Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 278


บทที่ 278 พี่น้องเราทุกคนพยายามแล้ว! (ปลาย)

หลังปะทะ ชายคนดังกล่าวนำพาร่างที่ชุ่มโชกโลหิตถอยกลับมาเบื้องหน้าเยี่ยฉวน จากนั้นจึงแบมือออก พลันวงแหวนสัมภาระหล่นจากมือก่อนที่ตัวคนจะค่อยๆ ทรุดลงกองกับแทบเท้าเบื้องหน้าเยี่ยฉวน “ลี่เฟิง” คนพูดได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เปลือกตาจะขยับปิดลงช้าๆ

ตอนนั้นเอง พลันร่างของใครสักคนตกปุลงตรงหน้าเยี่ยฉวน เขาคือหลิงฮั่น ทว่าบัดนี้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและโลหิตไหลโทรม โดยเฉพาะที่มือข้างขวาปรากฏรอยถูกฟันจนยับเยิน จนแทบจะจับทวนซึ่งเป็นอาวุธประจำกายไม่อยู่

หลิงฮั่นหันหลังมาทางเยี่ยฉวนโดยคนเองหันหน้าออกเผชิญกับศัตรู สายตาจ้องเขม็งไปยังขุนศึกเต๋าห้าถึงหกคนที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา “พี่เยี่ย พวกเราพยายามแล้วจริงๆ”

เมื่อเสียงของคนขาดห้วง พลันปรากฏวงแหวนสัมภาระตกลงเบื้องหน้าเยี่ยฉวนอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันหลิงฮั่นเหยียดมุมปากยิ้มดุดัน เขาทำท่าจะผละจากเยี่ยฉวนเพื่อมุ่งไปทางกลุ่มขุนศึกเต๋าซึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามา ทันใดนั้น มีมือของใครบางคนกระชากหัวไหล่ดึงเขากลับ

เยี่ยฉวน! ชายหนุ่มเดินอาดๆ ตรงเข้าหาขุนศึกเต๋าทั้งห้าหกคนนั่น เมื่อเขาเดินเข้าใกล้ที่ร่างไร้วิญญาณของลี่เฟิง เยี่ยฉวนชะงักฝีเท้าหยุดนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับพวกขุนศึกที่พุ่งตรงมาจนเกือบจะถึงที่เบื้องหน้าเขาขณะนั้นระยะห่างราวเจ็ดแปดจั้ง

เยี่ยฉวนเอียงหน้ามาทางกลุ่มขุนศึกเต๋าเพียงแว่บเดียว ในตอนนั้นเองจึงสังเกตเห็นว่าใบหน้าของชายหนุ่มเวลานี้มีคราบน้ำตาที่ไหลริน ความสงบเข้าครอบงำเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่เยี่ยฉวนจะยกมือขึ้นขณะนั้นมีเสียงคำรามลอดไรฟันประหนึ่งเสียงของพญามัจจุราช “ตาย!”

ฟิ้ว! เสียงแห่งกระบี่ระเบิดขึ้นครั้งหนึ่ง ฉับพลันกระบี่หนึ่งทะยานออกจากร่างของเยี่ยฉวน ทันใดนั้น ศีรษะของขุนศึกเต๋าที่เบื้องหน้าถูกตัดออกจากคอของมันโดยมิทันตอบโต้

คนที่คอยสังเกตการณ์มู่ซ่วนชิงสีหน้าแปรเปลี่ยนสิ้นเชิง “ขั้นสุดยอดสันโดษ! พลังกระบี่แท้จริง!”

จังหวะเดียวกันนั้นร่างของเยี่ยฉวนหายวาบไปจากสถานที่ และเกือบในเวลาพร้อมกันที่ศีรษะของขุนศึกเต๋าอีกคนถูกตัดขาดกระเด็น! สัมผัสสังหาร!

สัมผัสสังหารทันที!

เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจักษ์แก่ตา ขุนศึกเต๋าที่เหลือสองคนสีหน้าเผือดซีด พลันกระบี่เล่มหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาหา หนึ่งในสองขุนศึกเต๋ากระแทกทวนยาวในมือสวนออกปะทะกระบี่หลิงซิ่วกระทั่งชนเข้ากับปลายกระบี่พอดี ทันทีที่อาวุธทั้งสองชนประสานงา เป็นทวนยาวหักเป็นสองท่อนทันทีง่ายดายราวกับใช้มีดฟันเต้าหู้ฉับเดียวก็แหลกเหลว

รังสีกระบี่เปล่งประกายวาบ! ศีรษะของคนจำนวนหนึ่งขาดกระเด็น ด้วยมีกระแสโลหิตที่พุ่งกระฉูดเป็นหลักฐาน! ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ขุนศึกเต๋าที่ปรากฏออกเบื้องหน้าได้ถูกเยี่ยฉวนสังหารจนหมดสิ้น!

เขาไม่รีรอและมุ่งหน้าไปอีกด้านหนึ่ง……เหตุการณ์แปลกประหลาดบังเกิดขึ้นในลานที่กำลังมีการต่อสู้ เยี่ยฉวนสังหารฝ่ายตรงข้ามด้วยการออกปะทะเพียงครั้งหนึ่ง หนึ่งปะทะ หนึ่งสังหาร ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังปะทะชนิดนี้ของเยี่ยฉวนได้! เมื่อเยี่ยฉวนปรากฏกายขึ้นในลานที่กำลังต่อสู้ ทำให้บรรยากาศแปรเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!

ฟากหนึ่งของลาน มู่ซ่วนชิงมองเยี่ยฉวนด้วยสายตาประหลาด ทั้งใบหน้าของคนยังเผือดซีด ด้วยบัดนี้เยี่ยฉวนสำเร็จขั้นสุดยอดสันโดษแล้ว อีกทั้งยังกำจัดขุนศึกเต๋าแห่งฉางมู่ด้วยใช้ทักษะสัมผัสสังหาร ถ้าเขาบรรลุขั้นผสานเทพ ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่าไร?!

ตอนนี้สีหน้าของมู่ซ่วนชิงทั้งโกรธเกรี้ยวดุดัน เขาจัดการผายมือออกไปเบื้องหน้าพลันเกิดเป็นเปลวเพลิงลุกโชนเผากระดาษแผ่นหนึ่งที่ใจกลางฝ่ามือ ทันใดนั้น เปลวไฟลอยละลิ่วเป็นสายไปในระยะไกลที่สุดขอบฟ้า

สัญญาณ! หลังจากนั้นเขาจึงค่อยหลับตาลง เสียงพึมพำแผ่วเบา “ต้องสังหารคนผู้นี้!” ขณะที่ลานกว้างเยี่ยฉวนยังไล่สังหารฝ่ายศัตรูอย่างบ้าคลั่ง ที่ใดที่เขาปรากฏตัว ที่นั้นจะศีรษะของฝ่ายตรงข้ามถูกตัดขาดกระเด็น! ไม่อาจหยุดยั้งทั้งคนและกระบี่!

การดูดกลืนกระบี่มหากาฬไปก่อนหน้านี้ ทำให้พลังในกายเพิ่มพูนจนสามารถสังหารยอดยุทธ์สันโดษได้โดยไม่ต้องใช้พลังปฐพี!

คนกล้า กระบี่แกร่ง!

ดังนั้นในเวลาไม่นานต่อมา ขุนศึกแห่งเต๋าเกือบทั้งหมดได้ถูกเยี่ยฉวนตามไล่สังหารจนเกือบหมด ส่วนขุนศึกเต๋าและยอดยุทธ์จากแผ่นดินชิงที่ยังเหลือล้วนถูกไล่ล่าอย่างไม่หยุด

ไม่หยุดยั้ง! เยี่ยฉวนสังหารทุกคนที่เจอ! ถึงกระนั้นขุนศึกเต๋าล้วนไม่คิดล่าถอย! แม้ว่าจะถูกเยี่ยฉวนสังหารไปกว่าห้าหกคน คนที่เหลือก็ไม่ถอยและยังคงยืนหยัดต่อสู้โดยไม่คิดหลบหนี! บัดนี้มีขุนศึกเต๋าเพียงห้าหรือหกคนที่เหลือรอด!

