Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 285


บทที่ 285 พวกเราแพ้แล้ว! แพ้ราบคาบ! (ต้น)

บริเวณลานกว้างเงียบกริบราวป่าช้า! เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นถังต่างตกตะลึงยืนนิ่งตัวแข็ง! คำถามมากมายผุดขึ้นภายในใจของทุกคน

“คนผู้นี้สังหารฮ่องเต้แคว้นถังเฉยๆ อย่างนี้เองหรือ?”

“เยี่ยฉวนเป็นคนพูดเองมิใช่หรือว่าต้องการเจรจาสงบศึก?”

“แล้วนี่เขาสังหารฮ่องเต้เพียงเพราะไม่ยอมเสด็จไปแต่โดยดี!”

บัดนี้ สายตาทุกคู่จ้องมองเยี่ยฉวนเป็นตาเดียว พลันต่อมาแววตาตื่นตะลึงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นเข้ามาแทนที่! คนแคว้นถังทุกคนที่มาในที่แห่งนี้ต่างบันดาลโทสะ! สาเหตุเป็นเพราะประชาชนพลเมืองของแคว้นถังรู้สึกถึงกระทำการดูถูกครั้งนี้ประหนึ่งหนามแหลมทิ่มแทงจิตใจ!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นถังที่มีอารมณ์รุนแรงหลายคนอดทนต่อไปไม่ไหว หลายคนทะยานเข้าหาเยี่ยฉวนและกลุ่มคนเบื้องหน้า! เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มเปิดฉากจู่โจม หลายคนที่ไม่เกรงกลัวก็กล้าทะยานลงสู่สนามประลองติดตามกันมา เยี่ยฉวนเมื่อเห็นเช่นนั้นพลันหายวาบไปจากสถานที่ ลู่ป้านจวงอีกคนก็หายวาบไปเกือบในเวลาเดียวกัน

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ฉับพลันนั้น เสียงระเบิดดังกัมปนาทผสานเสียงวัตถุฉีกขาด ทันทีที่เงียบเสียงลงเยี่ยฉวนและลู่ป้านจวงทะยานกลับคืน ณ จุดเดิมทิ้งร่างไร้วิญญาณนับสิบไว้กลางลานเบื้องหลัง ภาพนั้นพาให้คนฝ่ายตรงข้ามจำนวนหนึ่งซึ่งตั้งท่าทะยานตามกันออกมาชะงักงันอยู่กับที่! “เพียงเสี้ยววินาทีพวกเขาสังหารคนล้มตายเป็นเบือ เชียวหรือ?”

จู่ๆ คนที่ท่าทางโกรธเกรี้ยวในตอนแรก พลันเปลี่ยนท่าทีไม่ออกมาปะทะอีกเลย! “พวกเขาเพิ่งสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์ภายในเสี้ยววินาทีจริงๆ!”

ขณะนั้น เยี่ยฉวนเดินถือกระบี่ตรงไปหยุดอยู่เบื้องหน้ากลุ่มคนในราชสำนักแคว้นถัง ซึ่งยืนออรวมกันด้านหนึ่ง “มีใครอยากเป็นฮ่องเต้องค์ต่อไปบ้าง?” พลันชายชราสวมผ้าคลุมสีดำเดินออกมายืนประจันหน้ากับเยี่ยฉวน คนผู้นี้สะพายดาบคู่ไว้ข้างหลัง เป็นยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์!

แคว้นถังมีสองคนที่เป็นยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์ คนหนึ่งคือราชครูแห่งแคว้นถังและอีกคนคือชายสวมผ้าคลุมดำ! เยี่ยฉวนสีหน้าเรียบเฉย “ว่าไง? เอาเข้าจริงเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้สินะ ใช่ไหม?” ความเป็นจริงแล้วเยี่ยฉวนสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีแห่งจิตวิญญาณสังหารที่เปล่งประกายออกมาทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่คนผู้นี้ปรากฏกาย

