Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 277


บทที่ 277 พี่น้องเราทุกคนพยายามแล้ว! (ต้น)

ขณะนั้น หลิงฮั่นและทุกคนกระจายเป็นวงกลมล้อมเยี่ยฉวนไว้ตรงกลาง ซึ่งบัดนี้ปรากฏลำแสงเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นทุกขณะ อีกทั้งกระบี่หลิงซิ่วบังเกิดแรงสั่นอย่างรุนแรงภายในเรือนกาย ด้วยอานุภาพแห่งพลังของกระบี่มหากาฬที่เพิ่งดูดกลืนเข้าสู่ร่างกาย!

การดูดกลืนพลังกระบี่มหากาฬ! ดังนั้นเยี่ยฉวนจึงละความสนใจจากสิ่งรอบข้าง เขาตัดความกังวลต่อสถานการณ์ออกหมดสิ้น! คามมุ่งมั่นที่จะต้องสำเร็จขั้นพลังให้ได้เดี๋ยวนี้! เพราะพลังขั้นทะยานสวรรค์ที่เป็นอยู่ ไม่สามารถสยบศัตรู! จำต้องบรรลุในขั้นสันโดษทันที!

ในตอนนั้นใครต่างเข้าใจกันว่า เยี่ยฉวนเพิ่งสำเร็จพลังขั้นทะยานสวรรค์เท่านั้น! แต่ความกล้าแกร่งกลับมีถึงขนาดสามารถสังหารคนที่เป็นยอดยุทธ์ผสานเทพมาแล้ว ถ้าเขาสำเร็จสันโดษเล่าจะเป็นอย่างไร? เพียงแค่คิดก็ขนหัวลุก!

มู่ซ่วนชิงมีสีหน้าเครียดขรึมในขณะที่จับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่อีกด้านหนึ่ง สีหน้าที่เคยเรียบเฉยท่าทางไม่วิตกทุกข์ร้อนแปรเปลี่ยนฉับพลันที่สังเกตเห็นเหตุการณ์

ทะยานสวรรค์! ถ้าเยี่ยฉวนสามารถสำเร็จขั้นสันโดษในตอนนี้……เมื่อฉุกคิดถึงตอนนี้แววตาครุ่นคิดพลางหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะหันไปฝั่งขวามือ “ถ้าใครสามารถสังหารเยี่ยฉวนได้ ข้าจะตบรางวัลเพิ่มให้เป็นเงินหนึ่งร้อยเหรียญทองและสุดยอดศิลาจิตวิญญาณห้าร้อยชิ้น!” ไร้เสียงขานรับ เมื่อไม่ปรากฏเสียงขานรับ มู่ซ่วนชิงกลับยิ่งหน้าหมองคล้ำ

ท่ามกลางวงล้อมของฝ่ายตรงข้าม ลู่ป้านจวงและคนอื่นๆ ช่วยกันห้อมล้อมรอบร่างของเยี่ยฉวนไว้ ขณะเดียวกัน กองกำลังทหารม้าหนักแห่งแคว้นถังกำลังทะยานตรงเข้ามาด้วยความเร็วสุดฝีเท้า ยามนี้แม้แผ่นดินยังสั่นด้วยแรงสะเทือน นอกจากนั้นแล้วยังมีกองกำลัง 19 ขุนศึกเต๋าแห่งสถานศึกษาฉางมู่ด้วย!

ที่ด้านนอกวงล้อม เหล่ามือสังหารจากดินแดนอันธกาลยังแอบซุ่มอยู่รอบบริเวณ! อีกทั้งยังมีอู๋เยี่ยอันดับสามแห่งทำเนียบผู้เยี่ยมยุทธ์! หากตัดสินจากปริมาณคน ฝ่ายเยี่ยฉวนดูจะเสียเปรียบในทุกประตู!

