Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 283


บทที่ 283 เอาเลย จะแต่งตั้งใครเป็นฮ่องเต้! (ต้น)

ท่ามกลางป่าเข้าลำเนาไพร เยี่ยฉวนและคนกลุ่มหนึ่งยืนสงบนิ่งอยู่ต่อหน้าสุสานขนาดย่อมสองหลุม ด้านล่างสุสานเล็กๆ แห่งนี้เป็นที่ฝังร่างของลี่เฟิงกับหวังหมิง ตามกฎของกลุ่มมีอยู่ว่า ทุกครั้งที่มีคนตาย พวกเขาจะฝังร่างของผู้ตายไว้ ณ สถานที่ที่เขาเสียชีวิต!

เยี่ยฉวนยืนสงบนิ่งต่อหน้าสุสานทั้งสองเป็นเวลาเนิ่นนาน จนกระทั่งเสียงพึมพำแผ่วผ่านริมฝีปาก “ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้พวกเราได้กลับมาเป็นพี่น้องกัน!”

จากนั้น เขาก็เดินเลี่ยงออกห่างไปอีกทาง ลู่ป้านจวงขยับเดินขึ้นมาที่เบื้องหน้าสุสานเป็นคนถัดมา นางทรุดลงนั่งคุกเข่า ก่อนจะวางขนมเปี๊ยะสองชิ้นใหญ่ลงที่เบื้องหน้าทั้งสองสุสาน “ชาติหน้าพวกเรามาเป็นพี่เป็นน้องกันอีก!”

หลังจากนั้นคนอื่นต่างทยอยเข้ามาเริ่มจากหลิงฮั่น ตามด้วยคนที่เหลือทุกคนเพื่อกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย! เมื่อถึงตากานอู๋เว่ย เขาโผเข้ากอดป้ายหน้าสุสานทั้งสองและปล่อยร่ำไห้โฮเสียงดังอยู่นาน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนที่ได้ยินพลอยน้ำตารื้นไปด้วย

พวกเขาเดินทางมาไกลจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในระหว่างทางพานพบเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตายนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้คนในกลุ่มทยอยตายลงทำให้ลดจำนวนลงไปทุกที……

แต่ความจริงโลกมันก็โหดร้ายเช่นนี้เอง ถ้าพวกเขาไม่ต่อสู้ดิ้นรนและฝึกฝนอย่างหนัก ก็คงมีชีวิตอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีไม่ต่างอะไรกับสุนัขตัวหนึ่ง การยอมตายอย่างสมศักดิ์ศรี ดีกว่ามีชีวิตอยู่อย่างคนขี้ขลาด! พวกเขาไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้ขลาด!

ด้านหลังลู่คว่างและพวกได้แต่มองดูเงียบๆ แน่นอนพวกเขาเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของพวกเยี่ยฉวนในเวลานี้เป็นอย่างดี ด้วยทุกคนล้วนเคยผ่านประสบการณ์การสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียพี่น้องและคนที่รักก็เช่นกัน

คนที่ร่วมกินดื่มในวันนี้ พรุ่งนี้อาจต้องพรากจาก……พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครล่วงรู้อนาคต!

หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้น พวกเยี่ยฉวนก็เริ่มต้นเก็บกวาดสนามประลอง คนที่ถูกฆ่าตายหาใช่พวกธรรมดาสามัญ ซึ่งคนเหล่านี้ต่างพกพาสิ่งของและอาวุธที่มิใช่ธรรมดามาด้วย ดังนั้น อีกสองก้านธูปถัดมา เยี่ยฉวนและกลุ่มคนจึงมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง วังหลวงแห่งแคว้นถัง!

ขณะนั้น เยี่ยฉวนขี่หลังสุนัขป่ายักษ์สีดำสนิทอยู่ตรงกลาง ขนาบซ้ายขวาเป็นลู่คว่างและลู่ป้านจวง ทางด้านหลังคนทั้งสามคือไป่เจ๋อ และหลิงฮั่นนอกจากนั้นก็มีกลุ่มคนของกองกำลังหยาจื้อ

เมื่อกองกำลังที่เป็นมนุษย์ผนึกเข้ากับกองกำลังฝูงสัตว์อสูรที่ไป่เจ๋อนำพา ทำให้ ณ เวลานี้พวกเขาเทียบได้กับกองทัพทหารย่อมๆ ทั้งเป็นกองทัพทหารชั้นยอดเยี่ยมอีกด้วย!