สายตาของผู้ชรามองแน่วนิ่ง ดาบคู่ที่เหน็บอยู่ข้างหลังเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นทุกขณะ พลันก็มีเสียงมาจากลู่คว่างซึ่งยืนดูเงียบๆ จากทางด้านข้าง “คิดจะทำอะไร? กล้าข่มเหงพวกเราหรือยังไง?” จากนั้น เขาก้าวขึ้นไปยืนเคียงกับเยี่ยฉวน พลางชี้กระบี่ในมือใส่หน้าชายชราสวมชุดดำ “คนดินแดนศักดิ์สิทธิ์เกลียดการข่มเหงคนที่ขั้นพลังด้อยกว่า ถ้าเจ้ากล้าออกมา ข้าก็จะเรียกยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาจัดการกับเจ้า”

หลิงฮั่นรวมทั้งคนอื่นที่มาจากที่เดียวกับเขาพยักหน้ายืนยัน! ยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์! มีใครบ้างที่ไม่มียอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์อยู่เบื้องหลัง? ข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับกันมาช้านานสำหรับคนที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่ ว่าควรฝึกให้คนรุ่นหนุ่มสาวรู้จักที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง! และการเรียกร้องคนผู้มีอาวุโสกว่าให้ช่วยกำราบคนที่อ่อนด้อยกว่าถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง! ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าข่มเหงกัน!

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีกลุ่มอำนาจมากมายหลากหลายกลุ่ม ถ้าผู้ที่มีอาวุโสกว่าเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดหมางของผู้ที่ด้อยอาวุโส จะเป็นจุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนวุ่นวายไม่มีสิ้นสุด เพราะฉะนั้นบรรดาผู้ใหญ่หรือหัวหน้าของกลุ่มอำนาจจึงออกกฎให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดห้ามมิให้ทำการข่มเหงรังแกกัน

อย่างไรก็ตาม ที่นี่แผ่นดินชิงนั้นแตกต่าง ด้วยเป็นภูมิภาคเล็กๆ ซึ่งไม่ได้มีความสลักสำคัญ เพียงแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปนับตั้งแต่มีพวกลู่ป้านจวงซึ่งเป็นคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้ามารวมอยู่ด้วย! คนเหล่านี้ต่างมีที่มาที่ไป! ถ้าคนแผ่นดินชิงมาข่มเหงรังแก ก็จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟความโกรธให้แก่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ไม่ต้องพูดถึงแคว้นถัง แม้แต่สถานศึกษาฉางมู่และดินแดนอันธกาลล้วนไม่กล้ากระทำข่มเหงแก่คนดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

ยามนี้ใบหน้าของผู้เฒ่าสวมชุดดำหม่นมัวหมองคล้ำยิ่งนัก! เวลานี้เขายอมรับว่าความขัดแย้งมิได้เกิดขึ้นเฉพาะเยี่ยฉวนและแคว้นถังเท่านั้น ทว่า ได้บานปลายเกี่ยวข้องกับแคว้นถังและกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านี้ด้วย! หากจะว่าไปแล้วครั้งนี้เป็นปัญหาของสถานศึกษาฉางมู่และดินแดนอันธกาล แต่แคว้นถังก็ยังยืนกรานที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง!

หลังจากนิ่งเงียบไปเป็นครู่ ในที่สุดมีเสียงถอนใจเฮือกดังมาจากชายชราสวมชุดดำ “แคว้นเรารนหาที่เอง!” จากนั้นเขาพลันหันหลังกับและหายวับไปจากที่ เมื่อเห็นคนสวมชุดดำจู่ก็ออกไปโดยไม่บอกกล่าว คงทิ้งให้ราชครูเพียงผู้เดียวที่เป็นยอดยุทธ์ผนึกยุทธ์หนึ่งเดียวในเขตแดนแคว้นถังเวลานี้ คนของแคว้นถังตอนนี้ไม่หลงเหลือความมั่นใจแม้แต่น้อย!

เยี่ยฉวนหันไปเผชิญหน้ากับพวกราชสำนักแคว้นถัง “ไม่มีคนอยากเป็นฮ่องเต้แล้วหรือไง?” ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งค่อยก้าวออกมาจากท่ามกลางกลุ่มคน ขณะเดียวกันสายตาพุ่งแน่วใบหน้าเยี่ยฉวนโดยไม่ผันแปรแม้สักนิดน้อย “ข้าคือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นถัง!” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึก “เจ้าจะไปแคว้นเจียงใช่ไหม?”

