Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 102

№ 102 ขอสั่งให้เจ้าปรากฏตัว!

เมื่อสิ้นสุดเสียง ก็ตามมาด้วยประกายแสงหนึ่งปรากฏขึ้นระหว่างสองมือจากตราสัญลักษณ์ที่วาดไว้ แสงสีแดงดั่งสีเลือดพุ่งตรงขึ้นท้องฟ้าชั่วขณะ ทันใดนั้น เปลวไฟสีแดงฉานวาววับจับตาก็ทะยานขึ้นสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน!

“หวี๊ด!”

เสียงหงส์ร้องดังขึ้นกลางค่ำคืน ราวกับดังลอยมาจากบรรพกาล พลันแรงกดดันรุนแรงในน้ำเสียงก่อตัวเป็นกระแสพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแกว่งออกไปด้านนอก แรงกดดันมหาศาลและการปลดปล่อยกระแสพลัง ทำให้พื้นดินทั่วทั้งเมืองอวิ๋นเยวี่ยสั่นไหวเล็กน้อยอยู่ภายใต้การขยับเคลื่อนเลื่อนลั่นของน้ำเสียง คล้ายมังกรพลิกตัวสะเทือนแผ่นดิน เสียจนผู้คนตื่นตกใจไม่สิ้นสุด

ขณะที่เหล่าฝูงชนที่กำลังรีบรุดมายังจุดเพลิงไหม้พลันได้ยินเสียงหงส์ร้องลั่นสะเทือนหู ฝีเท้าแต่ละคนก็หยุดลงด้วยความตกตะลึง มองเงาร่างสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นฟ้า ลุกไหม้อยู่กลางเวหาพร้อมกับเปลวไฟโหมกระหน่ำ สว่างไสวไปทั่วท้องนภายามค่ำคืนอย่างยากที่จะเชื่อ

ความตกตะลึกจากสิ่งที่เห็นพุ่งตรงเข้าสู่จิตวิญญาณ ก่อเกิดเป็นพายุโหมคลื่นซัดอยู่ในหัวใจพวกเขา เนิ่นนานไม่อาจสงบลง…

“นั่น นั่นหงส์นี่! หงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนาน!”

“สัตว์เทวะในตำนานมาปรากฏตัวที่นี่รึ? เป็นใครกัน? ใครที่ครอบครองสัตว์เทวะในตำนาน?”

ผู้คนอุทานอย่างเหลือเชื่อ ทั้งในห้วงทะเลความคิดและในสายตา ล้วนเป็นเงาร่างหงส์ไฟแพรวพราวอยู่กลางอากาศ

ช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินว่ามีสัตว์เทวะถือกำเนิดในป่าเก้าหมอบ กลับเห็นเพียงเงามันสยายกลางเวหา ไม่เห็นร่างแท้จริง ตอนนั้นยังดึงดูดพวกเซียนจากต่างแคว้นมาร่วมแย่งชิง นึกไม่ถึงว่าสุดท้าย หงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนานจะมาอยู่ในแคว้นแสงสุริยันของพวกเขา!

เมื่อเห็นหงส์ไฟกางสองแขนสะบัดปีกอยู่กลางอากาศและมีเปลวไฟลุกไหม้ท่วมตัว พวกเขาแค่รู้สึกดุเดือดเลือดพล่านในหัวใจ

นั่นคือร่างแท้จริงของหงส์ไฟในตำนาน! ในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าของพวกเขานี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีวันได้พบเห็นสัตว์เทวะในตำนาน จะไม่ตื่นตาตื่นใจได้อย่างไรเล่า?

ท่ามกลางฝูงชน มู่หรงอี้เซวียนที่กำลังเร่งรีบมายังจุดเพลิงไหม้ก็มองร่างเปลวไฟเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างตกตะลึง สัตว์เทวะในตำนาน พญาหงส์แห่งหมู่มวลวิหค ร่างแท้จริงย่อมงดงามแวววับจับตาอยู่เช่นนั้น ช่างน่าเหลือเชื่อเสียจริง!

แม้ในใจกำลังตื่นเต้นพลุ่งพล่าน เขากลับไม่ได้หยุดนิ่งนานเกินไปนัก แต่รีบดึงสติและมุ่งไปทางจุดเพลิงไหม้นั้นอย่างรวดเร็ว

ส่วนภายในจวนตระกูลสวี่ บนหลังคานั้น ภายใต้แรงกดดันอันฮึกเหิมมหาศาลของสัตว์เทวะในตำนาน ชายชราชุดเทาแม้แต่ยืนก็ยังยืนขึ้นมาไม่ไหว สองขาสั่นเทาอ่อนเปลี้ยทรุดนั่งลงไป ก่อนจะมองหงส์ไฟที่สยายปีกบินอยู่กลางเวหาอย่างยากที่จะเชื่อ ดวงตาแดงก่ำ ทั้งไม่พอใจและไม่ยอมเชื่อ

“ไม่!”

“นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!”

“เจ้าจะมีหงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนานได้เช่นไร!”

“เป็นไปได้ยังไง!”

ภายใต้การปกคลุมของแรงกดดันอันแกร่งกล้า แม้แต่ปริปากพูด ก็ควรจะทำไม่ได้ แต่เขายังแข็งขืนตีฝ่าแรงบีบคั้นสั่นสะเทือนจากแรงกดดันสัตว์เทวะในตำนาน เพียงเอ่ยปาก ชีพจรก็เสียหาย เลือดสดเอ่อล้นจากในปาก กลับยังคงไม่ยอมเชื่อในความจริงอันโหดร้ายนี้อย่างบ้าคลั่ง

เห็นอยู่กับตาว่าเป็นเหยื่อเช่นหมูในอวย จู่ๆ ก็บินไปเสียแล้ว ซ้ำยังสร้างความตื่นตะลึงที่ทั้งหนักหนาและไม่อาจยอมรับ แล้วจะให้เขายอมรับได้อย่างไรเล่า?

เฟิ่งจิ่วที่ยืนรับสายลมก้มลงมองชายชราที่ทรุดนั่งอย่างจนตรอกด้วยแววตาเยือกเย็น น้ำเสียงเย็นเยียบค่อยๆ เปล่งออกมา “ได้ตายในเงื้อมมือหงส์ไฟ เจ้าก็ไม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจแล้วล่ะ”

เมื่อสิ้นสุดน้ำเสียงนาง หงส์ไฟบนฟากฟ้าก็โน้มพุ่งลงไปพร้อมกับเปลวเพลิงโหมกระหน่ำดังฟิ้ว ปีกไฟโชติช่วงที่กางออกห่อหุ้มตัวชายชราไว้ แล้วค่อยบินทะยานขึ้นท้องฟ้าอีกครั้ง

“ไม่!”

น้ำเสียงรุนแรงที่มีความไม่ยอมแพ้ดังลอยมาจากเปลวไฟ เฟิ่งจิ่วเห็นเพียงประกายไฟเล็กๆ โปรยปรายอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน และหงส์ไฟก็สยายปีกบินวนรอบอยู่เหนือศีรษะ…

…………………………………….

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version