บทที่ 248 ไม่ท้องใช่ไหม เจ้าน่ะ? (ปลาย)
ปณิธานกระบี่และจิตวิญญาณการต่อสู้! สองเคล็ดวิทยายุทธ์ผสานกับแรงผลักดันแห่งกระบี่! แม้ว่าจะมิใช่พลังปะทะแห่งหนึ่งกระบี่ชี้ชะตา แต่ความน่าเกรงขามกลับปานกัน ด้วยพื้นพสุธาที่ใต้ฝ่าเท้าของเยี่ยฉวนเกิดเป็นร่องแตกปริร้าวแยกออกในทันที! ทันใดนั้นลำแสงกระบี่และกระแสสายฟ้าออกปะทะกลางเวหา
ตู้ม! บัดนั้นเสียงปฐพีลือลั่นสนั่นครืนสะท้อนก้องไปทั้งบริเวณ ชั่วพริบตาร่างคนสองร่างกระเด็นแยกห่างออกจากกัน ต่างคนต่างไกลออกนับสิบๆ จั้ง! อีกทั้งพื้นที่เบื้องหน้าฝุ่นฟุ้งเศษหินเศษดินปลิวว่อนกระจัดกระจาย!
กระบี่หลิงซิ่วในมือของเยี่ยฉวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รังสีกระบี่ยังเปล่งประกายสู่ภายนอกตลอดเวลา ทัวป้าเหยียนจ้องเขม็งแน่วนิ่งตรงมา สายตาเย็นชาไร้รู้สึกไม่เสื่อมคลาย
ฉับพลันนั้นทหารองค์รักษ์หมู่หนึ่งกรูเข้ามา ล้อมรอบบริเวณไว้ทั่วทุกทิศทาง! เยี่ยฉวนเห็นเช่นนั้น เขาหันกลับไปทางทัวป้าเหยียน “เจ้าเสร็จแน่!” จากนั้นคนพูดจัดการหยิบแผ่นตราสัญลักษณ์ออกมา! ตราสัญลักษณ์ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้น!
เมื่อพวกทหารเห็นตราสัญลักษณ์ จึงพากันชะงักงันนิ่งขึงพลันรีบทรุดกายลงนั่งคุกเข่าลงแทบไม่ทัน พร้อมกับเปล่งเสียงโดยพร้อมเพรียงกันว่า “ทำความเคารพ ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้น!”
ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้น! ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นลำดับชั้นสูงที่สุด เป็นรองเพียงองค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นเท่านั้น! ชายหนุ่มพยักหน้าและโบกมือ “คุมตัวนางไว้!” เมื่อได้ยินคำสั่ง ทหารองครักษ์ต่างหันมองหน้ากันไปมา แต่ละคนปั้นสีหน้าพิกล
เยี่ยฉวนตะลึงงัน และยกแผ่นตราสัญลักษณ์ในมือขึ้นมาพลิกดู “อ้าว ใช้งานเช่นนี้ไม่ได้งั้นหรือ?”
ทหารทุกนายพากันนิ่งงัน “…”
ขณะนั้นทัวป้าเหยียนยกมือขึ้นโบกออกไปครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นกองทหารพากันล่าถอยออกจากที่ไปทันที เพียงชั่วพริบตาทหารกลุ่มใหญ่ก็หายไปจนหมดสิ้น ทำเอาเยี่ยฉวนนิ่งอั้นด้วยเขาไม่เข้าใจ “…”
หญิงสาวเดินตรงเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่ม สายตามองตรงพลันเสียงของนางเอ่ยว่า “น่าแปลกนัก พลังของเจ้าพัฒนารวดเร็วผิดปกติสามัญ!”
เยี่ยฉวนหาได้ใส่ใจคำวิจารณ์เกี่ยวกับตนไม่ โพล่งถามกลับไปทันที “เจ้าเป็นใครกันแน่?” ทัวป้าเหยียนถามเสียงเยาะ “เจ้าล่ะ คิดว่าข้าเป็นใคร?”
ชายหนุ่มไม่ตอบออกไปทันที เขานิ่งคิดชั่วขณะด้วยพื้นฐานมิใช่คนเขลา ดังนั้นจึงย่อมเดาได้ถึงสถานะที่แท้จริงของสตรีที่ยืนประจันหน้าอยู่ในขณะนี้! เยี่ยฉวนไม่เคยรู้จักพระนามแห่งองค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นหนิง หากที่รู้คือฮ่องเต้สตรี… ไม่ต้องบอกก็พอเดาออกว่าคือหญิงสาวผู้นี้เป็นแน่!
ทัวป้าเหยียน! เยี่ยฉวนเงียบงันไปชั่วขณะ ความคิดสับสนวุ่นวาย คนคนนี้แท้ที่จริงเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นหนิง! นางยังคงมองนิ่งที่เยี่ยฉวน “กลับไปเสีย!” โดยไม่รอฟังคำตอบ คนพูดกลับหลังหันและทำท่าจะออกไป
เยี่ยฉวนหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวตามออกไปอย่างรวดเร็ว สตรีผู้เดินนำอยู่ข้างหน้าชะงักฝีเท้าและหันขวับกลับมา “จะเอาอย่างไร?”
เยี่ยฉวนตอบเสียงห้าว “วันนี้ข้ามาในฐานะตัวแทนของแคว้นเจียง!” หญิงสาวเหยียดมุมปาก เสียงกล่าวเยือกเย็น “วางใจเถอะ ข้าไม่ส่งกองทัพทหารไปบุกแคว้นเจียงของเจ้าแน่! แคว้นหนิงไม่ขอเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเยี่ยฉวนค่อยโล่งใจขึ้นเป็นกอง พลันเขานึกบางอย่างขึ้นมาในทันทีจึงถามออกไป “ทางท่านไม่อยากจะทำอะไรดีๆ บ้างหรือ? ทัวป้าเหยียนพูดเสียงเบา” คิดจะยืมมือแคว้นหนิงสกัดกั้นหายนะของแคว้นเจียง งั้นสิ?”
