Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 545

ตอนที่ 545 ไม่รอบคอบนำมาซึ่งภัยใหญ่ ความเคลื่อนไหวที่ลับและที่แจ้ง

อยู่ๆ มีสิบกว่าคนกรูกันออกมา ไม่ว่าผู้ใดก็ย่อมตกใจ

มือปราบศาลซุ่นเทียนทำคดีกันมานาน ก็รู้ว่าที่ใดสงบสุข ที่ใดอันตราย ที่รกร้างเช่นนี้ ผู้คนไม่มากัน ผู้ใดก็รู้ว่าที่นี่มีความวุ่นวาย คดีนี้ดีไม่ดีก็เกิดจากที่นี่อย่างไรก็ต้องมาดู คิดไม่ถึงว่าจะพบกับกลุ่มคนพวกนี้ได้

สิบกว่าคน ยังมีถืออาวุธพร้อม มือปราบสองนายเริ่มลนลาน มองให้ดี อวุธพวกนี้ไม่ใช่ดาบแต่เป็นทวนยาว ของทำง่ายแต่เป็นอาวุธใช้ในกองทัพทหร ในใจรู้ว่าเป็นพวกนักโทษคดีอุกฉกรรจ์แน่แล้ว

รู้ว่าเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ เห็นท่าทางดุดร้ายของพวกเขาทั้งสิบกว่าคนแล้ว ในมือยังมีอาวุธอีก ตอนนี้ที่สำคัญไม่ใช่ว่าจับคน หากเป็นเอาตัวรอดก่อน

เห็นชัดๆ ว่าเป็นพวกนิรยามอ่อนแอที่สุดและต่ำต้อยที่สุด ยามนี้เมื่อถืออาวุธ ล้วนเปลี่ยนเป็นผีร้าย มือปราบสองนายชักอาวุธออกมาทันที แต่ก็เป็นแค่อาวุธสั้นกว่า ไหนเลยจะใช้การได้

“มือปราบศาลซุ่นเทียนทำคดี พวกเจ้าจะสังหารเจ้าหน้าที่หรือ!”

“สังหารเจ้าหน้าที่มีโทษตัดเป็นหมื่นชิ้นนะ!”

เห็นว่าสู้ไม่ไหว ก็ได้แต่ตะโกนดังขู่ไว้ก่อน ให้พวกนิรนามได้คำนึงถึงผลที่ตามมาก่อน

เห็นมือปราบสองนายชักอาวุธออกมา พวกนิรนามก็อึ้งไป รอจนได้ยินเสียงตะโกนบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนาม ได้ยินว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลซุ่นเทียน พวกนิรนามบางคนที่ขี้ขลาดก็เริ่มลังเล

มือปราบศาลซุ่นเทียนเห็นสีหน้าอีกฝ่าย ก็ตีเหล็กจังหวะร้อน ตะโกนสำทับไปอีกว่า

“หรือว่าพวกเจ้าสังหารเจ้าหน้าที่ทางการคิดก่อการกบฏ!”

พวกนิรนามอย่างไรก็เป็นพวกนิรนาม เป็นคนพิการไปแล้ว แม้ว่าถืออาวุธแต่ความกล้าก็ยังไม่พอ คนข้างๆ ข่มขู่พวกเขาให้หวาดกลัว นับประสาอันใดกับการที่ได้ยินว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ พอถูกตวาดไป มีคนหันหลังวิ่งหนีทันที คืนที่เหลือก็ฮือแตกกระจายไปคนละทาง

พวกมือปราบไม่กล้าไล่ตาม รู้ว่าตนหลุดพ้นจากความตายมาได้ ไหนเลยจะกล้าอยู่ช้าต่อไป รีบหันหลังวิ่งกลับไปทันที

พอหัวหน้าได้ฟังรายงาน ก็รีบส่งม้าเร็วไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ให้ทุกคนลงมือพร้อมกันสิบคนขึ้นไป อย่าได้ทำการโดยพลการ รอให้หลี่กุ้ยรับข่าวจากเมืองหลวงกลับมาก่อนค่อยว่ากัน

************

ศาลซุ่นเทียนเป็นที่ที่ต้องรองรับอารมณ์หลายฝ่ายในเมืองหลวง คิดจะมีเส้นสายในวัง ก็ยุ่งยากมาเหลือเกิน

ผู้ช่วยเจ้ากรมหลี่ว์วั่นไฉแห่งศาลซุ่นเทียนคิดไม่ถึงว่าหลี่กุ้ยไปแค่วันเดียว ก็สืบหาสาเหตุและเบื้องหลังมาได้ ได้ยินว่าเป็นพวกนิรนาม คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ส่งคนเตรียมรถม้าไปทางถนนทักษิณ

