บทที่ 284 เอาเลย จะแต่งตั้งใครเป็นฮ่องเต้! (ปลาย)
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เยี่ยฉวนและพวกจึงมุ่งหน้าลึกเข้าไปภายในเขตพระราชฐานแห่งวังหลวง เมื่อทุกคนเดินมาหยุดลงที่เบื้องหน้าบันไดหินกว้างทอดสูงขึ้นไปหลายขั้น ห่างไปราวร้อยจั้ง ณ ที่สุดขั้นบันได บุรุษวัยกลางคนสวมผ้าคลุมปักลวดลายมังกร ดูท่าว่าชายผู้นี้คือองค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นถังเป็นแน่!
คนผู้นั้นอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนหนึ่งทั้งทหาร ข้าราชบริพารและกระทั่งนางสนมหลายคน ในยุคนั้นมีสตรีจำนวนมากเช่นกันที่ฝึกฝนทักษะยุทธ์!
เยี่ยฉวนถือกระบี่เดินตรงไปหาองค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นถัง ขณะนั้นเองบรรดาทหารที่ยืนห้อมล้อมพลันถลันออกเบื้องหน้าสกัดทางเยี่ยฉวนมิให้เดินหน้าเข้าใกล้ฮ่องเต้แคว้นถัง!
ฮ่องเต้ก้าวออกมาระหว่างหมู่ทหาร เบื้องหลังติดตามมาด้วยเป็นชายชราที่หลังเหน็บอาวุธดาบคู่ สายตาคมกริบจ้องเขม็งที่ชายหนุ่มไม่วางตาตลอดเวลา!
ในที่สุด ผู้เป็นฮ่องเต้ส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ “ข้ามักพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบเสมอมา ยกเว้นเรื่องของเจ้า ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งแคว้นถังจะต้องตกที่นั่งลำบากเพราะคนเช่นเจ้า!
เยี่ยฉวนหันไปพูดกับลู่ป้านจวงและคนอื่น “พวกเจ้าเข้าไปข้างใน เก็บกวาดทรัพย์ของล้ำค่ามาให้หมด ถ้าใครกล้าขัดขวาง สังหารหมู่ศัตรูในวังหลวงทั้งหมดไม่ให้เหลือ”
“สังหารหมู่ศัตรูในวังหลวงทั้งหมด!” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น คนของแคว้นถังพลันหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเคียดแค้น ถึงกระนั้นไม่มีใครกล้าแม้แต่ขยับ คนที่อาจต่อกรได้ก็ไม่กล้าออกปะทะกับพวกเยี่ยฉวน ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าคนที่อ่อนด้อยกว่ามีหรือจะกล้า!
ด้วยเหตุนี้ลู่ป้านจวงจึงนำคนอื่นที่เหลือมุ่งหน้าไปยังท้องพระคลังที่เก็บสิ่งของล้ำค่าภายในวังหลวง
แห่งแคว้นถัง! พวกเขาจัดการเก็บกวาดสิ่งของมีค่าทุกอย่างที่มีในวังหลวง! โดยเฉพาะหลิงฮั่นและหลายคนออกท่าทางกระตือรือร้นเป็นพิเศษ! ด้วยตอนนี้พวกเขาได้เข้ามาในวังหลวง ซ้ำยังได้เข้ามาในท้องพระคลังอีกต่างหาก!
อย่าว่าใครอื่นแม้แต่ลู่คว่างและพวกพ้องกองกำลังหยาจื่อก็ดูออกว่าตื่นเต้นกับประสบการณ์ครั้งนี้ไม่น้อย ด้วยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขากระทำการเข้าโจรกรรมวังหลวง!
คนที่ยืนรวมกันที่ลานกว้างกลุ่มทหารองครักษ์และยอดยุทธ์ หามีใครกล้าขัดขวางพวกเยี่ยฉวนไม่! ด้วยทุกคนไม่กล้า!
ทุกคนจึงได้แต่ยืนดูเยี่ยฉวน ชายหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาบอกคนทุกคนในกลุ่มให้สังหารหมู่ศัตรูในวังหลวง ท่าทางคนผู้นี้ไม่ใช่พูดเพราะความคะนองปากอย่างแน่นอน! เมื่อใดที่มีคนกล้าออกขัดขวง เมื่อนั้นแคว้นถังมีหวังเสมือนตกนรกทั้งเป็น!