ถึงกระนั้นลู่ป้านจวงและคนของนางทั้ง 11 หามีใครยอมถอยไม่! ตรงกันข้าม คนทั้งสิบสองคนกลับยิ่งกระชับพื้นที่ล้อมรอบเยี่ยฉวนไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว! และในฐานะพี่ใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำ ลู่ป้านจวงก้าวออกมาข้างหน้า ในมือหยิบขนมออกมากัดหนึ่งคำก่อนจะโยนกลับเข้าที่เดิม ท่ามกลางสายตาทุกคู่ “……”

ในตอนนั้นเอง หญิงสาวทรุดกายลงกับพื้นในท่านั่งยองชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง จากนั้นจึงใช้ฝ่ามือข้างขวาตบลงบนพื้นดินทีหนึ่ง พลันเจ้าตัวกลับหยุดนิ่งอยู่ชั่วขณะ! ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ทันใดนั้น นางยกฝ่ามือขวาและพลิกกลับฉับพลัน “สะบั้นพสุธา!” เมื่อเสียงของคนเลือนหาย……

ตู้ม! เสียงระเบิดทำให้พื้นดินในรัศมีร้อยจั้งรอบบริเวณไหวโยก เสี้ยววินาทีต่อมาพื้นที่ตรงเบื้องหน้าค่อยๆ แตกแยกออกจากกันเป็นแนวยาว อีกทั้งบังเกิดแรงสั่นสะเทือนราวแผ่นดินไหวบริเวณรอบรอยแยกของผืนดินในขณะเดียวกัน ส่งผลให้พวกทหารม้าหนักแนวหน้าร่างกายระเบิดแหลกกระจัดกระจาย โลหิตแดงฉานซ่านเซ็นทั่วลาน!

แต่ยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่นั้น เมื่อร่างของหญิงสาวต้นเหตุของแผ่นดินไหวทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงเหนือทหารม้าหนักแนวหน้าที่ยังเหลือรอด ฉับพลันนั้นเอง ลู่ป้านจวงพลิกกลับเอาเท้าชี้ฟ้าศีรษะปักลงพื้น พุ่งตรงลงกลางกองทหารม้าหนักเบื้องล่าง

ตู้ม! ระเบิดดังกัมปนาทท่ามกลางกลุ่มทหารม้าหนักอีกครา พลันร่างของคนและม้าจำนวนมากมายกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง……

ยามนี้มู่ซ่วนชิงจ้องเขม็งมาที่ลู่ป้านจวงด้วยแววตาเยือกเย็น ก่อนจะเบนกลับไปทางเยี่ยฉวนที่อยู่กึ่งกลางวงล้อมอารักขา “ไปฆ่ามันก่อน!”

ฆ่าเยี่ยฉวน! พลันขุนศึกเต๋าแห่งฉางมู่ทะยานตรงมาทางเยี่ยฉวนโดยไม่รอช้า นอกจากพวกขุนศึกยังสมทบด้วยหลายเงาปีศาจและยอดยุทธ์อีกจำนวนหนึ่ง

พลันหลิงฮั่นก้าวเท้าออกมาพร้อมกับมือข้างขวาผลักทวนในมือออกไปอย่างแรง เขาเหยียดมุมปากแสยะยิ้มน่ากลัวขณะเพ่งมองเหล่าขุนศึกเต๋า “พี่น้อง หลังการต่อสู้วันนี้แม้ต้องตาย พวกเราจะยังนับถือกันเป็นพี่เป็นน้องเหมือนเดิมทุกคน!”

สิ้นคำประกาศคนกระแทกฝ่าเท้าดันตัวทะยานขึ้นสู่อากาศ พลันมีแสงสว่างทอประกายเจิดจ้าแผ่กระจายออกจากร่างกาย ทันใดนั้น ร่างคนพลิกกลับและโฉบลงอย่างรวดเร็วพร้อมทวนยาวพุ่งไปเบื้องข้างหน้า ซึ่งบัดนี้ ทวนลำยาวบังเกิดลำแสงสว่างสุกใสอย่างน่าประหลาดอีกทั้งครอบคลุมด้วยพลังปณิธานแห่งทวน ด้วยความเร็วอีกทั้งอานุภาพแห่งพลังได้ฉีกธาตุอากาศจนขาดกระจุยตลอดทางที่คนพุ่งลงมา เสียงระเบิดอันเป็นผลจากการเสียดสีดังก้องต่อเนื่อง!