เรื่องนี้หากผ่านไปทางศาลซุ่นเทียนไม่รู้เสียเวลาอีกนานเท่าไร ไม่สู้ใช้กำลังจากสำนักรักษาความสงบ มีโจวอี้เป็นช่องทางติดต่อ อย่างไรก็สะดวกกว่ามาก

รถม้ามาถึงถนนทักษิณ หยุดหน้าหอรุ่งเรือง ด้านหลังเหมาห้องรับรองไว้ หลี่ว์วั่นไฉเดินเข้าไป ก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ส่งเสียงเชิญ

มีคนนำไปยังหอเลิศรส ทักทายกับขันทีเวรยามแล้ว ก็ให้อีกคนไปยังสำนักองครักษ์เสื้อแพรที่หลี่เหวินหย่วนปฏิบัติหน้าที่อยู่ ไปเชิญนายกองร้อยหลี่มาด้วย

แม้ตอนนี้โจวอี้นั่งอยู่ในตำแหน่งหลัก เป็นคนสำคัญของวังหลวง แต่งานในสำนักรักษาความสงบก็ไม่อาจละเลยให้ชักช้า มีแหล่งเงินทองเช่นนี้ มีองค์กรมีคนทำงานให้เช่นนี้ เหมือนกับองค์กรอย่างสำนักบูรพาหรือสำนักองครักษ์เสือ้แพรในเมืองหลวงเลยทีเดียว ดูแลสำนักรักษาความสงบ แม้โจวอี้จะมีตำแหน่งไม่สูงนัก แต่อำนาจเรียกได้ว่าเทียบเท่ากับขันทีใหญ่เลยทีเดียว

ได้ยินเรื่องของหลี่ว์วั่นไฉแล้ว โจวอี้กลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องยากอันใด เพียงแต่ยิ้มกล่าวว่า

“ใต้เท้าหลี่ว์คิดได้รอบคอบ เรื่องนี้ไม่ยาก บ่ายนี้ข้าจะเขียนเทียบ[1]ส่งมาให้ใต้เท้า ให้สำนักส่วนพระองค์ออกหน้า หน่วยงานในวังหลวงไม่กล้ากล่าววาจาเหลวไหล”

ได้ยินวาจาโจวอี้ เรื่องก็ง่ายขึ้นมา ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันสักครู่ ว่ากันว่าใต้เท้าหวังที่เทียนจินจะยกทัพ ทางนี้ต้องช่วยเหลืออันใดบ้าง

************

ห้องทำงานในสำนักอาชาหลวง ทุกคนรู้ว่าหลินซูลู่ชอบความสงบ ไม่มีเรื่องใด ทุกคนก็จะเงียบสงบกันอย่างมาก

หลินซูลู่ปฏิบัติหน้าที่ในห้องทำงานปกติ แต่ทุกครึ่งชั่วยามก็จะหยิบยาเม็ดหลายเม็ดออกมากิน เดินออกไปด้านนอก ยังหันไปยังกระจกทองแดงเติมแป้งให้ตนเองด้วย ให้สีหน้าไม่ดูแย่เกินไปนัก

เขาไม่ใช่ขันทีตำแหน่งสูงส่งที่มีงานต้องทำด้วยตนเองมาก ก็ไม่มีผู้ใดเห็นความผิดปกติ

แต่กำลังวังชาอย่างไรก็ไม่สมบูรร์ อ่านรายงานไปได้สองสามเล่ม ก็จะต้องหรี่ตาพัก ครึ่งปีหลังมานี้ สำนักอาชาหลวงต้องรายงานเรื่องการใช้เงินขึ้นมา

ขันทีหลินตรวจสอบเบี้ยหวัดของหน่วยงานสำนักอาชาหลวงในวัง ตามธรรมเนียมเดิม ปฏิเสธความต้องการงบที่มีเหตุมีผลของกองกำลังหู่เวยทิ้งไป อย่างไรเรื่องนี้ทุกคนก็ชินชาเสียแล้ว

หยิบพู่กันกาชาดลงไปได้สองสามแห่งก็รู้สึกอ่อนแรง หลินซูลู่คว้ากล่องในช่องเสื้อด้านหน้าออกมา บีบเทียนไขด้านนอกที่ห่อหุ้มแตกลงก่อนจะเทออกมากินลงไป หลับตาถอนหายใจยาว กำลังจะหลับตาพักสักครู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากด้านนอก เสียงขันทีหน้าห้องขวางทางเอาไว้ว่า

“เบาหน่อย ทำหลินกงกงตกใจเจ้ารับไหวหรือ?”

