บทที่ 388 อาจารย์ มาแล้วหรือขอรับ? (ต้น)
……
“เยี่ยฉวนบอกว่า เขายังฆ่าคนไม่สะใจเลย!” ……
……
“แถมยังบอกว่าอยากฆ่าคนอีก!” ……
..
ถึงตอนนี้ทุกคนต่างพากันหุบปากเงียบกริบ ได้แต่มองเยี่ยฉวนเป็นตาเดียว
“เยี่ยฉวนท้าดวลกับศิษย์ฉางมู่เพียงลำพังอย่างนั้นหรือ?”
ณ ริมทางขึ้นเขา สตรีกำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ท่าที่ห้อยขาแกว่งเบาๆ เผยข้อเท้าขาวเนียนละเอียดดุจเนื้อหยกชั้นดีบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังสบายอารมณ์
สายตาทอดมองลงมายังเยี่ยฉวน พลางบิดยกมุมปากเล็กน้อย “เขาบอกว่าฆ่าคนยังไม่สะใจและยังอยากฆ่าอีก! อย่างนี้สิจึงจะสมกับเป็นชายชาตรีที่แท้จริง!”
เบื้องหลังคือสตรีสวมเสื้อเกราะ นางกำลังจับตามองเยี่ยฉวนเช่นกัน ทว่ามิได้เอ่ยปาก
คนที่กำลังนั่งแกว่งขาบนกิ่งไม้ทำท่าเหมือนจะนึกอะไรออก นางหันขวับมาทางด้านหลังพูดกับคนสวมเสื้อเกราะพลางยิ้มน้อยๆ “นี่อาจั้ว เจ้าบอกข้าสิว่าในฐานะคนฝึกกระบี่ ข้ากับเขาใครยอดเยี่ยมกว่ากัน?”
อีกฝ่ายค้อมศีรษะลงต่ำ ทว่ามิได้เอ่ยปากตอบ
สตรีบนกิ่งไม้หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปทางเยี่ยฉวนตามเดิม มือบอบบางเนียนละเอียดคว้ากลุ่มผมขึ้นมาลูบคลำและม้วนเล่นอย่างเผลอไผล “ตอนนี้ใครๆ ก็บอกว่าเยี่ยฉวนเป็นจ้าวกระที่มีอายุน้อยที่สุดในแผ่นดินชิง แต่ความจริงแล้ว อาจั้วเป็นเจ้าต่างหาก จ้าวกระบี่อายุน้อยที่สุดในแผ่นดินชิงที่แท้จริง! แม้ว่าจะเป็นจ้าวกระบี่แต่ยังยอมมาติดตามอารักขาให้ข้า ทำงานไม่สมกับความเป็นยอดฝีมือเอาเสียเลย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของผู้ฟังแปรเปลี่ยนเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบทรุดเข่าลงข้างหนึ่งพลางพูดว่า “ฝ่าบาท ข้าขอติดตามฝ่าบาทตลอดไปเพคะ!”
สตรีตรงหน้าหันมายิ้มให้ “ลุกขึ้นเถิด มาดูสิว่าอะไรสนุกๆ วันนี้จะจบอย่างไรเป็นเพื่อนข้าก่อนก็แล้วกัน”
จากนั้นคนพูดก็หันกลับไปจับตามองเยี่ยฉวน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเบาบางสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
เหตุการณ์เบื้องล่าง–
ในขณะนั้นเยี่ยฉวนในมือกระชับกระบี่ยืนจังก้าเผชิญหน้ากับคนพันคนซึ่งล้วนเป็นศิษย์ฉางมู่!
พลันผู้อาวุโสแห่งฉางมู่คนหนึ่งก้าวออกจากกลุ่ม ตรงมาทางเยี่ยฉวนย่างช้าๆ “เยี่ยฉวน เหตุใดเจ้าจึงไม่คิดที่จะละเว้นชีวิตให้ใครสักคน?”
“ทำไมข้าจึงไม่ยอมละเว้นชีวิตให้พวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
เขาเหยียดมุมปากแสยะยิ้ม “ข้าต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายถามคำถามนั้น สถานศึกษาฉางมู่ส่งคนมาเอาชีวิตข้ากี่ครั้งกี่หน? พวกเจ้าเคยนึกบ้างไหม?”
