Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 531

ตอนที่ 531 โรงต่อเรือ โรงช่าง ปฏิรูปใหม่

เมิ่งซื่อเต๋อก็คือหนึ่งในห้านายช่างที่มาถึงเทียนจินก่อนผู้ใด ปีนี้อายุ 42 เป็นคนหนักแน่น เห็นโลกมากว้าง

เขาเป็นคนเมืองจินโจวที่เหลียวโจว ตอนเด็กติดตามครอบครัวไปอยู่ซานตง ต่อมาไปอยู่เมืองซงเจียงพักหนึ่ง ต่อมากลับมาซานตงทำงานเป็นช่างต่อเรือ

คนไปมาเหนือใต้ เห็นอะไรมามาก ก็ย่อมต่างจากช่างทั่วไป พออู๋ต้าเชิญมาเทียนจิน คนอื่นหวาดกลัว เขากลับคิดว่าโอกาสของตนอาจมาถึงแล้ว

หวังทงถามเรื่องเรือต่างๆ กับเขา คนอื่นนิ่งเป็นท่อนไม้ บางคนไม่อยากตอบ เมิ่งซื่อเต๋อกลับตอบอย่างละเอียด

เขาเองก็เป็นคนในวงการต่อเรืออยู่แล้ว ยังมีความพยายามลงแรง ก็ย่อมสร้างความประทับใจให้หวังทง พอรู้เจตนาของหวังทงแล้ว เมิ่งซื่อเต๋อก็ยังช่วยฝากคนไปหาคนมาเพิ่ม ยังไหว้วานหวังทงให้ส่งคนไปพาครอบครัวเขามา เตรียมมาตั้งรกรากที่เทียนจิน

ไม่กล่าวถึงเมิ่งซื่อเต๋อว่ามีฝีมือความสามารถ หวังทงเองก็คิดจะใช้เงินล่อใจอยู่แล้ว เห็นเมิ่งซื่อเต๋อรู้งานดีเช่นนี้ ก็ให้เมิ่งซื่อเต๋อไปตามคนสนิทและลูกศิษย์มาได้เกือบ 20 คน ความชอบไม่น้อย กลายเป็นหัวหน้าโรงช่างไปโดยปริยายแล้ว วันหน้าช่างและคนช่วยงานอีกนับร้อยคนก็ให้เขาเป็นผู้ดูแล

การกระทำในวันนี้ การมอบรางวัลจับต้องได้จริงเช่นนี้ ให้พวกมาใหม่ได้ดูกันด้วยตาเช่นนี้ ให้พวกเขารู้ว่าโรงต่อเรือเทียนจินจะให้ประโยชน์อันใดได้บ้าง

รับก้อนทองคำจากมือหวังทง เมิ่งซื่อเต่อคารวะหวังทงะก่อนจะถอยกลับไป คนข้าง ๆ ก็ประคองกล่องเงินเข้ามา พวกช่างหลายคนที่มาเทียนจินรุ่นแรกล้วนได้เงินรางวัลกัน

เห็นเมิ่งซื่อเต๋อหยิบก้อนทองแผ่นราวขนมเปี๊ยะลงมา พวกที่อิจฉาก็ขอมาดูกัน ชั่งน้ำหนักในมือดู น้ำหนักไม่เบา ใช้เล็กจิกดู ด้านบนมีรอยจิกอยู่ เป็นทองแท้ เป็นทองคำแท้ๆ !

ก้อนทองสองแผ่นก็น่าจะราว 300 ตำลึง ไม่ต้องพูดถึงราคา แค่แสงทองกระทบเข้าตา ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีอย่างมากแล้ว

“เห็นทองที่แขวนอยู่นี่หรือไม่?”

