Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 731

ตอนที่ 731 เมืองต้าถงสั่นสะเทือน อ๋องไต้โมโหหนัก

ตอนหวังทงไปเมืองไท่หยวนตรวจสอบเรื่องค้างเบี้ยพระราชทานเชื้อพระวงศ์ ก็เคยได้พบกับนายอำเภอเมืองต้าถง เรียกได้ว่าไม่ใช่พวกไม่คุ้นหน้า

วันนั้นนายอำเภอเมืองต้าถงมีเจตนาบ่ายเบี่ยงเรื่องเบี้ยพระราชทานเชื้อพระวงศ์ แต่เขาว่ามาก็มีเหตุผล หวังทงย่อมฟังเหตุผล วันนี้ไม่ได้พูดง่ายเหมือนวันนั้นแล้ว

รองนายอำเภอออกมาต้อนรับยกน้ำชาให้หวังทง พวกหวังทงรออยู่ในห้องโถงด้วยท่าทางไม่สนใจ

เห็นธงและสัญลักษณ์ประจำผู้แทนพระองค์ มาพร้อมทหารท่าทางเย็นชา แต่งกายเต็มยศพร้อมอาวุธ คนในที่ทำการศาลทั้งหมดก็เริ่มหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเกิดเหตุใดกันแน่

นายอำเภอเมืองต้าถงอยู่ด้านใน พอได้ยินหวังทงมาก็รีบวิ่งออกมาที่โถงหน้า ยังไม่ทันได้คำนับทักทาย หวังทงก็กล่าวว่า

“ร้านค้าตระกูลหวงเมืองต้าถงกักตุนสินค้า ทำให้ราคาสินค้าเพื่อการสงครามเราสูงขึ้น ทำการเช่นนี้มีเจ้าหน้าที่ศาลนี้ให้ความช่วยเหลือ เมืองต้าถงตอนนี้เวลาอันใดแล้ว ท่านรู้ไหม ร้านค้าตระกูลหวงทำเช่นนี้เท่ากับสบคบคิดกับพวกนอกด่าน ท่านส่งคนไปช่วยเหลือ แท้จริงแล้วคิดการใดกันแน่”

ในห้องโถงเงียบกริบ ทุกคนในที่ทำการพากันตาค้างอ้าปากพูดไม่ออก นายอำเภอเมืองต้าถงกำลังยืนอึ้ง ไม่ทันได้สติ หวังทงก็กล่าวสำทับเสียงเย็นมาอีกว่า

“สงสัยว่าคบคิดพวกนอกด่าน ตำแหน่งนี้ท่านไม่ต้องนั่งแล้ว ให้คนอื่นมาเป็นละกัน!”

ผู้ใดจะคิดว่าไม่กี่คำ หมวกประจำตำแหน่งบนศีรษะก็ถูกถอดทิ้ง นายอำเภอเมืองต้าถงร้อนใจในบัดดล ไม่สนใจแล้วว่าหวังทงเป็นผู้แทนพระองค์ กล่าวขึ้นสวนทันทีว่า

“ใต้เท้าหวัง ท่านก็แค่ขุนนางบู๊ ข้าเป็นขุนนางบุ๋นระดับสี่ ไหนเลยว่าท่านบอกว่าปลดข้าก็ปลดได้ ท่านเพิ่งมาที่นี่ ก็สาดโคลนใส่ร้ายผู้อื่น ท่านคิดว่าใต้หล้านี้ไร้กฏหมายหรืออย่างไร?”

“ข้าคือผู้แทนพระองค์ รับพระบัญชามาเป็นผู้บัญชาการเมืองต้าถง เรื่องการทหาร เรื่องประชาล้วนอยู่ในการดูแลของข้าตอนนี้ ในยามคับขัน เจ้ากลับเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่สนใจส่วนรวม ข้าเหตุใดจึงไม่อาจปลดเจ้า ไม่ต้องคิดหาหนทางรอดแล้ว คืนนี้ข้ากับผู้ตรวจการเมืองต้าถงจะร่วมส่งฎีกาไปเมืองหลวง ขอให้ฝ่าบาทมีคำสั่งจับเจ้าขังคุกลงโทษ!!”

“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด เจ้าใส่ร้าย……”

“รับซื้อสินค้าเพื่อการสงครามแข่งกับทางการ ร้านค้าตระกูลหวงให้หุ้นเจ้าสองส่วน ให้เจ้ามาก่อนห้าพันตำลึง นี่ไม่มีความผิดหรือ?”