ชายหนุ่มสั่นศีรษะปฏิเสธ เมื่ออีกฝ่ายมองจ้องเข้าไปในดวงตาเป็นเชิงถาม เขาจึงตอบด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ “ตามความคิดของข้า สงครามครั้งนี้มีแคว้นถังร่วมมือกับแคว้นต่างๆ ล้วนเป็นความท้าทายสำหรับแคว้นเจียง แต่ทว่าในขณะเดียวกันก็ยังนับเป็นโอกาสของเราด้วย ข้าคิดว่าท่านน่าจะเข้าใจความหมายที่ข้าพูด”
หญิงสาวมองคนพูดตาไม่กระพริบ “ข้าจะไม่ยอมให้แคว้นหนิงเข้าไปพัวพันกับสงครามครั้งนี้แน่” เยี่ยฉวนนิ่งไป ครั้งแล้วก็พยักหน้า “ถ้างั้น เข้าใจแล้ว” พูดจบเขาก็หันกลับเดินจากไป
ทันใดนั้นทัวป้าเหยียนปรากฏกายขึ้นขวางอยู่เบื้องหน้า “ในเมืองหลวงมีพวกจอมยุทธ์รับจ้างรวมกลุ่มกัน ถึงจะมีเพียง 12 คน แต่ว่าทุกคนล้วนเป็นระดับยอดในยุทธภพ ถ้ามีเงินก็ลองไปเจรจาให้พวกเขามาช่วยแคว้นของเจ้าดู”
ชายหนุ่มย้อนถามเสียงขรึม “ต้องใช้เงินเท่าไร?” ฝ่ายที่ยืนเบื้องหน้าตอบให้ว่า “ไม่ต่ำกว่าร้อยเหรียญทอง!”
เมื่อได้ยินคำตอบ ชายหนุ่มได้แต่ถอนใจพลางกัดริมฝีปาก ความรู้สึกยอกแสยงภายในใจพลุ่งวาบ… หนึ่งร้อยเหรียญทอง! แพงฉิบ! ไม่เสียเงินเพื่อการนี้แน่!
ต่อมาจึงมีเสียงคนพูดขึ้นอีก “แต่ผลที่ได้คุ้มค่านัก! และที่สำคัญกว่านั้น……คือไม่ควรปล่อยพวกเขาไปทำงานให้กับแคว้นถัง ไม่เช่นนั้นเจ้าเดือดร้อนแน่!”
เยี่ยฉวนถอนใจลึก “ข้าไม่มีเงินมากขนาดนั้น!”
หญิงสาวสบตามองตรงมา “เจ้าก็ขอยืมได้นี่!”
“เงินยืม?” อีกฝ่ายนิ่งขึง พลันถามโพล่งออกไปอย่างเร็ว “ยืมใคร? เจ้างั้นหรือ?”
ทัวป้าเหยียนตอบเสียงเรียบ “ข้าไม่มีทางให้เจ้ายืมเงินฟรีแน่ อย่างไรก็ต้องมีหลักประกัน” พลันสายตาคมกริบตวัดกลับมาที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกครา “เจ้ามีของล้ำค่าที่สามารถผนึกพลังปฐพีได้ ใช่ไหม?”
พลังปฐพี? กฎแห่งเต๋า! เยี่ยฉวนเริ่มขยับตัวอย่างระมัดระวัง สตรีผู้นี้มีข้อแลกเปลี่ยนกับกฎแห่งเต๋า! ไม่มีทาง!
ชายหนุ่มจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร ในเมื่อแคว้นหนิงรับปากว่าจะไม่ส่งกองทัพไปประชิดแคว้นเจียง เช่นนั้นข้าก็หมดธุระ” เยี่ยฉวนหันหลังเดินหลีกไปทันที ส่วนทัวป้าเหยียนเองก็หาได้ทักท้วงอันใดไม่ เพียงมองตามหลังคนที่เดินจากไปเงียบๆ
ต่อมามีคนสองคนปรากฏกายเข้ามาทางเบื้องหลังของทัวป้าเหยียน ทั้งคู่เป็นชายชราและสตรีสูงวัย เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาใกล้คนที่ยืนนิ่งอยู่ ชายชราเอ่ยขึ้นว่า “มีข่าวว่าคนกลุ่มหนึ่งมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน อีกไม่นานแคว้นเจียงต้องประสบหายนะครั้งใหญ่เป็นแน่!”
หญิงสาวหลับตาลงอย่างใช้ความคิด “ส่งคนไปสอดแนม หาข่าวจากแคว้นรอบๆ”
ชายชราค้อมกายลง “รับพระบัญชาพะยะค่ะ!” พลันคนรีบหันกลับออกไปรวดเร็ว
เกือบเป็นเวลาเดียวกับที่คนชราคล้อยหลังไป เยี่ยฉวนซึ่งออกไปก่อนหน้ากลับย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ทำเอาหญิงสาวตกตะลึงด้วยคาดไม่ถึง
ชายหนุ่มเดินตรงมาหยุดเบื้องหน้าทัวป้าเหยียน สีหน้ากระอักกระอ่วน ท่าทีลังเลไม่แน่ใจบางอย่าง หากในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยถามเสียงเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน “เอ่อ… เอ่อ… ไม่ท้องใช่ไหมเจ้าน่ะ?” ทัวป้าเหยียนตกตะลึงกับคำถามที่ได้ยิน “…”
— จบตอน —