“มีเรื่องด่วนรายงานหลินกงกง!”

ได้ยินเสียงนี้ทำเอาหลินซูลู่ตกใจ เป็นขันทีอาลักษณ์ในสำนักส่วนพระองค์ เป็นคนของเขาเอง ปกติสั่งว่าอย่ามาที่นี่ วันนี้กลับวิ่งมาที่นี่

“ให้เสี่ยวหยางเข้ามา!”

ด้านนอกรับคำ ประตูเปิดออก ขันทีหนุ่มน้อยวิ่งเข้ามาอย่างเร็ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง ขันทีผู้นั้นก็เดินออกมา ตรงประตูยังพยักหน้าก้มตัวกล่าวว่า

“ข้าน้อยเห็นตัวเลขในบัญชีหนึ่งไม่ตรง ตรวจอย่างไรก็ไม่พบ โชคดีที่หลินกงกงอยู่ ข้าขอกลับไปรายงานก่อน”

ขันทีหนุ่มออกไปได้สักพัก หลินซูลู่ที่ดูเหนื่อยล้าก็เดินออกมา ตะโกนเรียกเกี้ยวแบกกลับไปพักผ่อน

************

บริเวณค่อนไปทางตรอกสือหม่าในเมืองหลวง เป็นที่พักของพวกชนชั้นสูง ท่ามกลางต้นหลิ่วในตรอกนั้น มีจวนหนึ่งตั้งอยู่ เห็นคนงานแต่งตัวก็รู้ว่าเป็นจวนคหบดีใหญ่

สายตาคนนอกมองมา คนเข้าๆ ออกๆ ล้วนเป็นหญิง ไม่เห็นคนงานชาย แต่ก็มีผู้ชายนั่งรถม้าผ่านเข้าออกเสมอ

เห็นเช่นนี้ ทุกคนก็รู้ดีแก่ใจ ที่นี่ไม่แน่ว่าเป็นบ้านลับๆ เลี้ยงภรรยาน้อยของผู้ใด เรื่องพวกนี้เห็นมามาก และก็เป็นเรื่องที่เห็นกันจนชินชา

พวกนักเลงหัวไม้ในเมืองหลวงมักชอบมองหาช่องทางนี้ จวนนอกเมืองที่ไม่มีคนงานชายคอยเฝ้านั้นเป็นเป้าหมายหลัก มีคนสองกลุ่มเคยมาหาเรื่อง ยังไม่ทันได้ทำอันใดก็ถูกทำร้ายกระดูกหักออกมา คิดจะไปแจ้งความหาเรื่องต้มตุ๋นสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะถูกจับเข้าคุก หลายคนตายอยู่ในคุก

หลังจากเกิดเรื่องพวกนี้ ทุกคนก็รู้ความร้ายกาจ ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง ได้แต่เดากันว่าเป็นจวนมหาเทพองค์ใดกัน

เห็นว่าจะเดือนหกแล้ว ผู้ชายจวนนี้มาอีกแล้ว ตามที่เคยเป็นมาก็น่าจะอยู่สักสองสามวัน คิดไม่ถึงว่าแค่สองวันก็มาอีกกลุ่ม

ไม่กล้าหาเรื่องก็ส่วนไม่กล้าหเรื่อง แต่ใจอยากดูเรื่องสนุกก็มีอยู่ มาอีกกลุ่มเช่นนี้ แปดเก้าส่วนจากสิบส่วนย่อมเป็นพวกมาจากบ้านใหญ่ ละครเมียหลวงจับเมียน้อยนั่นไง ทุกคนชอบดู

คิดไม่ถึงว่าที่มาจะเป็นกลุ่มชาย หัวหน้ากลุ่มเป็นชายวัยกลางคนสีหน้าเคร่งเครียด แม้ไม่ใช่จับบ้านเล็ก ก็ยอมมีเรื่องสนุกให้ดูเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าคนงานสองคนที่เฝ้าประตูพอเห้นชายวัยกลางคนสีหน้าเคร่งเครียดผู้นี้ก็รีบทำความเคารพก่อนจะเปิดทางให้เข้าไป

***********

ห้องนอนในจวน ไฉฝูหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนนอกตัวใหญ่ อวี้เหนียงจื่อนั่งอยู่บนตัก ร่างกายใส่เพียงเอี๊ยมคลุมด้วยผ้าแพรบาง กำลังยิ้มแย้มใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มผลไม้เชื่อมป้อนให้ไฉฝูหลิน

กำลังเสพสุขอยู่นั้น ประตูห้องก็ถูกผลักออก ชายวัยกลางคนผู้นั้นเดินเข้ามา อวี้เหนียงจื่อหวีดร้องดัง ไฉฝูหลินที่กำลังเมาได้ที่หรี่ตามอง ยิ้มกล่าวว่า

“กลัวอันใด เป็นพี่รองข้าเอง รีบไปรินสุรามา!”

