บทที่ 231 กล้ารับกระบี่ของข้าหรือไม่? (ต้น)
ขณะที่เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่ส่วนบนสุดของหอคอยแห่งเรือนจำ เยี่ยฉวนพลันรู้สึกร้าวระบมเหมือนศีรษะกำลังจะระเบิด จนแทบควบคุมสติไม่อยู่และใกล้หมดสติอยู่รอมร่อ ด้วยกระแสโลหิตในกายพุ่งพล่านและที่สุดก็ประทุออกทางทวารทั้งเจ็ด เป็นภาพที่ไม่ว่าใครที่ได้พบเห็นเป็นต้องขวัญผวา!
พวกโม่อวิ๋นฉีและคนอื่นตื่นตระหนก ต่างพากันถลันพรวดเข้าช่วยกันประคองร่างเยี่ยฉวน ขณะเดียวกันนั้นสตรีลึกลับผู้ลอยร่างอยู่เหนือยอดไผ่ ผลักออกฝ่ามมือข้างซ้ายและกดลงอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่เจ้า!”
สิ้นเสียงเสียงตวาด กระบี่ที่เคยสั่นสะท้านสะเทือนรุนแรงอยู่ภายในเมื่อครู่ จู่ๆ ลดทอนความรุนแรงลงจนสงบนิ่ง อย่างไรก็ตามก่อนที่เหตุการณ์จะสงบ……
พลันบังเกิดเสียงแห่งกระบี่เสมือนเร่งเร้าบางสิ่งบางอย่าง!
ร่างที่ลอยเหนือทิวไผ่ พลิกหงายฝ่ามือข้างซ้ายและยกขึ้น “กระบี่จงมา!”
ฟิ้ว
กอไผ่ทุกกอ ต้นไผ่ในป่าทั้งมวลเริ่มเขย่าสั่น ทันใดนั้นท่ามกลางสายตาที่มองดู ใบไผ่สะบัดออกจากลำต้นม้วนปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน ก่อนที่จะม้วนวนรวมตัวและดิ่งเข้าหาสตรีลึกลับ!
ม้วนใบไผ่มุ่งเข้าสู่ใจกลางฝ่ามือของนาง ไม่นานนักจึงปรากฏเป็นกระบี่เล่มหนึ่งซึ่งเกิดจากการรวมตัวของใบไผ่จำนวนมหาศาล วางอยู่บนฝ่ามือสตรีลึกลับ
ชายชราสวมชุดขาวเมื่อเห็นเช่นนั้น พลันสีหน้าเผือดซีด!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สะพายกระบี่ใหญ่!
นั่นมันอะไรกัน?!
เขาไม่เคยได้ยินหรือพบเจออะไรเช่นนี้มาก่อน!
ไม่เว้นแม้แต่คนที่ยืนรวมกลุ่มด้านล่าง โม่อวิ๋นฉีและคนอื่นต่างสีหน้าฉงนงงงวย ครั้งก่อนพวกเขาเคยเห็นสตรีลึกลับสังหารหมู่ศัตรูจนเกลี้ยงมาแล้ว คราวนั้นนับว่าสร้างความประหลาดใจแก่พวกเขามากอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น พวกเขาทั้งสามยังไม่เคยคิดสอบถามเรื่องของสตรีลึกลับกับเยี่ยฉวนเลย!
ด้วยต่างศรัทธาเชื่อมั่น!
เพราะพวกเขารู้แก่ใจว่าเมื่อถึงเวลาเยี่ยฉวนจะเป็นฝ่ายปริปากบอกเล่าเอง ขณะที่เยี่ยฉวนแหงนหน้าขึ้นไปทางสตรีลึกลับ จะว่าไปเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน!
สตรีลึกลับ!
นางคือสตรีลึกลับแท้จริง!
นางผู้มีความลึกลับดำมืด เขาไม่รู้ประวัติความเป็นมาของนาง รู้แต่เพียงว่าเป็นคนที่มีพลังอำนาจสูงส่ง
เมื่อใดที่นางเปิดเผยตัวตน บางสิ่งที่อยู่บนชั้นสองจะสงบนิ่ง…
ชายสวมชุดขาวและพวกต่างจ้องมองที่สตรีผู้มาใหม่ แววตาของทุกคนที่แสดงออกมานั้นทั้งสงสัยระคนเครียดขรึม!