ดังนั้นทุกคนจึงพุ่งตรงไปยังวังหลวงแห่งแคว้นถังทันที ในระหว่างทางผ่านหากพานพบฝ่ายศัตรูจะถูกตีจนพ่ายกระจัดกระจายไป กระทั่งไร้ผู้หาญกล้าออกต้านทานกลุ่มคนกลุ่มนี้

เพียงครู่เดียวทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งแคว้นถังก็เดือดระอุไปทุกหย่อมหญ้า หรือถ้าพูดให้ถูกตอนนี้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงต่างหวาดวิตกทุกข์ร้อน

นั่นจึงเป็นเหตุให้กองทหารม้าเกราะดำแสนนายที่ประจำอยู่ ณ เมืองชายแดนได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังทันที และเร่งให้กลับมาให้การอารักขาเมืองหลวงแคว้นถังโดยด่วน

ไม่เพียงทหารม้าเกราะดำแสนนายที่รีบถอนกำลังกลับ แม้แต่กองกำลังข้ามพรมแดนต่างรีบรุดกลับมาให้การอารักขาวังหลวงทั้งสิ้น

หากวังหลวงถูกตีแตก ซึ่งก็หมายความว่าแคว้นได้ล่มสลายไปแล้วกว่าครึ่ง ด้วยวังหลวงมีสถานะสูงที่สุดในแคว้นถังและเป็นที่รวมของชนชั้นมันสมองของแคว้น เมื่อใดที่วังหลวงพินาศย่อยยับ เมื่อนั้นแคว้นถังจะตกอยู่ในภาวะแตกความสามัคคีและไร้เสถียรภาพ!

ฉะนั้นไม่เพียงแต่กำลังทหารที่ถูกเรียกกลับแม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์พลเรือนล้วนมุ่งหน้าเดินทางลับเมืองหลวง ด้วยเวลานี้แคว้นบ้านเกิดเมืองนอนใกล้ถึงจุดแตกดับเต็มที

ภายในเมืองหลวงแห่งแคว้นถัง

เยี่ยฉวนนำหน้ากลุ่มคนทั้งหมดตรงเข้าเขตวังหลวงราวกับเป็นบ้านเมืองของตนเองกระนั้น ในระหว่างนั้นไม่มีใครเข้าสกัดยับยั้งด้วยไม่กล้านั่นเอง

ตลอดเวลายอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์ไม่อาจทำการจู่โจม จึงไม่มีใครกล้าขวางทางเยี่ยฉวนและกลุ่มคน ชั่วไม่นานต่อมากลุ่มของเยี่ยฉวนได้มาหยุดที่ประตูหน้าของวังหลวงแห่งแคว้นถัง

ขณะนั้นประตูหน้าวังหลวงแคว้นถังยังปิดสนิท บนกำแพงมีพลธนูนับพันเตรียมพร้อมเข้าประจำที่แล้ว ชายชราคนหนึ่งจับตามองการมาของพวกเยี่ยฉวนจากด้านหน้าวังหลวง คนผู้นี้จะเป็นใครอื่นมิได้นอกจากราชครูแห่งแคว้นถัง

คนชราทอดสายตาแน่วนิ่งตรงมาเฉพาะที่เยี่ยฉวน “ดูท่าว่าพวกเจ้าอยากตายมากสินะ? คิดว่าถ้าทำอย่างนี้แล้วทุกคนจะ……” ทันใดนั้นลำแสงประหลาดฉายวาบตัดผ่านลานกว้าง ขณะต่อมาศีรษะของทหารจำนวนหลายศีรษะกระเด็นตกลงมาจากขอบกำแพงด้านบนทันที!

