Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 727

ตอนที่ 727 พ่อค้าเห็นแก่กำไร กักตุนสินค้า

ต้นเดือนสิบเอ็ด ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 11 มณฑลซานซีแต่ละจุดจากเหนือจรดใต้ เมืองต้าถง เมืองไท่หยวน เมืองผิงหยาง เมืองลู่อัน เมืองชิ่นโจว เมืองเจ๋อโจว เมืองเหลียวโจว เมืองเฝินโจว แต่ละเมืองล้วนมีพ่อค้าได้รับรายการสั่งซื้อ

รายการสั่งซื้อมีสินค้ามากมายหลากหลาย พอได้รายการสั่งซื้อมาพ่อค้าก็ต้องตกใจ เพราะสินค้าในรายการสั่งซื้อเป็นของที่ตนสะสมเอาไว้ทั้งนั้น และราคาก็เหมาะสม มากกว่าปกติห้าส่วน หรือแปดส่วน แต่สินค้าที่จำเป็นกลับแค่หนึ่งส่วน

นอกจากราคาแล้ว ยังให้เงินเพิ่มพิเศษ ให้ร้านค้าจ้างรถขนไปเมืองต้าถง ค่าขนส่งคนซื้อจ่าย

คนออกใบซื้อสินค้าก็คือสาขาร้านสามธารา ไม่ก็สาขาร้านจิ้นเหอกับร้านหย่งเซิ่ง หากเป็นทางการมาซื้อ ทุกคนอาจสงสัยไม่แน่ใจ กลัวว่าทางการจะเอาสินค้าไปไม่จ่าย

แต่ร้านค้าพวกนี้ล้วนมีร้านสาขา สถานะการเงินเข้มแข็ง ปกติคบหาค้าขายกันมาก ทุกคนย่อมรู้กันดี ความกังวลลดลงไปมาก พอจ่ายมัดจำ หลายคนก็เริ่มหาเช่ารถม้า เตรียมบรรทุกสินค้าส่งไปเมืองต้าถง

มณฑลซานซีกับมณฑลอื่นไมเหมือนกัน การค้าที่นี่เจริญมาก มณฑลซานซีนอกจากการค้ากับมองโกลนอกด่านที่ทำกันมานานแล้ว ยังมีการค้ากับส่านซีใกล้ๆ กัน หรืออาจมีการค้ากับเผ่าหนี่ว์เจินนอกด่าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการค้ากับพ่อค้าแดนใต้มาชายแดนเหนือ จากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตค้าเกลือ แม้ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นไปซื้อใบอนุญาตค้าเกลือมาโดยตรงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงรักษาการกระทำแบบเดิมเอาไว้อยู่

สินค้ามากมายกระจายออกจากมณฑลซานซีไปยังที่ต่างๆ การค้ามณฑลซานซีก็ย่อมรุ่งเรืองกว่าที่อื่นๆ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมาถึง เป็นช่วงคึกคักของการค้ากับทุ่งหญ้านอกด่าน และเดือนสิบสองยังเป็นเดือนแห่งการเตรียมสินค้าฉลองปีใหม่อีกด้วย

หน้าหนาวในมณฑลซานซีเดินทางไม่ได้ ต้องรอฤดูใบไม้ผลิมา ต้นปีเส้นทางเป็นดินโคลนแฉะ เดินทางยากลำบากมาก กอปรกับไม่มีเส้นทางน้ำให้เดินทางได้ ได้แต่ขนส่งทางบก ต้นปีเดินทางยาก ดังนั้นจึงต้องเตรียมของให้เสร็จในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นหนาว

แม้เป็นช่วงการค้าคึกคักแห่งปี แต่ขบวนพ่อค้าทุ่งหญ้านอกด่านถูกปล้นไม่หยุด เส้นทางถูกตัดขาด สินค้าได้แต่เก็บไว้ในโกดัง กอปรกับเตรียมของปีหน้าไว้อีก เรียกได้ว่าสินค้าสะสมเอาไว้มากมายมหาศาล