อวี้เหนียงจื่อเป็นหญิงคณิกา ได้ยินดังนี้ สีหน้าก็ไม่ได้ตกใจอีก กลับรินสุราด้วยท่าทีแช่มช้อย จากนั้นก็เดินไปยังหน้าไฉฝูหลิน กำลังจะกล่าวอันใด หลินซูฝูก็ยกมือขึ้นตบบ้องหูนางลงไปกองที่พื้น ตวาดเสียงเยียบเย็นว่า

“ไสหัวออกไป!”

“พี่รอง มีอะไรค่อยๆ พูดกัน ตบตีผู้หญิงทำไม ออกไปก่อนๆ อีกสักครู่ข้าจะให้รางวัลปลอบใจเจ้า”

ไฉฝูหลินไม่พอใจบ่นขึ้น ให้อวี้เหนียงจื่อที่ตกใจออกไปก่อน พอหญิงสาวออกไป หลินซูฝูก็จ้องมองไฉฝูหลินถามขึ้น

“ซูไฉ! เสบียงที่ต้องเอาไปแจกนอกเมืองในเมือง เจ้าได้ไปแจกหรือไม่!?”

“ทำไมจะไม่ เรื่องเงินแค่นี่ไม่เท่าไร แจกไปนานแล้ว!”

“แจกไปแล้วๆ เหตุใดยังมีคนไม่มีทางเลือกต้องคว้าอาวุธออกมาปล้นชิง ฆ่าตายไปหลายคน ศาลซุ่นเทียนเริ่มสอบคดีแล้ว เจ้าจับตาดูพวกเขาไปแจกหรือเปล่า?”

ได้ยินเช่นนี้ ไฉฝูหลินก็นั่งตัวตรงเรียบร้อย ใช้มือขยี้หน้าผากอย่างแรง กล่าวอย่างรำคาญใจว่า

“ผู้ใดจะมีเวลาไปจับตาเล่า สั่งลูกน้องไปทำ หรือว่าเจ้าลูกหมาพวกนั้นจะอมเงินไป นี่มันจะอะไรกันนักหนา ก็แค่จ่ายไปอีกสักรอบสิ พี่รอง อวี้เหนียงจื่ออรชรอ้อนแอ้นเพียงนั้น ตบนางด้วยเรื่องนี้ ท่านก็ลงมือไปได้ อิอิ หรือว่าท่านลองใช้นาง……”

กล่าววาจาเหลวไหล เห็นได้ชัดว่าเมาไปแล้ว หลินซูฝูเดินก้าวไปด้านหน้า กระชากไฉฝูหลินขึ้นมายกมือตบบ้องหูไปหลายที กัดฟันตะโกนใส่หูไปว่า

“คนสำนักรักษาความสงบมาจับตาดูแล้ว เรื่องนี้ไปถึงในวังแล้ว สำนักส่วนพระองค์ก็ออกใบเบิกทางให้จัดการแล้ว!”

หน้ำตาบวมปูด ได้ยินชื่อ ‘สำนักรักษาความสงบ’ ไฉฝูหลินก็สร่างเมาขึ้นหลายส่วน สะบัดหัวไปมา อู้อี้ถามขึ้นว่า

“พี่ใหญ่คิดจะจัดการเช่นไร!”

“ส่งคนไปติดต่อคนที่เจ้าเตรียมไว้ ในวังจะมีคนส่งเงินไปให้ จะทำให้พวกศาลซุ่นเทียนและสำนักรักษาความสงบไม่กล้าลงมือ คืนนี้ส่งไปไปรอคำสั่งข้า เจ้าก็อย่าอยู่เมืองหลวงต่อ ตอนนี้ออกนอกเมืองไปได้ ไปพักที่โรงบ้าน!!!”

———————-

[1] ในภาษาไทยมีคำว่าเทียบเชิญแปลว่าบัตรเชิญ ในที่นี่หมายถึงแผ่นการ์ดเหมือนบัตรเชิญแต่เขียนระบุเรื่องที่หน่วยงานหรือองค์กรหนึ่งต้องการให้อีกหน่วยงานหรืออีกองค์กรหนึ่งเปิดทางสะดวกให้ดำเนินการ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version