หวังทงกล่าวเสียงดัง แสงอาทิตย์สาดส่องไปบน ‘ต้น’ ไม้ แสงทองระยิบ มองจนตาพร่าไปหมด แต่ละคนสายตาราวตกอยู่ในภวังค์ ได้ยินคำถาม ก็ได้แต่พยักหน้าอย่างไม่ได้สติ

“ต่อเรือออกมาได้ ต่อเรือใหญ่ได้ ทองพวกนี้ก็เป็นของพวกเจ้าแล้ว ทองพวกนี้วางอยู่ที่นี่ ต่อเรือเสร็จก็เป็นของพวกเจ้าทั้งหมด!”

เงียบกริบไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็มีเสียงฮือฮาดัง บรรดาช่างต่อเรือก็พากันตะโกนเสียงดังว่า

“นายท่านวางใจได้ ต่อเรือไม่เสร็จ นายท่านเอาหัวข้าไปได้เลย!!”

“ข้าต่อเรือมาหลายสิบปี ย่อมสามาถรต่อเรือที่ดีกว่าพวกผีต่างชาติได้ดียิ่งกว่าแน่นอน!”

“ขอให้นายท่านวางใจ ข้าขอขอบคุณรางวัลของนายท่านไว้ล่วงหน้าเลย!!”

ต่างคนต่างพูดคนละคำสองคำ ทุกคนล่วนตื่นเต้นจนไม่อาจควบคุมตนเองได้ หวังทงยิ้มพยักหน้าโบกมือ ได้ผลดังที่เขาต้องการ บรรดาช่างต่อเรือมาจากซานตง มีบางคนมาเสี่ยงโชค ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงพวกที่อู๋ต้าบีบบังคับขู่เข็ญมา กอรปกับไม่คุ้นชินกับคนและพื้นที่เทียนจิน จะให้ทำงานอย่างเต็มอกเต็มใจอย่างเต็มที่ได้อย่างไรกัน

ไม่ต้องกล่างถึงวิธีซื้อใจอันใดให้มากกว่า วางรางวัลหนักไว้ตรงหน้า วางทองคำไว้เบื้องหน้าพวกเขาให้เห็นกันชัดๆ อย่างไรทำงานก็เพื่อแลกเงินทอง ดูว่าพวกเขาจะหวั่นไหวหรือไม่

มองคนเบื้องหน้าแล้ว ก็ได้ผลไม่เลว หวังทงยกมือขึ้นโบกลงกล่าวเสียงดังว่า

“ครอบครัวพวกเจ้าสามารถมาอยู่เทียนจินได้ ที่นี่ได้เตรียมเรือนพักเดี่ยวให้พวกเจ้าทุกคนไว้พร้อมแล้ว ไม่ต้องจ่ายเงิน ทำงานที่โรงต่อเรือเราครบปี เรือนนี้ก็เป็นของพวกเจ้า วันหน้าโรงต่อเรือก็ให้เมิ่งซื่อเต๋อเป็นหัวหน้า ทุกคนขยันต่อเรือ วันหน้ารางวัลจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก!”

พอกล่าวจบ เบื้องหน้าทุกคนประสานมือคำนับแทบจะพร้อมกันกล่าวว่า

“ขอทำงานตามคำสั่งใต้เท้า!”

*************

โรงต่อเรือเริ่มดำเนินการ เหริยย่วนจากสำนักช่างหลวงและเฉียวต้าจากโรงช่างหวังทง และบรรดาช่างต่างชาติ ยังมีพวกซุนต้าไห่ก็ล้วนเข้าร่วมงานนี้ด้วย

การต่อเรือใช้จ่ายไม่น้อย ต้องการแรงงานหลากหลายประเภท และการขับเคลื่อนเรือก็ต้องการคนเฉพาะทาง เกี่ยวพันด้านต่างๆ มากมาย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