อาวุโสคนดังกล่าวกำลังจะอ้าปากตอบโต้ ทว่าชายหนุ่มพูดสวนขัดจังหวะทันที “ไม่ต้องพูดไร้สาระ วันนี้ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าก็เป็นข้าที่จะต้องตาย ข้าจะไม่ยอมเลิกราจนกว่าจะตาย รู้ไว้เสียด้วย!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เยี่ยฉวนออกทะยานพร้อมกระบี่พุ่งไปข้างหน้าเข้าหาศิษย์ฉางมู่ทั้งกลุ่ม
ทันใดที่บรรดาศิษย์ฉางมู่เห็นคนที่กำลังเข้าจู่โจม ต่างชักสีหน้าทันทีทว่าหามีใครพยายามถอยหนีไม่ พวกเขากลับทะยานตรงเข้าหาเยี่ยฉวนโดยเร็ว
เยี่ยฉวนท้าดวลกับศิษย์ฉางมู่พันคน!
ส่วนผู้คนทางด้านล่างเมื่อเห็นเยี่ยฉวนกำลังจะต่อสู้กับคนนับพันเข้าจริงๆ จึงพากันตกตะลึงนิ่งงันไปตามกัน
ศิษย์ของสถานศึกษาฉางมู่มีราวพันคน!
ศิษย์ฉางมู่จะทำตัวน่ารังเกลียดขนาดนี้เชียวหรือ?!
หากชัดเจนว่ามิได้เป็นเช่นที่เห็น!
ด้วยคนเหล่านั้นล้วนเป็นยอดฝีมือระดับพระกาฬแห่งอาณาจักรต้าอวิ๋น!
แน่ละ ไม่ว่าเยี่ยฉวนจะสามารถเอาชนะคนพวกนั้นได้หรือไม่ก็ตาม ผู้คนก็จะยังคงคลั่งไคล้ชื่นชมในตัวของชายหนุ่มอยู่นั่นเอง!
ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าเยี่ยฉวนกล้าที่จะต่อสู้!
ชายหนุ่มคนเดียวกับกระบี่หลิงซิ่วกวัดแกว่งครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก ทุกคราที่เขาสะบัดกระบี่ จะมีศิษย์ของฉางมู่ร่วงกราวราวใบไม้ร่วงทุกคราไป!
ถึงแม้ว่าศิษย์ฉางมู่จะมีฝีมือระดับพระกาฬ แต่ไม่มีสักคนที่สามารถต้านทานพลังหนึ่งปะทะของเยี่ยฉวนได้เลย……
ถึงกระนั้นชายหนุ่มมิได้รู้สึกว่าตนเองเป็นต่อเลยแม้แต่น้อย ด้วยทันทีที่ศิษย์ฉางมู่คนหนึ่งตาย คนอื่นจะทะยอยตรงเข้ามาตลอดเวลาคนแล้วคนเล่า! ขณะนั้นตามเนื้อตัวร่างกายของเขาเริ่มปรากฏร่องรอยบาดแผลขึ้นทั่วไป เคราะห์ยังดีที่เยี่ยฉวนสามารถใช้พลังปณิธานคุณธรรมแห่งกระบี่มาเป็นเกราะกำบังกายา มิเช่นนั้นสถานการณ์ของตนคงย่ำแย่กว่านี้มาก!
สำหรับมนุษย์ทองคำ 12 ตนนั้น เขาไม่อยากเปิดใช้งานในขณะนี้
บัดนี้เยี่ยฉวนเหลือสุดยอดศิลาจิตวิญญาณอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งล้านชิ้น หรือพูดอีกนัยหนึ่งถ้าจะเปิดใช้งาน อย่างมากคงได้แค่เพียงครั้งเดียว ชายหนุ่มจึงตั้งใจจะเก็บครั้งเดียวที่เหลือนี้ไว้ใช้ในยามคับขันจริงๆ
เยี่ยฉวนจึงได้แต่ฆ่าไปเรื่อยๆ!
ท่ามกลางฝูงคนเนืองแน่น ชายหนุ่มฟาดฟันคนแล้วคนเล่าอย่างบ้าคลั่ง นับตั้งแต่แรกเริ่มเยี่ยฉวนสังหารคนไปแล้วราว 50 ถึง 60 ศพ!
สังหารโดยทักษะพลังปะทะหนึ่งครั้ง!
ดีว่าเหล่ายอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์แห่งสถานศึกษาฉางมู่ไม่มีใครริเริ่มปฏิบัติการจู่โจม และด้วยพวกเขาทำอะไรไม่ได้……จึงได้แต่มองดูเยี่ยฉวนเข่นฆ่าศิษย์ฉางมู่ล้มตายอย่างต่อเนื่อง!
เซียนกระบี่!