ถึงตอนนี้นางยังไม่ออกจู่โจม ทว่าพวกเขากลับรู้สึกว่าถูกล้อมรอบไว้ด้วยพลังประหลาดที่มองไม่เห็น!
โดยเฉพาะเมื่อนางเคลื่อนไหว จึงทำให้คนทั้งหมดเริ่มขยับตัวอย่างระมัดระวัง!
สตรีลึกลับผู้ลอยตัวอยู่เหนือกอไผ่ ใช้กระบี่ใบไผ่ในมือชี้แน่วมายังคนทั้งสี่ที่ลอยตัวบนอากาศไม่ห่างไกลออกไป “พวกเจ้า เข้ามาพร้อมกันทั้งหมดนั่นเลย!”
เข้าพร้อมกัน!
วาจาที่เปล่งออกมา ยังผลให้บรรยากาศในบริเวณเงียบงันทันที!
ในขณะนั้นกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างล่าง โม่อวิ๋นฉีหันไปสะกิดแขนเยี่ยฉวนยิกพลางเอ่ยเสียงเบา “นี่……พี่หัวขโมยเยี่ย เจ้าไปเจออาจารย์คนนี้ที่ไหน? ช่วยแนะนำให้ข้าสักคนได้ไหม? ข้าอยากมีอาจารย์แบบของเจ้าบ้าง!”
คนถูกถามชำเลืองหางตามาทางคนถาม ไม่ได้ตอบหากเปรยเบาๆ “เจ้าน่ะมีอาจารย์แบบนางไม่ได้หรอก!”
“ทำไม?” อีกฝ่ายหันขวับมาทันทีสีหน้าคลางแคลง พลางคิ้วขมวดมุ่น “หน้าตาของข้าหล่อเหลาไม่พอหรือไง?
“อ้วกจะแตก…” เสียงดังมาจากคนร่างยักษ์ แต่ดูออกว่าเป็นเพียงท่าทางมากกว่าความรู้สึกจริงของเขา
ส่วนฝ่ายจี้อันซื่อซึ่งยืนเล็มหมั่นโถว พอได้ยินโม่อวิ๋นฉีพูดเท่านั้นนางถึงกับสำลักพรวดออกมา ทั้งยังทำท่าผะอืดผะอมอีกด้วย!
เยี่ยฉวนเอื้อมมือมาตบบ่าคนพูด “เมื่อก่อนนี้ข้าเคยคิดว่าเจ้าก็แค่คนหลงตัวเองเท่านั้น ที่แท้ข้าเข้าใจผิดมาตลอด เจ้าไม่ใช่คนหลงตัวเองแต่เจ้ามันตาถั่ว… หล่อเหลาเหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย?!”
โม่อวิ๋นฉี “…”
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนผู้ใช้กระบี่เล่มใหญ่ถลันออกไปทางซ้ายมือใกล้กับที่สตรีลึกลับ สายตาจ้องมองสตรีสวมชุดขาวแววตาครุ่นคิด “ไม่ว่าจะเป็นราชันกระบี่หรือเซียนกระบี่ทั้งหมดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าต่างเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง แต่เป็นเจ้า ข้ากลับไม่เคยรู้…”
สตรีลึกลับกลับใช้กระบี่ชี้ไปทางเยี่ยฉวน “เจ้าจงฟังให้ดี!”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น พลันรีบหันไปตั้งใจฟังทันที ตามปกติสตรีสวมชุดขาวไม่ใช่คนพูดมาก แต่ทว่าเมื่อใดที่ได้พูดแล้ว สิ่งนั้นย่อมเกิดผลสำคัญยิ่ง!
จากนั้นจึงวาดกระบี่ในมือชี้กลับไปทางชายวัยกลางคนซึ่งลอยตัวอยู่ในที่ไม่ไกลเท่าใดนัก “ผู้ฝึกกระบี่จะไม่พูดมาก ในฐานะที่เจ้าฝึกเพลงกระบี่กับข้า พึงจดจำ……เมื่อมีปัญหาจะต้องใช้กระบี่ขจัดปัดเป่า จงอย่าได้ใส่ใจสิ่งไร้สาระ แต่จงตั้งใจจู่โจม!” สิ้นเสียงพูด นางเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วมือข้างซ้ายสองนิ้วหนีบด้ามกระบี่ไว้!