หวังทงรุกถามเอาเรื่อง นายอำเภอเมืองต้าถงเดิมยังยืดอกพูดอย่างไม่ยินยอมรับผิด แต่คำพูดนี้ทำเอาต้องหน้าซีดเผือด ล้มลงนั่งแปะกับพื้นทันที

ท่าทางหมดหวังสิ้นหวังเช่นนี้ หวังทงขี้เกียจจะสนใจ เขาหันหลังไปสั่งการรองนายอำเภอว่า

“ตั้งแต่วันนี้ไป ให้เจ้าทำหน้าที่แทน เจ้ารับเงินร้านค้าตระกูลหวงมาสองพันตำลึงข้าไม่ว่า วันหน้าทำตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นจุดจบเจ้าก็จะเหมือนเขาผู้นี้!”

อยู่ๆ ตนเองก็ได้เป็นนายอำเภอ รองนายอำเภอเมืองต้าถงก็มีสีหน้ายิ้มแย้มไม่หุบ แต่พอกล่าวจบ ก็ต้องเข่าอ่อนยวบลงคุกเข่ากับพื้น ได้แต่พูดไม่หยุว่า

“ขอผู้แทนพระองค์วางใจๆ ข้าจะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ดี!!”

ทหารที่หวังทงพามาเข้าไปจับตัวนายอำเภอที่ล้มแปะอยู่กับพื้นออกไป ที่ศาลมีคุก ไม่จำเป็นต้องนำตัวไปที่ใด

ในตอนนั้นเอง ในห้องโถงก็มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ไม่ทันสังเกตเห็นพวกหวังทง ก็ตะโกนดังไปว่า

“เจ้าหวังทงนั่นถึงกับกล้าตัดคอเถ้าแก่ใหญ่ร้านค้าตระกูลหวง เลือดสาดกระเด็นใส่ซื่อจื่อไปหมด เจ้านั่น……”

กล่าวไม่ทันจบก็หันไปเห็นพวกหวังทง ก็รีบหุบปากก้มหน้าลง พอได้ยินเช่นนี้ นายอำเภอเมืองต้าถงที่กำลังคิดหาทางก็หมดหวังทันที ร้านค้าตระกูลหวงระดับไหน ชาวเมืองต้าถงล้วนรู้กันดี ถึงกับตัดหัวต่อหน้าซื่อจื่อ หวังทงช่างไม่เกรงกลัว

สายตาคนในศาลมองหวังทงยามนี้เต็มไปด้วยความเคารพหวาดกลัว แต่ละคนใจสั่นหวาดกลัว หวังทงสั่งการแล้วก็ออกไป

*************

เมืองต้าถงเกิดเรื่องใหญ่ ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว หน้าร้านค้าตระกูลหวงเกิดเรื่องเช่นนั้น เล่ากันไปก็เริ่มตีไข่ใส่สี คนว่างงานก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด นายอำเภอเมืองต้าถงถูกหวังทงปลดกลางศาล ตอนนี้รองนายอำเภอทำหน้าที่แทน เรื่องนี้ก็กล่าววิจารณ์สนุกไม่แพ้กัน

เรื่องพวกนี้ฟังแล้วน่าตกใจ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับชาวบ้านตัวเล็กๆ ทุกคนก็แค่วิพากษ์วิจารณ์กันสนุก แต่สำหรับพวกชนชั้นสูง คหบดี ขุนนางใหญ่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

หวังทงใช้สถานะผู้แทนพระองค์และผู้บัญชาการเมืองต้าถงอวดอ้างบารมีข่ม แต่เมืองต้าถงอยู่มาเกือบสองร้อยปี อำนาจแต่ละแห่งก็มีรากฐานมานาน เขาเป็นขุนนางคนสนิทฮ่องเต้ส่งมา อายุก็ยังน้อย ทุกคนก็แค่ไว้หน้าให้เกียรติเพียงเปลือกนอก ลับหลังไม่เกรงใจสักเท่าไร คนรอดูเรื่องสนุกหลังจากนี้กันไม่น้อย

ร้านสามธารารับซื้อสินค้าในมณฑลซานซีแต่ละแห่งมาจากนั้นก็ขนส่งไปเก็บที่ชายแดน คนปกติไม่รู้ แต่สายข่าวทางการล้วนรู้ว่ากำลังเตรียมการใด

แต่เรื่องใหญ่ทางการทหารนี้กลับไม่มีคนช่วย ทุกคนคิดอยากมีส่วนแบ่งในเรื่องนี้สักช้อนสองช้อนก็ยังดี ดังนั้นเบื้องหลังยิ่งใหญ่อย่างร้านค้าตระกูลหวงจึงลงมือก่อน

พวกนายอำเภอเมืองต้าถงอยู่ในวงการขุนนางหนังเหนียวมานาน แม้ดูแคลนหวังทง แต่ก็ไม่ไปปะทะเปิดเผยซึ่งหน้า แต่ผู้อยู่เบื้องหลังร้านค้าตระกูลหวงเรียกได้ว่าน่าตกใจจริง หวังทงจะยิ่งใหญ่สักเท่าไร ก็ควรต้องไว้หน้าคนจวนอ๋องไต้บ้าง คงไม่กล้ากับจวนอ๋องไต้สักเท่าไร