พอเข้าสู่เดือนสาม หวังทงก็ยุ่งจนไม่ได้หยุดพัก พอกลับจากโรงต่อเรือที่แม่น้ำทะเล ก็ถูกเหรินย่วนพาไปโรงช่างที่บริเวณสบแม่น้ำ โรงช่างอยู่ทางตะวันตกของเทียนจิน โรงต่อเรืออยู่ทางเหนือ สองแห่งนี้ห่างกันไกล มาเช่นนี้ก็ย่อมต้องพักที่โรงช่างทางนี้แล้ว ไม่อาจกลับจวนได้แล้ว

หวังทงขี่ม้ามาถึงบริเวณสบแม่น้ำพร้อมการอารักขาจากทหารติดตาม นอกจากถนนหนทางที่สร้างโดยชาวนาวาสุคนธ์แล้ว ที่อื่นยังคงรกร้าง ที่ไม่เหมือนก็คือ ตอนที่เคยเดินบนถนนได้กลิ่นรุนแรงนั้น กลิ่นจางลงไปมาก

“ใต้เท้าวันนั้นสั่งการให้ทำท่อระบำยน้ำ จ้างคนมากวาดขยะทิ้ง ขุดบ่อน้ำ เหล่านี้ทำเสร็จแล้ว ชาวบ้านที่นี้ล้วนสรรเสริญใต้เท้า ยังมีคนตั้งป้ายบูชาให้ท่านด้วย”

ซุนต้าไห่เล่าขึ้น หวังทงพยักหน้ายิ้มๆ ไม่ได้กล่าวอันใด ตลอดทางมักมีเด็กวิ่งไปวิ่งมา วันนี้ม้าวิ่งมาระยะทางไม่น้อยย่อมเหนื่อยล้า จึงผ่อนม้าให้ช้าลง ค่อยๆ วิ่งไป

พอใกล้ถึงสบแม่น้ำอันเป็นที่ตั้งโรงช่างส่วนตัว ทิวทัศน์รอบๆ ก็เปลี่ยนไป ที่นี่เหมือนกับริมแม่น้ำทะเล เป็นเรือนพักเรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อย บนถนนสามารถเห็นคนออกมาราดและกวาดถนนบ่อยๆ จนพอสะอาดสอ้านเป็นดังบ้านเรือนน่าอยู่บ้างแล้ว

ยามนี้พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ทุกบ้านล้วนมีควันไฟลอยสูง ยังเห็นคนแบกหาบไม่น้อยบนถนน สะพายตระกร้าไปทางโรงช่าง

คนที่แบกหาบและสะพายตระกร้าพวกนี้สวมชุดเก่าๆ แค่เห็นก็รู้ว่าว่าไม่ใช่ช่างในโรงช่างและครอบครัวพวกเขา ถังไม้หรือตระกร้าสานทำจากไม้ไผ่ที่แบกหาบอยู่ล้วนมีฝาปิดทับไว้ไม่ก็ใช้ผ้าปิดไว้

นายกองเหรินแห่งโรงช่างหลวงและพวกเฉียวต้าออกมาต้อนรับระหว่างทาง เดินไปพร้อมกับหวังทง เห็นหวังทงมองอย่างสงสัย เฉียวต้าก็ยิ้มอธิบายว่า

“นายท่านไม่รู้ โรงช่างเรามีนายช่างและลูกศิษย์เรียนรู้งานไม่น้อย มีบ้านก็กลับบ้านไปกินข้าว หากตัวคนเดียว อาหารพวกเขาก็อาศัยคนเหล่านี้ เงินไม่กี่แดงก็สามารถกินอาหารร้อนๆ อิ่มท้องได้ พวกขายอาหารพวกนี้ก็หาเลี้ยงชีพได้ ได้ประโยชน์สองฝ่าย”

หวังทงพยักหน้า คนงานที่โรงช่างที่สบแม่น้ำล้วนมีค่าตอบแทน และไม่เคยค้าง พวกเขาหากเทียบกับชาวบ้านยากลำยากที่ต้องเดินทางราวหนึ่งชั่วยามไปทำงานแล้ว รายได้ต่างกันราวฟ้ากับดิน นายช่างและแรงงานในโรงช่างหวังทงไม่ต้องคิดทำอาหาร เพราะซื้อกินประหยัดกว่า ชาวบ้านยากลำบากที่สบแม่น้ำก็ต้องการขายอาหารเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายยังชีพ ก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจกับการเกิดขึ้นของการค้านี้