เมื่อเห็นเยี่ยฉวนมีทีท่าจะออกปะทะจู่โจม ลู่คว่างและคนอื่นๆ ทะยานพรวดขึ้นสู่ขอบกำแพงสูงทันที ไม่นานนักทหารที่ประจำจำนวนหลายสิบนายก็ถูกสังหารตายคาอยู่บนกำแพงนั้น

จากนั้น ไป่เจ๋อและหลิงฮั่นรีบนำคนอื่นเข้าสมทบในการต่อสู้ทันที เกือบจะทันทีที่พวกเยี่ยฉวนเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ที่บนกำแพงวังหลวง

ทันใดนั้น เยี่ยฉวนชี้มือไปทางประตูด้านหน้าวังหลวงที่ไกลออกไป พลันกระบี่หนึ่งสะบัดออกและเหวี่ยงคมตัดฉับที่ประตูใหญ่หนาของวังหลวง ตู้ม! ฉับพลันนั้น ประตูหน้าวังหลวงก็พังทลายลง กลายเป็นเศษเสี้ยวชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงลงไปกองที่พื้นดิน

ที่ด้านหลังประตู องครักษ์พิทักษ์วังหลวงแคว้นถังราวสองพันยืนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว สายตาทุกคู่จ้องจับมาที่เยี่ยฉวนและกลุ่ม แววตาของพวกเขาเหล่านี้ไร้ซึ่งความกลัวและพร้อมเผชิญกับความตายทุกรูปแบบอย่างไม่หวั่นเกรง!

เผชิญหน้ากับความตายโดยไม่หวั่นเกรง! สำหรับพวกเขาถอยหนีไม่ได้ และต้องสู้จนตัวตายเท่านั้น!

โดยปราศจากวาจาใด เยี่ยฉวนกระชับกระบี่หลิงซิ่วพุ่งวาบเข้าใส่กองทหารตรงหน้าทันที ที่ตามมาติดๆ ด้านหลังเขาคือสัตว์อสูรฝูงใหญ่ มีจำนวนเกือบหมื่นตัว! นับตั้งแต่ต้นจนจบ เยี่ยฉวนมิได้หันไปใส่ใจคนที่เอาแต่ยืนดูห่างๆ ราชครูคนนั้นแม้แต่น้อย!

ซึ่งบัดนี้ชายชราสีหน้าหม่นหมอง ขณะนั้นบีบมือเข้าหากันจนแน่นทว่าไร้ซึ่งวาจา ไม่มีใครล่วงรู้ความคิดของเขาในตอนนั้น

เยี่ยฉวนยังย่างสามขุมตรงไปทางกลุ่มทหารองครักษ์ ทุกครั้งที่กระบี่หลิงซิ่วสะบัดพรึ่บ จะมีศีรษะหนึ่งปลิดปลิวกระเด็นไปในอากาศ และเมื่อสัตว์อสูรทะยานเข้าสู่ลานประลอง กองทหารทั้งหมดก็แตกสานซานเซ็น……

เพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูปดี ทหารที่ประจำ ณ บนกำแพงวังหลวงก็ล้มตายเกลี้ยง บัดนี้รอบกายเยี่ยฉวนมีแต่ซากศพไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร กระแสโลหิตรวมเป็นสายไหลลงแม่น้ำ!

ในขณะที่การปะทะต่อสู่อย่างดุเดือด ท่านราชครูหาได้ขยับเคลื่อนไหวแม้สักครึ่งก้าว! ความจริงก็คือเขาอยากออกปะทะให้รู้ดีรู้ชั่วกันไป ทว่าก็ยังมิกล้า!

คนที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยฉวนมิได้มีเพียงเซียนกระบี่ แต่ยังมีลู่คว่างและพวก ศัตรูเหล่านี้เป็นกลุ่มคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่ เช่นนี้พวกที่มาจะว่าธรรมดาได้หรือ? หาใช่ไม่ พวกนั้นมิใช่คนธรรมดาสามัญ! ถ้าเขาออกต้านทานคนเหล่านี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงเสียยิ่งกว่าร้ายแรง!

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version