Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 127

№ 127 ใครจริงใครปลอม?

เฟิ่งเซียวถูกท่านพ่อที่บันดาลโทสะตะโกนใส่เสียจนสองขาสะดุ้งร่างกายสะเทือน สวรรค์รู้ว่าเขาไม่เคยเห็นท่านพ่อโมโหเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว ตอนนี้จึงไม่กล้าถามอะไรอีก เพียงขานรับ “ได้ขอรับๆๆ ท่านอย่าเพิ่งโกรธ ข้าจะรีบไปตามคนให้”

ขณะที่พูด ก็เร่งรีบออกไปสั่งคนรับใช้ให้ไปตามลูกสาวมาจากเรือนด้านหลัง

และในเวลาเดียวกัน ในลานเรือนเฟิ่งชิงเกอ ชายวัยกลางคนปรากฏตัวนอกห้องอย่างเงียบเชียบไร้เสียง ขานเรียกคนด้านในห้อง “นายหญิงขอรับ”

เมื่อเฟิ่งชิงเกอในห้องได้ยินเสียงด้านนอกก็แปลกใจเล็กน้อย เอ่ยปากทันใด “เข้ามา”

ชายวัยกลางคนหลบเข้าห้องไป เห็นนางนั่งอยู่ข้างโต๊ะ ก็ออกหน้ากล่าวเสียงเบา “พบท่านผู้เฒ่าเฟิ่งแล้วขอรับ แต่พอกลับมาท่านก็ร้องเรียกขอพบนายหญิงอย่างโมโหโกรธา ประเดี๋ยวคนรับใช้กำลังมาทางนี้ ข้าน้อยเห็นสถานการณ์ไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง จึงมาเพื่อรายงานโดยเฉพาะขอรับ”

ได้ยินเช่นนี้ แววตานางขรึมลงน้อยๆ เงียบไปพักหนึ่ง เอ่ยว่า “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อน อย่าให้ใครเห็นเข้า”

“ขอรับ” ชายวัยกลางคนขานรับ ถึงจะปลีกตัวออกไป

นางครุ่นคิดไประหว่างที่นั่งนิ่งอยู่ในห้อง ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ลอยมาจากด้านนอก

“คุณหนู นายท่านเชิญไปที่ห้องโถงขอรับ”

นางที่อยู่ในห้องลุกขึ้นเปิดประตูเดินออกมา เห็นคนรับใช้ในเรือน จึงหันหน้ารับเอ่ยถาม “ลุงเฉิง หาท่านปู่เจอแล้วรึ?”

“พบท่านผู้เฒ่าแล้วขอรับ คุณหนูไม่ต้องกังวล” คนรับใช้พูดยิ้มๆ กล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่ากับนายท่านรอคุณหนูอยู่ห้องโถงด้านหน้า คุณหนูรีบไปเถอะขอรับ!”

“ได้สิ” นางพยักหน้าลง ถึงจะเดินไปยังเรือนด้านหน้า

ในห้องโถงด้านหน้า

เฟิ่งเซียวรับน้ำชาที่สาวใช้ยกเข้ามาให้ ก่อนจะวางไว้ข้างๆ มือท่านพ่อ เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านดื่มน้ำชาอุ่นๆ ก่อนเถิดขอรับ”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งไม่ปริปาก สายตาเพียงมองตรงทางเข้าห้องโถง คล้ายกำลังรอการมาถึงของเฟิ่งชิงเกอ

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ?

ในใจเฟิ่งเซียวนึกฉงน ไม่สบายใจเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยปากถามไถ่ ท่านพ่อเหมือนไม่คิดจะบอก หนำซ้ำ เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับชิงเกอ?

ขณะที่เขากำลังกระวนกระวายใจ ในสถานการณ์ที่บรรยากาศห้องโถงยิ่งกดดันอึมขรึม ในที่สุดก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ลอยมาจากด้านนอก

“ท่านผู้เฒ่า นายท่าน คุณหนูมาแล้วขอรับ”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งเซียวกำลังคิดจะลุกขึ้นเดินออกไปเตือนนางเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าพอบั้นท้ายเพิ่งพ้นเก้าอี้ ก็ได้ยินเสียงตะคอกพร้อมทั้งตบโต๊ะดังลอยมา

“นั่งลงซะ!”

เขาตกใจเสียจนต้องทรุดนั่งกลับไปด้วยสองขาสั่นไหวหัวใจเต้นรัว ขณะที่นั่งอย่างเป็นระเบียบ ก็มองท่านพ่อที่ยังโมโหโกรธาด้วยความตกอกตกใจ กลับนึกไม่ถึงว่าจะสบเข้ากับแววตาทรงอำนาจที่เฉียบแหลมและแฝงด้วยความขุ่นข้องใจ

จำใจยกยิ้มขึ้น เอ่ยด้วยหน้าเหยเก “ท่านพ่อ ท่านไม่เห็นต้องเกรี้ยวกราดเพียงนี้เลย อย่าทำชิงเกอเสียขวัญสิขอรับ”

สำหรับอำนาจของท่านพ่อ เขานั้นรู้ลึกถึงกระดูกดำ เพียงเสียงตะคอกและแววตา ก็แทบจะทำให้แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่างเขากลายเป็นเช่นลูกเต่า อ้อ ไม่สิ ต้องขลาดกลัวในทันที

ท่าทางพาลเหลิงอำนาจแค่กับคนนอก ส่วนกับคนในบ้าน ก็ไม่เคยจะแสดงท่าทีมีอำนาจออกมาเลยสักนิด

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งไม่พูดอะไร แต่ใช้สายตาหลักแหลมเฉียบคมจับจ้องไปบนเรือนร่างที่เดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย

มีหลานสาวอยู่สองคนจริงๆ ด้วย

คนหนึ่งใบหน้าเสียโฉม อีกคนใบหน้ากลับยังสมบูรณ์ดังเดิม

เขาเหล่ตาพินิจมองอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า

ตอนที่เดินเข้ามา เฟิ่งชิงเกอรู้สึกถึงสายตาแหลมคมของท่านผู้เฒ่าเฟิ่งที่จับจ้องสำรวจมาบนร่าง จึงหวั่นใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แอบแปลกใจกับตัวเองว่า ‘ทำไมถึงมองนางเช่นนี้? หรือเขามองออกรึ ว่านางมีตรงไหนไม่เหมือนเฟิ่งชิงเกอ?’

……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version