พอพ้นที่พักช่างก็ถึงโรงช่าง ในช่วงรักษาความปลอดภัยและเก็บเป็นความลับ รอบๆ ที่พักกับโรงช่างให้มีระยะห่าง 500 ก้าว ช่องว่างตรงนี้ล้วนเป็นที่เก็บของของอีกฝ่าย

พอเห็นหวังทงในชุดทางการขี่ม้ามาถึง คนตามถนนก็แหงนหน้ามองก่อนจะพากันหลีกทาง คนข้างทางก็ก้มหน้ารอให้พวกหวังทงวิ่งผ่านไป

“เลิกงานเร็วอย่างนี้หรือ?”

หวังทงเห็นคนก้มหน้าสองข้างทางล้วนเป็นพวกชายหนุ่มร่างกายกำยำ ยังคิดว่าเป็นคนจากโรงช่างเสร็จงานกลับบ้าน ในยุคนี้ย่อมไม่มีระบบทำงาน 8 ชั่วโมง หวังทงเองก็ไม่ได้ตั้งกฎนี้ ดังนั้นจึงถามเช่นนี้

“ฟ้ายังไม่ทันมืด อาศัยแสงตะเกียงยังพอทำงานต่อได้ไม่น้อย ย่อมยังไม่เลิกงาน นายท่านดูก่อน พวกนี้ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ที่มาหางานโรงช่างเราทำ”

เฉียวต้ายิ้มตอบ โรงช่างบางทีก็มีพวกมาหางานทำ ตอนคนไม่พอใช้งาน สบแม่น้ำก็มีแรงงานมาก พวกนี้มากหางานทำชั่วคราวในพื้นที่ระยะเวลาสั้นๆ

พวกที่ไปทำงานที่คลองส่งน้ำหรือแม่น้ำทะเล ยังต้องคุยราคาเอง พบคนขี้เหนียวยังถูกหักเก็บอีก และยังอาจต้องหากินเอง แต่งานที่นี่ราคาชัดเจน ไม่ค้างค่าแรง หากโชคดี ตอนกลางวันยังมีอาหารเนื้อๆ ให้กิน ผู้ใดไม่อยากทำกัน

ตอนนี้เทียนจินมีแรงงานเพียงพอแล้ว พวกที่มาใหม่หางานทำไม่ได้ ทำให้ทุกวันโรงช่างจึงมีคนไม่น้อยลองมาแสวงหาโอกาสดู ดูว่ามีงานให้ทำได้บ้างหรือไม่

โรงช่างทำงานเรื่องอาวุธปืนไฟและชุดเกราะน้ำหนักมาก ขาดคนงาน ทุกวันก็ล้วนหาแรงงานระยะสั้น ถึงกับมีพวกที่ทำงานได้ไม่เลวได้รับคัดเลือกเป็นคนงานโรงช่างไปเลย เหล่านี้ย่อมทำให้ผู้คนอิจฉา ชายฉกรรจ์ยิ่งมารวมตัวกันยิ่งมาก แต่คนงานก็มีจำกัด ทุกวันจึงมีคนผิดหวังคอตกกลับไป

หวังทงได้ยินเฉียวต้าอธิบายจบ ก็เงียบลง ควบม้าก้าวไปสองสามก้าว ก่อนจะกล่าวว่า

“ริมทะเลซ่อมท่าเรือ เทียนจินมีแม่น้ำหลายสาย พวกนาวาสุคนธ์ทำงานกันไม่ทัน นับประสาอันใดกับการที่ทางนั้นยังต้องคัดคนส่งมาให้กองกำลังหู่เวยเพื่อเสริมกำลัง ให้พานหมิงพ่อบ้านที่ดูแลนาวาสุคนธ์มาเลือกคนงานที่นี่ไปแทน ก็ให้จ่ายเงินค่าจ้างตามราคาตลาด”