ใครต่างก็รู้ดีว่าเยี่ยฉวนมีคนหนุนหลัง คนคนนั้นเป็นเซียนกระบี่ซึ่งมักอยู่เคียงข้างชายหนุ่มคนนั้นเสมอมา ทั้งกระบี่และศีรษะคนยังปักตรึงอยู่บนหลังคาศาลเจ้าฮ่าวหรันที่สถานศึกษาฉางมู่อยู่เลย!
ทุกคนรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง!
พวกเขาทำอะไรไม่ถูก!
ความรู้สึกชนิดนี้อัดแน่นอยู่ในหัวอกของยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์แห่งฉางมู่ ถ้ายอดยุทธ์ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันจู่โจม เยี่ยฉวนไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน ทว่าพวกเขาไม่กล้า จึงได้แต่ยืมดูเยี่ยฉวนไล่เข่นฆ่าศิษย์รุ่นใหม่แห่งฉางมู่ตายลงทีละคนๆ
ณ เวลานี้สถานศึกษาฉางมู่จะเหลือไว้แต่ชื่อ!
เปรี้ยง!
ทันทีที่สิ้นเสียงสนั่นดัง ร่างของเยี่ยฉวนลอยละลิ่วไปอย่างรวดเร็ว เขากระเด็นถอยหลังไปไกลราวสี่จั้งก่อนจะกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เพียงแค่เพิ่งยันกายลุกยืนได้เท่านั้น ศิษย์ฉางมู่นับสิบคนก็ทะยานเข้ามาถึงตัวแล้ว ซึ่งในยามนี้สีหน้าและท่าทางของแต่ละคนกำลังบ้าเลือดอย่างเต็มที่!
เยี่ยฉวนกระพือเปลือกตาสองข้างเปิดขึ้นทันควัน
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
แสงสว่างสองลำพุ่งวาบ ลำแสงกระบี่พุ่งทะยานออกมาจากนัยน์ตา และพุ่งตัดร่างของศิษย์ฉางมู่ราวสิบคนที่ทะยานเข้ามาใกล้ตัวเยี่ยฉวน! ทว่าหลังจากนั้น กลุ่มคนนับสิบอีกกลุ่มพุ่งเข้ามาแทนที่!
เยี่ยฉวนหยุดใช้หลังมือเช็ดคราบโลหิตที่มุมปากและพุ่งกระบี่ในมือทะยานเข้าหาศิษย์ฉางมู่กลุ่มใหม่!
ฆ่ามัน!
ยามนี้สิ่งที่อยู่ในความคิดคำนึงของเยี่ยฉวนเพียงอย่างเดียวคือการฆ่า!
ฉับพลันปรากฏคนชุดดำขึ้นทางเบื้องหลังชายหนุ่ม เยี่ยฉวนหันขวับมาทางผู้เข้ามาเงียบๆ พร้อมกับตวัดกระบี่ฟาดจากบนลงล่างออกไปครั้งหนึ่ง
ผัวะ!
ร่างคนชุดดำถูกคมกระบี่เฉือนตัดแบ่งครึ่ง พลันโลหิตแดงฉานทะลักกระฉูด
อย่างไรก็ตาม คนชุดดำอีกคนโผล่ขึ้นมาแทนที่ด้านหลังเยี่ยฉวนอีกครา
ฉับ!
ชายสวมชุดดำกระแทกดาบตรงเข้าที่บริเวณท้ายทอยของเยี่ยฉวน ทว่าพลังปณิธาณกระบี่สามารถสกัดกั้นพลังปะทะไว้ได้ ถึงกระนั้นลำแสงเรืองรองสีขาวนวลค่อยๆ ปรากฏขึ้นรายรอบ อีกทั้งทุกลำแสงต่างมุ่งเข้าสู่เป้าหมายจุดสำคัญบนร่างกายของเยี่ยฉวนทั้งสิ้น!
ขณะกำลังเข้าสู่สถานการณ์คับขันนั้นเอง หีบกระบี่ที่สะพายหลังบังเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ชั่วพริบตาต่อมาแสงกระบี่เจ็ดลำแสงพุ่งวาบออกจากหีบ
ตู้ม……!
ชายสวมชุดดำหกคนสะดุ้งเฮือกพร้อมผงะถอยไกลออกไปหลายจั้ง
ทว่าคนทั้งหกพลันหายวับไปจากที่ในทันที
ชายหนุ่มนิ่วหน้า หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนแน่น ขณะที่กำลังจะเข้าจู่โจมคนเหล่านั้น พลันร่างบอบบางอ้อนแอ้นปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า!!