เสบียงอาหาร ผ้าแพรพรรณ เกลือ เหล็กไว้ทำเครื่องมือการเกษตร ไม่ขาดแคลนสักอย่าง สินค้าพวกนี้ล้วนเป็นสินค้าจำเป็นในยามทำสงคราม รายการสั่งซื้อส่งไป จ่ายมัดจำไป สินค้าก็ทยอยส่งมายังเมืองต้าถง

ทหารเมืองต้าถงทำศึกไม่จำเป็นต้องกล้าหาญ ปกติส่วนใหญ่ก็เป็นชาวนาของนายทหารใหญ่ ไม่มีปัญญาสังหารศัตรูได้ แต่จะให้รวมตัวกันมาใช้แรงงานก็พอได้อยู่

กองกำลังปีกเหนือเมืองต้าถงประจำทางใต้ ทหารหลายพันกำลังยุ่งกับการงาน กำลังสร้างโกดังง่ายๆ ยังมีคอกสัตว์และคอกม้า

คนของร้านสามธาราและร้านในเครือต่างมารวมตัวกันที่นี่ ทุกครั้งที่สินค้ามาถึงก็ตรวจรับสินค้า จากนั้นก็แยกไปจัดเก็บตามประเภท จ่ายเงินสด

ทหารกองกำลังขวาแห่งเมืองต้าถงและกองกำลังอวี้หลิน กองกำลังเวยหย่วน ได้รับผลประโยชน์ไปมากมาย ร้านสามธาราเปิดราคารับซื้อพวกไม้พวกฟืนมา ต้องการแรงงานขนย้าย ค่าแรงก็ให้มากกว่าตลาดแรงงานสามส่วน ทหารประจำการที่นี่ เบี้ยหวัดหลังหักแล้วเหลือไม่มาก ตอนนี้มีงานนอกให้ทำเงิน ไยจะไม่ทำเล่า

**************

ข่าวเผ่าอันต๋าในเมืองต้าถงกระจ่างชัดมาก เผ่าอันต๋าก็ยิ่งกระจ่างชัดในข่าวของเมืองต้าถงทุกเรื่องเช่นกัน

พวกเขาย่อมรู้ว่าเมืองต้าถงกำลังเคลื่อนกำลังพลพร้อมรบ สายข่าวมองโกลบนแผ่นดินหมิงมีมากมาย เมืองหลวงมีราชโองการเคลื่อนกำลังทหารเมืองจี้โจวกับกองกำลังหู่เวยมาเมืองต้าถงข่าวนี้ พวกเขาก็ย่อมรู้ไม่ช้าไปกว่าชาวเมืองต้าถง

ข่านเซิงเก๋อตูกู่เหลิงกับชนชั้นสูงเผ่าอันต๋าไม่กังวลใจ พวกเขาเห็นว่า ทหารเมืองต้าถงเหมือนกับลูกแพะลูกแกะบนทุ่งหญ้านอกด่าน ขบวนพ่อค้าถูกปล้นบนทุ่งหญ้านอกด่านยังไม่กล้าออกมาจัดการ เผ่าอันต๋าส่งทหารม้ามาปราบปราม ห่างจากกำแพงเมืองเล็กน้อย ก็ถึงกับเหมือนไก่ตีปีกแตกตื่นตกอกตกใจกันยกใหญ่เช่นนี้ได้

พอได้ข่าวนี้ ข่านเซิงเก๋อตูกู่เหลิงยังถึงกับออกคำสั่งให้ทหารนำกำลังลงใต้ปราบปรามกองโจรม้า ไปใกล้กำแพงเมืองอีกหน่อย ดูว่าทหารหมิงมีปฏิกิริยาอย่างไร

เดือนสิบเอ็ด ทหารม้าพวกนอกด่านเริ่มมาแถบกำแพงเมืองกันมากยิ่งขึ้น เป็นดังที่ข่านเซิงเก๋อตูกู่เหลิงวิเคราะห์ ทหารแผ่นดินหมิงไม่กล้าเคลื่อนไหว เข้าไปใกล้อีกนิดก็กล้าเพียงแค่จุดคบไฟเพิ่ม แอบอยู่ในป้อมกำแพงเมือง พวกสายสืบข่าวชาวแผ่นดินหมิงบนทุ่งหญ้านอกด่านพอเห็นพวกทหารม้านอกด่านก็รีบวิ่งหนีกันอุตลุด แม้แต่ลูกหมาก็ไม่ปาน