ในขณะเดียวกันทั้งลานอยู่ในภาวะสงบเงียบ
ทันใดนั้น เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เพิ่งเดินทางมาถึงได้มาหยุดที่หน้าประตูวังหลวง คนทั้งหมดมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วเมืองหลวง ทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับซากศพเกลื่อนกล่นอยู่ทั่วบริเวณ ผู้เยี่ยมยุทธ์หลายคนออกอาการบันดาลโทสะอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วก็ต้องข่มใจสงบปากคำ หรือจะพูดให้ตรงเมื่อความรู้สึกโศกสลดวูบเข้าเกาะกุมภายในจิตใจอย่างฉับพลัน!
มิใช่เพียงแต่ร่างไร้วิญญาณที่อยู่รายล้อมรอบเยี่ยฉวนและคนของเขาเท่านั้น แต่เป็นร่างไร้วิญญาณจำนวนกว่าห้าถึงหกพันร่าง! บัดนี้ซากศพเริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยตามลมมาเข้าจมูก!
เหตุไฉนพวกเขาจึงไม่ปฏิบัติการจู่โจมทันทีเล่า? คำตอบคือเป็นเพราะไม่กล้า! เยี่ยฉวนจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นจู่โจมก่อนทุกครั้ง ด้วยหากเขาเริ่มจู่โจมเมื่อใดผลของการต่อสู้จะมีแต่ความตาย ซึ่งเขาเองมิได้ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นในเวลานี้!
คนที่ยืนประจันหน้า ฮ่องเต้แคว้นถังมองเขม็งแน่วนิ่งมายังเยี่ยฉวน มือข้างขวากำหมัดแน่น “ประลองเป็นตาย งั้นหรือ?” คำถามและคำพูดมากมายหลากล้นอยู่ภายในใจ
“ถ้าฝ่ายเยี่ยฉวนจู่โจม ทุกคนในแคว้นถังจะสู้จนตัวตายด้วยเพราะเขาจะไม่เหลือทางเลือกแก่คนแคว้นถัง!”
“ในเมื่ออย่างไรเสียก็ต้องตาย ไฉนจึงไม่พยายามต่อสู้เล่า?”
“แต่ตอนนี้เยี่ยฉวนไม่ออกจู่โจมแม้แต่ก้าวเดียว ดังนั้นหลายต่อหลายคนจึงยอมแพ้ต่อความคิดที่จะสู้จนกว่าจะชนะหรือไม่ก็ตาย”
“อย่าว่าแต่ทหารที่ยืนห้อมล้อมข้าอยู่ในขณะนี้ แม้แต่ตัวของข้าเองยังไม่ต้องการดิ้นรนโดยไร้หนทางต่อสู้!”
“ถ้าสู้แล้วมีโอกาสที่จะชนะ ใครเล่าจะอยากตาย?”
ในขณะเดียวกันทางลู่ป้านจวงกำลังพาพวกรื้อค้นอย่างบ้าระห่ำ พวกเขากวาดเอาทรัพย์สินที่มีค่าทุกอย่าง ในวังหลวงจะขาดซึ่งของล้ำค่าได้อย่างไร?
ทุกที่ทางมีของล้ำค่าอยู่ทั่วไป ดังนั้นในเวลาไม่นานนัก วงแหวนสัมภาระของทุกคนจึงเต็มไปด้วยสิ่งของที่กวาดออกมาเก็บไว้ เคราะห์ยังดีที่พวกเขาค้นเจอวงแหวนสัมภาระที่ซุกซ่อนในท้องพระคลังวังหลวง แม้จะมีเพียงไม่กี่ชิ้นแต่ก็มีเนื้อที่มากพอที่พวกเขาจะเก็บของล้ำค่าเหล่าไว้ได้หมดทุกชิ้น
เบื้องหน้าขั้นบันไดหิน เยี่ยฉวนและฝูงอสูรสัตว์ยังยืนคุมเชิงเผชิญหน้ากับองต์ฮ่องเต้แห่งแคว้นถังและเหล่าทหารองครักษ์ ผู้เยี่ยมยุทธ์จากหลายที่ทางในเมืองหลวงมารวมตัวกัน ณ ที่นี้แล้ว ทว่า ยังไม่มีใครกล้าเริ่มปฏิบัติการจู่โจม
ฮ่องเต้เองก็มิได้มีความเคลื่อนไหวด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งส่อเจตนาว่าเขาก็ไม่ปรารถนาความตาย! ถ้าเขาไม่กลัวตาย ก็คงสั่งการให้คนต่อสู้กับเยี่ยฉวนจนกว่าจะพินาศย่อยยับกันไปข้างหนึ่งไปแล้ว!
ราวครึ่งชั่วยามต่อมาลู่ป้านจวงและพวกของนางเดินออกมาจากด้านในเขตพระราชฐานวังหลวง ทุกคนฉีกยิ้มกว้าง ท่าทางยินดีปรีดายิ่งนัก แม้แต่ลู่คว่างและพวกกองกำลังหยาจื้อ ยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หุบไม่ลงกันเลยทีเดียว!