“ถอย!” พลันเสียงของมู่ซ่วนชิงระเบิดสนั่นปานฟ้าผ่า อย่างไรก็ตามกลุ่มของขุนศึกเต๋ายังเดินหน้าปะทะเย่ฉวย ไม่ยอมล่าถอยอยู่นั่นเอง เมื่อเห็นเช่นนั้นมู่ซ่วนชิงได้แต่ขบกรามกรอด เสียงคำรามลอดไรฟัน “เจ้าโง่!”

พลันเมื่อได้ยินเสียงคนที่ว่าดังนั้น ขุนศึกเต๋าคนหนึ่งหันขวับมามองมู่ซ่วนชิงมองด้วยแววตาขุ่นจัด “พวกเราเคยสาบานว่าจะปกป้องเกียรติภูมิของสถานศึกษาฉางมู่ไว้ด้วยชีวิต!” ทันทีที่พูดขาดคำ คนพูดหันกลับวิ่งตรงรี่เข้าหาเยี่ยฉวน

ทันใดนั้นเยี่ยฉวนหายวับไปจากที่ และเกือบเป็นจังหวะเดียวกับที่ในลานโล่งปรากฏรังสีกระบี่สว่างวาบ ฉับพลันศีรษะของขุนศึกเต๋าคนหนึ่งกระเด็นหลุดจากบ่า!

โลหิตแดงฉานพุ่งกระฉูด! เบื้องหลังร่างของขุนศึกเจ้าของศีรษะ จู่ๆ เยี่ยฉวนปรากฏกายขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน กระบี่หลิงซิ่วกระชับในมือข้างซ้าย

ขณะนั้นเองเบื้องหน้าเยี่ยฉวน ขุนศึกเต๋าสี่คนทะยานวาบมุ่งตรงเข้ามา ซึ่งครั้งนี้เขามิได้ตอบโต้ด้วยอาวุธหากกระพือเปลือกตาทั้งสองข้างเปิดขึ้นรวดเร็ว

ฉับ! ฉับ! แสงกระบี่คมปลาบสองลำแสงพุ่งวาบจากนัยน์ตา พุ่งทะลวงสู่จุดกึ่งกลางหว่างคิ้วของขุนศึกเต๋าสองคนซึ่งวิ่งนำมาข้างหน้า……

ฉับไว!

สองลำแสงกระบี่ฉับไวยิ่งนัก! กอปรกับระยะทางไม่ห่างไกลมาก เจ้าขุนศึกเต๋าทั้งสองไม่มีโอกาสแม้แต่จะป้องกันตัวก่อนตาย!

เมื่อลำแสงทะลวงเข้าสู่กึ่งกลางหว่างคิ้ว พลันร่างของเยี่ยฉวนหายวับไปทันที……ฉึก! ฉึก! สองขุนศึกเต๋าสะดุ้งเฮือกร่างนิ่งขึงตรึงหยุดอยู่กับที่ ก่อนที่ศีรษะจะค่อยหลุดจากคอหล่นลงพื้นดิน

ขณะเดียวกันบนร่างกายของเยี่ยฉวนปรากฏบาดแผลและโลหิตซึมไหลออกมาไม่น้อย โดยเฉพาะที่บริเวณหัวไหล่ซ้ายซึ่งถูกทวนแทงจนทะลุมาก่อนหน้า……

เขาเดินย้อนกลับไปที่หลิงฮั่นอีกด้านหนึ่ง ซึ่งคนผู้นั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมในมือกำทวนอาวุธคู่กายเกร็งแน่น ศีรษะเอนซบไปบนลำทวนที่ปลายปักค้ำยันกับพื้น ทว่าบัดนี้ร่างไร้กระแสแห่งชีวิตแล้วอย่างสิ้นเชิง……

เยี่ยฉวนค่อยทรุดเข่าลงบนพื้นดินและก้มศีรษะจนหน้าผากโขกลงกับพื้นแข็งๆ เสียงปล่อยโฮร่ำไห้ราวเด็กน้อยดังออกมา

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version