แม้ว่าทหารแผ่นดินหมิงจะขี้ขลาดเยี่ยงนี้ แต่กองโจรม้าทุ่งหญ้านอกด่านนั่นก็ทำให้น่าโมโหรมาก ถึงกับออกปราบปรามเข้มเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ไม่อาจหยุดกองโจรม้าได้

แม้ความถี่ในการออกปล้นลดลง ขบวนพ่อค้าถูกปล้นน้อยลง แต่พวกกองโจรม้าก็เหมือนว่าเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเผ่าเล็กๆ บนทุ่งหญ้านอกด่านแทน มีเผ่าหนึ่งในความคุ้มครองของเผ่าอันต๋าถูกกองโจรม้าเข้าปล้น ทั้งเผ่าถูกสังหารตายหมดไม่มีเหลือ ทรัพย์สินถูกเผาทำลายหมด สัตว์เลี้ยงก็ถูกนำไปหมด ที่เอาไปไม่ได้ก็ฆ่าทิ้งไม่มีเหลือ

รอทหารม้าเผ่าอันต๋ามาถึง เห็นก็แต่ภาพว่างเปล่าและสตรีกับเด็ก เหลือไว้เช่นนี้โหดร้ายกว่าสังหารให้หมดเสียอีก เพราะผู้ชายตายหมดแล้ว ผู้หญิงกับเด็กจะต้องเป็นภาระของเมืองกุยฮว่าเฉิง และผู้หญิงอ่อนแอหวาดกลัวจะส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปยังคนอื่น ทำให้คนอื่นพลอยหวาดกลัวไปด้วย ย่อมทำให้เกิดความโกลาหลหนัก

ความจริงแล้ว ชนชั้นสูงเผ่าอันต๋าก็เคยคิดเรื่องนี้ ผู้หญิงเผ่าเล็กให้มเหสีสามออกคำสั่งสังหารให้หมด ปิดข่าว แต่พวกที่รู้เรื่องนี้หากไม่โมโหมาก ก็จะเศร้าใจเสียขวัญหนัก

ทหารม้าพวกนอกด่านบนทุ่งหญ้านอกด่านไม่ค่อยได้ออกปฏิบัติหน้าที่อะไร พอเกิดเรื่องนี้ ก็เริ่มรวมตัวกัน ทำให้ชาว เมืองต้าถงเริ่มหวาดระแวงกันอีกรอบ

**************

กลางเดือนสิบเอ็ด มณฑลซานซีเริ่มมีข่าวแพร่มาข่าวหนึ่ง บอกว่าสินค้าพวกนี้ขนไปเมืองต้าถงแล้ว ขายให้กับร้านสามธาราและร้านค้าในเครือไปหมด ร้านค้าพวกนี้ก็บวกอีกสามเท่า จากนั้นขายให้กับกองกำลังทหารเมืองต้าถง ว่ากันว่าผู้แทนพระองค์หวังทงครั้งนี้นำเงินมามณฑลซานซีก้อนโต มีเงินมากมายมหาศาล

พอได้ยินข่าวเช่นนี้ พ่อค้าต่างก็เข้าใจในบัดดล มิน่าร้านสามธาราจึงยอมจ่ายเงินเพิ่มซื้อไป ที่แท้ก็ไปรอเอาก้อนโตจากทางการนี่เอง

เรื่องหาเงินย่อมไม่อาจให้ร้านเดียวกินคนเดียว พ่อค้าต่างไม่ยอม คิดจะหาทางติดต่อค้าขายกับผู้แทนพระองค์เอง สินค้าขายได้ราคาสูง จะไม่ยินดีทำบ้างหรือ

แต่บรรดาพ่อค้าที่คิดขายราคาสูงกลับพบว่าสินค้าพวกเขานอกจากขายให้ร้านสามธาราและร้านที่มาสั่งซื้อกับพวกเขาแล้ว ที่เหลือไม่มีที่ขายได้ เมืองต้าถงแต่ละแห่ง ไม่มีทางการรับซื้อสินค้าพวกเขาเลย