ขณะต่อมา สายตาจับความเคลื่อนไหวถนัดชัดเจน สีหน้าของชายวัยกลางคนแปรเปลี่ยน ชั่วพริบตาเขากระชากกระบี่เล่มหนาจากด้านหลังรวดเร็ว ทันใดนั้น พลังแห่งปณิธานกระบี่แผ่กระจายล้อมรอบตัวคน
ราชันกระบี่!
เขาก็คือราชันกระบี่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่!
ทันทีที่ปรากฎกระแสแห่งปณิธานกระบี่ ทุกคนในบริเวณต่างรับรู้ถึงแรงกดดันประประหลาดที่ไม่มองไม่เห็น
เยี่ยฉวนเปลือกตาปิดแน่นขณะเดียวกันก็ผลักออกปณิธานกระบี่ไร้ขอบเขต ผสานพลังจิตวิญญาณการต่อสู้ออกต้านทานต่อแรงกดดันจากปณิธานกระบี่ของชายวัยกลางคน โดยมีโม่อวิ๋นฉีและคนอื่นกระเถิบเข้าใกล้เกาะติดอยู่ด้วย เช่นนั้นคนทั้งสี่จึงช่วยกันออกต้านทานพลังปะทะแห่งปณิธานกระบี่ของราชันกระบี่!
ในตอนนั้นชายวัยกลางคนยังลอยตัวกลางอากาศ ในมือกระชับด้ามกระบี่เข้าหาตัว แนบคมกระบี่ชิดกลางหว่างคิ้ว ที่ปลายกระบี่เล่มหนาปรากฏรัศมีกระบี่ทอประกายแจ่มจรัสอย่างชัดเจน!
ร่างของสตรีสวมชุดขาวซึ่งอยู่ในระยะห่าง นางกลับนิ่งเฉยแทนที่จะเข้าจู่โจมตามเจตนาแรกเริ่ม
และด้วยทำท่าทางยืนหันหลังให้กับทุกคน ดังนั้นจึงไม่มีสักคนที่ได้เห็นสีหน้าและแววตาของนาง ในช่วงจังหวะนั้น!
รวมถึงเยี่ยฉวน ที่กระทั่งบัดนี้เขายังไม่เคยเห็นหน้าตาของสตรีลึกลับผู้นี้เลย!
พลันชายวัยกลางคนซึ่งจ้องเขม็งส่งเสียงคำรามลอดไรฟัน “กล้ารับกระบี่ของข้าหรือไม่?!”
เสียงนั้นดังสนั่นปานฟ้าผ่า กึกก้องสะท้านฟ้า!
พลังแรงพลักดัน!
แรงพลักดันแห่งกระบี่!
นับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เยี่ยฉวนสัมผัสได้ถึงแรงพลักดันของผู้ฝึกกระบี่คนอื่น ชายวัยกลางคนผู้นี้มีแรงผลักดันที่กล้าแกร่งยิ่งนัก…จัดว่าเป็นผู้ฝึกกระบี่ที่ทรงพลังแท้จริง!
พลันเกิดเสียงของคนที่ลอยตัวอยู่เหนือยอดไผ่ เป็นสตรีลึกลับพึมพำแผ่วเบา “ขี้คุย!”
ทันทีที่เสียงคนเงียบหาย พลันกระบี่ที่หนีบไว้ระหว่างนิ้วมือไหลเลื่อนไหลตลอดความยาวของช่วงแขน ในที่สุดก็เลื่อนหลุดออกทางปลายนิ้ว
เป็นการออกจู่โจมที่แสนธรรมดาสามัญ!
……เหตุด้วยการจู่โจมไร้ซึ่งแรงผลักแห่งกระบี่ ไร้ซึ่งปณิธานกระบี่ และยังไร้ซึ่งรัศมีกระบี่!
— จบตอน —