ด้วยเหตุนี้ นายอำเภอเมืองต้าถงจึงได้ชะล่าใจ ส่งคนไปช่วยทางหนึ่ง อีกทางก็หาช่องทางหาเงินในโอกาสนี้ จะได้ร่ำรวยใหญ่

ปฏิกิริยาหวังทงเหนือความคาดหมายของทุกคน ทำให้พวกที่คิดดูแคลนแต่ต้องต้องพากันหนาวสันหลังวาบ ทุกคนไม่รู้ว่าลำดับถัดไป หวังทงจะทำเช่นไรต่อ แต่ทุกคนได้เห็นเถ้าแก่ใหญ่ร้านค้าตระกูลหวงหัวหลุดจากบ่ากลางถนน นายอำเภอเมืองต้าถงถูกปลดกลางศาลที่ทำการตนเอง วันหน้าเป็นอย่างไรก็ไม่สนแล้ว ตอนนี้คนที่ไม่เห็นหวังทงอยู่ในสายตามีจุดจบเช่นนี้

พอตกค่ำ ผู้ตรวจการเมืองต้าถงเหมยเหวินจิ้นก็มีคำสั่ง แม้ผู้ตรวจการไม่มีอำนาจปลดหรือแต่งตั้งนายอำเภอ แต่สามารถยื่นฎีกาไปเมืองหลวงได้ ในยามคับขันสามารถตัดสินใจยื่นฎีกาขอความเห็นจากราชสำนักได้

หลายคนคาดว่าเหมยเหวินจิ้น่าจะต่อต้านการกระทำของหวังทง เรื่องอาจยังมีทางเปลี่ยนได้ คิดไม่ถึงว่าเหมยเหวินจิ้นจะตัดสินใจไปตามหวังทงทั้งหมด

ทุกคนพากันตกใจ ยามนี้จึงได้รู้ว่าบารมีหวังทงระดับไหนกัน ในเมืองต้าถงทุกคนตกใจกันหมด ผู้ตรวจการเมืองต้าถงเหมยเหวินจิ้นไม่กล้าขัดขืนต่อการกระทำของหวังทง ร้านค้าตระกูลหวงแบ่งกำไรให้เท่าไร มอบของขวัญให้ผู้ใด ก็ล้วนจดลงในสมุดบัญชี

เหมยเหวินจิ้นย่อมไม่ใช่คนมือสะอาด หากมีความคิดคัดค้าน เรื่องที่เมื่อก่อนเคยคบค้ากับร้านค้าตระกูลหวงถูกเปิดโปงออกมา หลักฐานอยู่ที่ศาลเมืองต้าถงพร้อมสรรพ ไม่มีทางปัดให้พ้นตัวได้ หากยังไม่ไหลตามน้ำไปตามหวังทงต้องการ เกรงว่าหวังทงคงผลักเขาตกน้ำไปด้วย

หวังทงเดิมอยู่เมืองไท่หยวนตรวจสอบเรื่องเบี้ยพระราชทานเชื้อพระวงศ์ เรื่องที่ทำแม้ว่าไม่เข้าใจ แต่ก็เป็นคนพูดง่าย ทำงานก็มีหลักการไม่บุ่มบ่ามทำให้ใครต้องลำบากใจ อายุก็ยังน้อย ในใจทุกคนจึงไม่ให้ความเคารพเท่าไร ร้านค้าต่างๆ ในมณฑลซานซีจึงไม่ได้เห็นรายการสั่งซื้ออยู่ในสายตา ก็คงเพราะเหตุนี้

เมืองต้าถงเกิดเรื่องเช่นนี้ ค่อยๆ แพร่กระจายข่าวออกไป คนที่ได้ยินล้วนไม่มีผู้ใดไม่ตกใจ ผู้ใดกล้ามองข้ามอีก ย่อมไม่มีผู้ใดมีเบื้องหลังที่ใหญ่กว่านี้แล้ว

แต่แม้เมืองต้าถงทุกหน่วยจะยินยอมทำตามคำสั่ง แต่ก็ยังมีความคิดหวังอื่นอีก หน้าตาอ๋องไต้ถูกฉีกไปหมดเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากิจการร้านค้าตระกูลหวงสามส่วนถูกปิด ขายหน้ามากเพียงนี้ จะรามือง่ายๆ ได้อย่างไร

