ ไป๋เจ๋อและโม่อวิ๋นฉีหันขวับมาเห็นเข้าพลันหยุดต่อสู้กันทันที สายตาสองคู่จ้องมองเยี่ยฉวนเขม็ง ทั้งเห็นได้ชัดว่าใบหน้าของชายหนุ่มค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอีกแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น……เพราะกระบี่ยาวที่แขวนไว้ที่เอว ก็เริ่มสั่นสะท้านรุนแรงขึ้นทุกขณะ!

“หนีเร็ว!” พลันโม่อวิ๋นฉีหันหลังกลับและวิ่งหน้าตั้งไปไม่เหลียวหลัง เพียงไม่นานร่างนั้นหายวับไปปานลมพัด ไป๋เจ๋อออกท่าทางลังเลตอนแรก แต่แล้วก็หันหลังวิ่งเตลิดไปอีกคน! พวกเขาไม่อาจต้านทานต่อหัวขโมยเยี่ยคนนี้ได้! จึงหนีสุดชีวิต!

เยี่ยฉวนผุดลุกขึ้นยืนและค่อยๆ ก้าวเดินไปตามทาง ท่าที่เดินโซซัดโซเซ… ขณะเดียวกันกระบี่หลิงซิ่วสะบัดขึ้นสู่อากาศ แกว่งกวัดฉวัดเฉวียนราวกับเมามายด้วยเช่นกัน!

วันต่อมา

จ้าวหอชั้นเก้าแห่งสำนักอัปสรเมรัยแวะมาเยือนสถานศึกษาฉางหลาน เวลานี้ที่ฉางหลานมีอาคารหอซึ่งแล้วเสร็จ 16 หลัง ทั้งขนาดและของตกแต่งที่อยู่ภายใน ล้วนแตกต่างและไม่มีในสถานศึกษาหลังเดิมทั้งสิ้น ด้วยสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้า ณ ขณะนี้มีความเป็นสถานศึกษาอย่างแท้จริง!

ภายในหอโถงฉางหลาน

แม้แต่ขนาดของหอโถงปัจจุบันก็ใหญ่โตกว้างขวางกว่าเดิมหลายเท่านัก การตกแต่งภายในแม้จะไม่ถึงกับโอ่อ่าหรูหรา ทว่าก็จัดว่าสวยงาม ทันสมัย

คนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ภายในบริเวณหอโถง เยี่ยฉวนและจ้าวหอชั้นเก้า ผู้อาวุโสน้อยกว่ากำลังค้อมกายพร้อมห่อกำปั้นแสดงคารวะต่ออีกฝ่าย “ผู้อาวุโส เชิญนั่งขอรับ!”

ผู้อาวุโสหัวเราะลั่น “ข้าไม่นั่งหรอก มานี่เพราะมีธุระสำคัญจะแจ้งให้ทราบ!” พูดจบเจ้าตัวดึงแผ่นป้ายสีทองออกมาส่งต่อให้เยี่ยฉวน ซึ่งรับแผ่นป้ายมาสีหน้าฉงนเล็กน้อย จ้าวหอเห็นเช่นนั้นจึงกล่าวยิ้มๆ “ลองเดาสิ ว่าแผ่นป้ายนี้ภายในมีสิ่งใด!”

เยี่ยฉวนส่ายหน้า จ้าวหอเปล่งเสียงหัวเราะลั่น “แผ่นป้ายนี้มีเงินอยู่ 360 ล้านเหรียญทอง!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีกฝ่ายนัยน์ตาเบิกกว้าง มือไม้สั่นเทา! เหรียญทอง 360 ล้านเหรียญ!

ผู้สูงวัยพยักหน้าเนิบ “ถูกต้องแล้ว เจ้าคิดว่าเงินนี่มีจำนวนมากเช่นนั้นหรือ?” เยี่ยฉวนยังพูดไม่ออก จึงได้แต่พยักหน้าหงึก อีกฝ่ายจึงไขข้อข้องใจให้ว่า “เจ้าเข้าใจผิดถนัด!”

สายตาของชายหนุ่มจ้องเขม็งมาที่คนตรงหน้า “อย่างไรหรือ ขอรับ?”

จ้าวหอชั้นเก้าเหยียดมุมปากออกนิดหนึ่ง กล่าวต่อไปว่า “รู้หรือไม่ว่าภายหลังจากบรรลุขั้นพลังสันโดษแล้ว การขยับขั้นพลังขึ้นไปในแต่ละขั้นจะต้องใช้เงินมากเพียงใด? จะบอกให้ว่าต้องใช้เงินก้อนโตทีเดียว! การฝึกวิทยายุทธ์เท่ากับผลาญเงินทองไปไม่ใช่น้อย”

“ถ้ายอดยุทธ์ขั้นสันโดษต้องการพัฒนาขั้นพลังให้กล้าแกร่งเป็นพิเศษกว่าคนอื่น คนผู้นั้นจะต้องมีเงินอย่างน้อย 200 ล้านเหรียญทอง สำหรับใช้ในการซื้อหาทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกปรือ เงินจำนวนนี้ยังไม่รวมศาสตราวุธจิตวิญญาณ ทักษะยุทธ์ต่างๆ หรือพวกคัมภีร์ฝึกยุทธ์ทั้งหลายทั้งมวล……”

“ยิ่งเจ้าพัฒนาขั้นพลังขึ้นไปจนถึงขั้นผนึกยุทธ์ เงินที่ต้องเตรียมไว้ใช้จ่ายจะยิ่งเพิ่มขึ้นมหาศาล ข้าเกรงว่าแคว้นเล็กๆ แห่งนี้จะไม่สามารถส่งเสริมเจ้าไปได้ตลอดรอดฝั่ง!”

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version