อย่าว่าแต่สามเท่าห้าเท่าเลย แม้แต่ขายราคาเดิม ทางการก็ไม่สนใจ พ่อค้าบางรายหมุนเงินไม่ทัน ก็ยอมลดราคาได้อีกเท่าสองเท่า ทางการก็ยังไม่สนใจอยู่ดี

มีคนเข้าไปเจอตอกลับมา มาแอบเห็นร้านสามธารากำลังติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางการ สองฝ่ายสนทนาเจรจากันอย่างดี

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่า ทางการรู้จักแต่พวกร้านสามธารา ตนเองไปหาหน้าตาเฉย ก็ไปให้หัวเราะเยาะเล่นเท่านั้น อย่างไรก็จัดสินค้าขายไปตามเดิมดีๆ ดีกว่า ไม่คิดมากดีกว่า ได้กำไรพอสมควรแล้ว

แต่พวกเขาไม่อาจเสียเวลานาน พวกเขาไม่กล้าติดต่อทางการ พวกเขาไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมาก ตั้งแต่วันที่ 20 เดือนสิบเอ็ดมา มีคนสามารถเข้ามาเมืองต้าถงได้ มีคนให้ราคามากกว่าร้านสามธาราอีกห้าส่วน รับซื้อสินค้าทั้งหมด

ขายสินค้ามาที่ด่านทางนี้ นอกจากพ่อค้าแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ทางเมืองต้าถงอยู่ ทางนั้นบอกว่าทางการรับซื้อ ก็ย่อมเป็นเจ้าหน้าที่ทางการออกหน้า และราคายังให้มากกว่าอีกห้าส่วน ทุกคนคิดแล้วก็เข้าใจ ย่อมขายให้เจ้านี้

ร้านค้าตระกูลหวงมีชื่อเสียงมากในมณฑลซานซี ทุนค้ามากมาย ค้าขายไปไกล ว่ากันว่ามีนายอำเภอต้าถงคนหนึ่งต้องการเอาเปรียบการค้าตระกูลหวงจึงถูกปลดไป อย่าว่าแต่นายอำเภอเลย แม้ว่าผู้ตรวจการเมืองต้าถงก็ล้วนเคยโชคร้ายในเรื่องนี้มาเช่นกัน วงการขุนนางมณฑลซานซีล้วนรู้เรื่องนี้ดี พ่อค้าซานซีย่อมรู้กระจ่างเช่นกัน

วันที่ 20 เดือนสิบเอ็ดมา สินค้าที่ส่งไปกองกำลังฝ่ายขวาเมืองต้าถงลดลงไปมาก ส่วนใหญ่ไหลออกไปทางเมืองซั่วโจว

บรรดาพ่อค้าไม่ต้องออกไปส่งสินค้าไกล ประหยัดค่ารถม้า และยังได้ราคาสูง ย่อมพึงพอใจ ยังรู้ว่าการค้าตระกูลหวงใหญ่มาก ความน่าเชื่อถือพอ ถึงกับออกใบรับสินค้ายังไม่ต้องจ่ายเงินได้ ค่อยนัดวันมารับเงิน

***************

ณ จวนอดีตแม่ทัพซุนต้าอิงเมืองต้าถง หลี่เปียวคว้าชุดรองผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพรออกมา รีบส่งให้หวังทง

“หานกัง ซาตงหนิง หลี่เปียว……”

หวังทงสวมและจัดชุดตนให้เรียบร้อย ปากก็ขานชื่อทีละคน ทหารติดตามพากันยืนเรียงอยู่ด้านหน้า รอรับคำสั่งท่าทางเคร่งเครียด หวังทงเห็นทุกคนเคร่งเครียดก็ยิ้มกล่าวว่า

“พวกเจ้าเคยสังหารผู้ใดหรือไม่?”

ได้ยินหวังทงถามเช่นนี้ ทหารที่รับคำสั่งก็หัวไว ซาตงหนิงกับหานกังยืดอกภูมิใจ พวกเขาสองคนเคยออกรบสังหารมา เห็นท่าทางพวกเขา หวังทงอดยิ้มไม่ได้ ยิ้มกล่าวว่า

“ตั้งแถว หยิบอาวุธมา ตามข้าไปสังหาร!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version