หนุ่มรัชทายาทตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “แน่ละข้าไปแน่! แต่เยี่ยฉวนจงจำใส่กระโหลกของเจ้าไว้ให้ดี สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้าชดใช้เป็นร้อยเท่าต่อสิ่งที่เจ้าทำกับแคว้นถังในวันนี้……”

พลันนั้นเอง เยี่ยฉวนหายวาบจากที่อีกครา ขณะที่เสียงขององค์รัชทายาทขาดห้วงไปทันควัน ฉับพลันศีรษะของหนุ่มรัชทายาทกระเด็นหวือไปในอากาศ! โลหิตแดงฉานทะลักพุ่งเป็นสายดุจน้ำพุ! ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้พวกราชสำนักคนอื่นตื่นตระหนกอย่างยิ่ง บางคนใบหน้าขาวซีดปราศจากสีโลหิตด้วยความหวาดกลัว

เยี่ยฉวนเขย่ามือข้างขวาที่ถือกระบี่ครั้งหนึ่ง พลันคราบโลหิตที่เกาะบนคมกระบี่ถูกสลัดจนหายเกลี้ยงหมดจด จากนั้นเขาเก็บกระบี่ลงฝักพลางพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้เจ้าไม่ต้องมีคำว่าวันหลังอีกต่อไป” พูดจบก็หันไปทางใบหน้าหวาดหวั่นขวัญผวาของคนในราชสำนักแคว้นถังที่เหลือ “คนไหนปากดีอีก!”

คนไหนปากดี! เยี่ยฉวนเคยคิดไว้ว่าจะสังหารล้างบางพวกราชสำนักแคว้นถัง แต่เมื่อมาลองคิดอีกทีเขาจึงเปลี่ยนท่าที ด้วยเพราะฆ่าล้างบางพวกราชสำนักแห่งแคว้นถังไม่ส่งผลดีต่อแคว้นเจียง!

ด้วยเหตุว่าต่อให้พวกราชสำนักแห่งแคว้นถังจะถูกกำจัดจนหมด แต่แคว้นถังและกลุ่มอำนาจยังดำรงอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อปราศจากราชสำนักแห่งแคว้นถัง จะมีคนคิดนำกำลังทหารแห่งแคว้นถังแสดงตนลุกฮือขึ้นมา ฉะนั้นน่าจะเป็นการดีสำหรับแคว้นเจียงมิใช่หรือ หากเยี่ยฉวนจะสร้างกษัตริย์หุ่นเชิดไว้ที่แคว้นถังสักคน?!

ประเด็นสำคัญที่สุดวันใดที่แคว้นถังล่มสลาย บรรดาผู้นำกำลังทหารทั้งหลายจะยืนหยัดด้วยตัวเอง และเมื่อถึงเวลานั้นแม้จะไม่มีแคว้นถังอยู่เป็นก้างขวางคอแคว้นเจียงแล้ว แต่อาจมีก๊กเล็กก๊กน้อยรวมกลุ่มกันขึ้นมา ถึงกระนั้นหากมีพวกราชสำนักแคว้นถังอยู่บ้าง พวกผู้นำกำลังทั้งหลายก็คงเกรงใจและไม่กล้าขีดกั้นอาณาบริเวณของตนเอง ทั้งแคว้นเจียงก็ไม่ต้องได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายล้างราชสำนักแห่งแคว้นถังในภายหลังด้วย!

ในความเป็นจริงแล้วการจะทำเช่นนี้ได้นับว่ายากลำบาก แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน ถ้าเยี่ยฉวนและทุกคนช่วยกันสังหารหมู่คนในราชสำนักแคว้นถัง และต่อสู้ฝ่าวงล้อมหนีไปนั้นย่อมทำได้ แต่หลังจากที่สังหารคนที่นี่ทุกคนจนหมด พวกเขาจะต้องต่อสู้กับกองทหารแคว้นถังที่อยู่ในเมืองหลวงอีกมากมาย……ดังนั้นในเมื่อความจริงพวกเขาไม่อาจสังหารศัตรูได้ทุกคน! ทั้งยังเป็นไปได้ด้วยว่าพวกเขาอาจพลาดพลั้งแก่ศัตรูเข้าสักวันหนึ่ง! จึงตัดสินใจไม่ทำเช่นนั้น!!

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version