ขณะนั้น ร่างกายของเหยี่ยลี่เริ่มปรากฏเป็นพร่าเลือนทีละน้อย ในจังหวะนั้น พื้นดินใต้ฝ่าเท้าพลันปริแยกและจู่ๆ คนก็ทะยานตรงเข้าหาเงาปีศาจ……

หลังจากนั้นคนอื่น เริ่มทะยานออกไปทีละคนๆ คนสิบคนปะทะขุนศึกเต๋า 19 คน ยังกองทหารม้าหนักหนึ่งพันและอีกหลายมือสังหารเงาปีศาจ พวกเขาจะต้านไหวหรือ?

ในขณะที่กำลังต่อสู้ พวกหลิงฮั่นและคนอื่นตกอยู่ในสถานะที่ถูกบดขยี้! ด้านลู่ป้านจวง นางพยายามอย่างยิ่งเพื่อเข้ามาช่วยเหลือ ทว่าตนเองกลับกลายเป็นต้องติดกับดักวงล้อมของกองทหารม้าหนัก!

ตู้ม! พลันร่างของใครคนใดคนหนึ่งตกลงมากระแทกพื้นดินที่เบื้องหน้าเยี่ยฉวน คนผู้นั้นนอนแผ่ด้วยสิ้นไร้กำลังจะต้านทาน ซ้ำมีโลหิตจำนวนมากทะลักออกทางปาก หากเขายังขยับลุกได้ พลางใช้หลังมือปาดคราบเลือดที่มุมปาก ก่อนจะล้วงเอาลงแหวนสัมภาระออกมายื่นส่งให้เยี่ยฉวน “พี่เยี่ย ข้าหวังหมิง นี่คือ……ข้างในเป็นสิ่งของที่ข้าเก็บไว้ ชะ……ช่วยนำไปให้แม่ของข้า ฝากบอกแม่ด้วยว่าข้าไม่อาจกลับไปทำหน้าที่ของลูกที่ดีได้อีกแล้ว……”

คนพูดจบประโยคก็ลุกพรวดขึ้นมายืน ทันใดนั้นหวังหมิงวิ่งออกไปข้างหน้าราวกับคนบ้า หากเขาทะยานไปได้ไม่กี่ก้าว ทวนยาวลำหนึ่งพุ่งสวนตรงเข้าปักที่หน้าอกของเขาที่พุ่งออกไปอย่างแรง หวังหมิงชะงักกึกยืนนิ่งตัวแข็งท่อ ใบหน้าแหงนเงยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หากแววตากลับว่างเปล่าไร้การรับรู้

ขุนศึกเต๋าผู้หนึ่งตามมากระชากทวนออกจากที่หน้าอกหวังหมิง จากนั้นก็ถลันตรงไปยังเยี่ยฉวน อย่างไรก็ตาม เมื่อขุนศึกเต๋าเข้าใกล้จนเกือบจะถึงที่เยี่ยฉวนเพียงห่างในระยะไม่เกินหนึ่งจั้งเศษ ร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขวางเบื้องหน้าและทะยานเข้าหาคนตรงข้ามเยี่ยฉวนทันที ขุนศึกเต๋าจึงกระแทกปลายทวนออกไปอย่างรุนแรง

คนผู้นั้นกลับมิเลี่ยงหลบ ทำให้ปลายทวนพุ่งเข้าสู่บริเวณท้องอย่างตรงๆ อย่างน่าแปลกใจ เมื่อเขาทะยานออกไปจนปล่อยให้ทวนแทงเข้าสู่ร่างตน พร้อมกันนั้น เขายกตวัดดาบในมือปาดตัดบริเวณลำคอของขุนศึกเต๋าผู้นั้นทันที

ฉับ! โลหิตพุ่งกระฉูดจากร่างของคนสองคนจากสองฝ่าย

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version