รอดูปฏิกิริยาจวนอ๋องไต้จะตอบโต้อย่างไร ตอนนั้นทุกคนค่อยว่ากันก็ไม่สาย ……

**************

แม้ยังอยู่ต้นฤดูหนาวที่อากาศยังไม่หนาวสักเท่าไร แต่เมืองต้าถงก็เริ่มมีขอทานหนาวตายไปแล้ว รายงานมายังที่ทำการ ยังรายงานถึงเรื่องมีเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งหนาวตาย แม้ว่าเชื้อพระวงศ์หนาวตายจะเป็นเรื่องไม่ควรให้ใครรู้สักเท่าไร แต่ในเมืองต้าถงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อันใด

ว่ากันตามที่เคยเป็นมา ส่งเอกสารไปรายงานเมืองหลวง จากนั้นส่งให้จวนอ๋องไต้อีกชุด อย่างไรเชื้อพระวงศ์เมืองต้าถงก็ย่อมเป็นสายสัมพันธ์กับอ๋องไต้

เอกสารนี้มายังจวนอ๋องไต้ย่อมไม่ถึงมือคนแซ่จูได้เปิดอ่าน คนในจวนอ๋องที่มีหน้าที่จัดการเอกสารก็โยนทิ้งไปอีกทางก่อนแล้ว ตอนนี้จวนอ๋องไต้มีเรื่องมากมาย ผู้ใดสนใจเรื่องพวกนี้กัน

ที่พำนักอ๋องก็ย่อมเป็นวังอ๋อง แตกต่างกันไปตามระดับอ๋อง เพราะวังอ๋องไต้สร้างในสมัยหมิงไท่จู่ ผ่านการซ่อมมาหลายครั้ง ก็ยังคงงดงงามไม่คลาย

แม้บ้านคหบดีใหญ่ก็ยังไม่อาจตัดใจใช้ท่อร้อนใต้ดินที่เรียกว่ามังกรดิน ในวังนี้เผาฟืนให้ความร้อนทั้งวันไม่รู้สิ้นเปลืองถ่านฟืนไปมากมายเท่าใด ดังนั้นในวังแต่ละห้องจึงอบอุ่นราวฤดูใบไม้ผลิ

แม้จะอบอุ่น แต่ซื่อจื่อยังห่อตัวหนาตัวกลม ด้านในยังใส่เสื้อไว้อีกหลายชั้น เหมือนว่ากลัวหนาวมาก ด้านหน้าเตียงยังมีสามีภรรยาคู่หนึ่งนั่งอยู่ ก็คืออ๋องไต้กับพระชายา พระชายาเห็นซื่อจื่อสภาพเช่นนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจมาก อดไม่ได้บ่นว่า

“ท่านอ๋อง ผู้แทนพระองค์ หวังทงนั่นช่างวางอำนาจไร้ขื่อไร้แป เขาก็แค่ขุนนางบู๊ระดับสาม แม้เป็นคนโปรดฝ่าบาท ก็ต้องรู้จักผู้ใหญ่บ้าง แม้แต่คนจวนอ๋องเรายังกล้าตัดหัวกลางถนน ร้านก็ยังมากล้าปิดอีก ท่านอ๋องดูลูกหลินเราสิ ตกใจเสียสติไปแล้ว ท่านอ๋อง จะต้อง……”

ยังกล่าวไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงร้องไห้ในห้องขัดขึ้น เหมือนเป็นเสียงร้องของสตรี พอได้ยิน พระชายาสีหน้าก็แปรเปลี่ยน กล่าวอย่างเจ็บแค้นว่า

“เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ นางจิ้งจอกเช่นเจ้าจะมาร้องเอะอะอันใด ยังวุ่นวายกันไม่พอใช่ไหม?”

“เจ้าก็อย่าถือโอกาสหาความนาง เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือ พี่ชายนางถูกหวังทงตัดหัวไป พี่ชายนางไม่มีความดีก็มีความชอบ ทำงานหาเงินให้จวนอ๋องเรามานาน……เจ้าหวังทงคิดว่าใต้หล้านี้จะทำกำแหงอย่างไรก็ได้งั้นหรือ วันนี้ข้าจะถวายฎีกา แม้ฝ่าบาทไม่สนพระทัย ข้าก็จะไปเข้าเฝ้าไทเฮาให้ทรงตัดสิน”

น้องสาวจือวั่นชางเป็นนางคนโปรดอ๋องไต้ เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วในเมืองต้าถง อ๋องไต้โมโหมาก รีบให้คนไปตามคนเขียนสารมาให้ร่างฎีกา

ยังมาไม่ถึง ขันทีในจวนอ๋องก็มารายงานว่า หัวหน้าขันทีหลิวเกิ่งซูมาขอพบ มีเรื่องสำคัญ ขอท่านอ๋องและพระชายาโปรดให้เขาพบ……

อ๋องไต้ตำหนิพระชายาเสร็จก็เริ่มโมโหหนักขึ้น ยิ่งยุ่งยิ่งวุ่น ยามนี้แล้ว คนก่อความวุ่นวายยิ่งมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version