ที่ผ่านมา พวกที่เข้าไปสำรวจตรวจค้นทั่วทุกซอกทุกมุมภายในวังหลวง พอจะจินตนาการได้ว่าเวลานี้แต่ละคนจะบรรทุกสมบัติมาเต็มเพียบปานใด! เมื่อทุกคนกลับออกมาพร้อมกัน ลู่ป้านจวงเดินเข้าไปทางเยี่ยฉวน ทันใดนั้น บรรยากาศโดยรอบแปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันที
ด้วยในตอนนี้บริเวณภายนอกเขตวังหลวง กองกำลังจำนวนมาได้ถึงแล้วซึ่งเป็นกองกำลังที่เดินทางมาจากเมืองต่างๆ ที่อยู่รอบเมืองหลวงนั่นเอง!
ขณะนั้น ไป่เจ๋อนำฝูงสัตว์อสูรยืนเผชิญหน้ากับเหล่ากองกำลังที่เพิ่งมา ขณะเดียวกัน ลู่ป้านจวงและคนอื่นหันมาทางเยี่ยฉวน สายตามีแววเป็นเชิงถาม
สู้หรือไม่สู้? ถ้าสู้ สนามประลองแห่งนี้จะต้องนองเลือดอีกครา ด้วยเวลานี้ผู้คนของแคว้นถังที่กำลังมุ่งหน้ามามีจำนวนมากมาย ส่วนใหญ่เป็นทหารที่สังกัดในกองกำลัง!
แน่นอนว่าเพียงเยี่ยฉวนสั่งให้ต่อสู้คำเดียว เมื่อนั้นคนทั้งหมดจะลงสนามประลองโดยไม่รีรอ! จะสู้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเยี่ยฉวนเพียงคนเดียวเท่านั้น!
เยี่ยฉวนก้าวตรงไปยังฮ่องเต้แคว้นถัง “ข้ามีข้อเสนอสองข้อให้ทรงเลือก ข้อแรก พระองค์กลับไปแคว้นเจียงพร้อมกับข้าและเจรจาสงบศึกกับฮ่องเต้ของเราด้วยตัวเอง ข้อสอง หาไม่ข้าจะสังหารท่านเสีย”
“เจรจาสงบศึก?” ฮ่องเต้แคว้นถังเหยียดมุมปากพลางหัวเราะแค่น “เจ้าจะจับข้าไปจองจำงั้นหรือ? ข้าเป็นถึงฮ่องเต้ เจ้ากล้าจับข้าเข้าคุกงั้นหรือ? โอหังเกินไปแล้ว ข้าจะบอกให้……”
ฉับพลันนั้น ยังมิทันที่คนอื่นในที่นั้นจะทันตั้งตัว เยี่ยฉวนกระชากกระบี่ออกจากฝัก ก่อนตวัดวาบด้วยความเร็วอย่างที่สุด ทันใดนั้น ความเงียบงันประหลาดครอบงำทั่วบริเวณจนนิ่งไป!
สายตาของฮ่องเต้แคว้นถังยังคงแน่วนิ่งที่คนตรงหน้า อีกทั้งเต็มไปด้วยความกังขาอย่างไม่อาจอธิบายได้
จังหวะนั้นจู่ๆ สายลมพัดฉิวเฉื่อยผ่านเข้ามาวูบหนึ่ง พลันศีรษะของฮ่องเต้แคว้นถังร่วงหล่นจากบ่าลงต้องพื้นดิน มิเพียงเท่านั้นโลหิตแดงฉานพุ่งกระฉูดดุจน้ำพุ!
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างชะงักงันด้วยความตกตะลึง! “เยี่ยฉวนสังหารฮ่องเต้?!” ไม่ต้องพูดถึงว่าคนแคว้นถังจะมีอาการอย่างไร แม้แต่ลู่ป้านจวงและคนอื่นในฝ่ายเยี่ยฉวนทุกคนต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน
ขณะเดียวกัน เยี่ยฉวนยกกระบี่หลิงซิ่วขึ้นเช็ดคราบโลหิตออกจากคมกระบี่ พลันเสียงพูดดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้ไม่อยากเสด็จแคว้นเจียงไม่ใช่หรือ? ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าพระองค์เลือกที่จะตาย!”
เมื่อพูดจบเขาหันไปทางเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นถังซึ่งยืนตะลึงอยู่ไม่ไกลนัก “เอาเลย จะแต่งตั้งใครเป็นฮ่องเต้อีก จะได้ไปเจรจาสงบศึกกันเสียที!”
ทุกคน “……”
— จบตอน —