ซุนต้าไห่พยักหน้ารับคำจดไว้ หวังทงเงียบไปก่อนจะกล่าวอีกว่า

“พวกนาวาสุคนธ์แบกสถานะนักโทษกันมานานแล้ว ตอนนี้เลือกบางคนไปเป็นทหาร การทำงานก็นับว่าขยันขันแข็ง ก็ปลดสถานะนักโทษให้พวกเขาได้แล้ว ให้เงินเดือนปกติ ให้เหมือนผู้ช่วยงานในสำนักงานเราที่เทียนจินนี่!”

มีการออกระเบียบเช่นนี้ พวกนาวาสุคนธ์ก็ย่อมเปลี่ยนสถานะใหม่ ซุนต้าไห่จดเอาไว้

***********

ด้วยแรงงานสัตว์ ใบมีดใหญ่ของเครื่องเจาะก็เริ่มเคลื่อนไหว คนงานสิบกว่าคนภายใต้การควบคุมของพวกช่างต่างชาติ ก็นำปืนใหญ่วางเข้าไว้ที่ฐานล้อ ขยับใบมีดเข้าไปในช่องปากกระบอกปืนใหญ่

เสียงโลหะกระทบกัน ส่งเสียงบาดหู เหรินย่วนที่บืนอยู่ข้างหวังทงไม่อาจปิดบังใบหน้าที่ตื่นเต้นไว้ได้ ตะโกนเสียงดังอยู่ข้างหูหวังทงว่า

“ใต้เท้า หลังปืนใหญ่ยิงไป กระสุนตะกั่วนั่นกระแทกกระบอกปืน กระบอกปืนอาจเปลี่ยนรูปร่าง ยิ่งยิงมาก ก็ยิ่งทำให้ยิงไม่แม่น ดังนั้นจึงต้องใช้เครื่องนี้จัดการช่องปากกระบอกปืน มิน่าล่ะ มิน่าล่ะ!”

ก็ไม่อาจตำหนิที่เหรินย่วนจะตื่นเต้นเช่นนี้ ราชวงศ์หมิงดูแลปืนใหญ่ ก็แค่นำปืนใหญ่เช็ดภายในให้สะอาด จากนั้นก็ปิดทับด้วยผ้าอาบน้ำมัน ไม่ได้คิดละเอียดเช่นนี้ ดังนั้นจึงได้มีการกล่าวว่า ปืนหนึ่งกระบอกยิงร้อยกว่ารอบก็ไม่สู้โยนกลับไปหลอมใหม่ ไม่เช่นนั้นปืนใหญ่นี้ก็เท่ากับพิการไปเสียแล้ว วิธีดังเช่นตอนนี้สามารถยืดอายุการใช้งานปืนใหญ่ให้ยาวนานขึ้นอีก

หวังทงไม่เข้าใจหลักการนี้ แต่ก็ยินดีอย่างยิ่งไปด้วย นี่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ตนตามพวกต่างชาติมา ให้เงินเดือนสูง ก็ไม่ใช่เพื่อให้ปฏิรูปและปรับปรุงเช่นนี้หรอกหรือ? เทคนิคนี้ล้ำหน้าไปกว่าราชวงศ์หมิงมาก ราชวงศ์หมิงก็ย่อมยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“ช่างที่คิดวิธีนี้ขึ้นมาได้ ตกรางวัล!!”

หวังทงหัวเราะยินดีกล่าวขึ้น

************

เดือนสี่ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 9 มีพ่อค้าจากทุ่งหญ้าส่งข่าวมา ข่านอันต๋าล้มป่วย ถึงชีพิตักษัยแล้ว……

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version