№ 18 เผยเขี้ยวเล็บครั้งแรก!
“กรร!”
สิ่งที่ตอบรับเธอหาใช่เสียงของหลิงโม่หานไม่ แต่เป็นเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวก้องหูของสัตว์ร้ายตรงหน้า
ขณะที่เสียงขู่คำรามนั้นดังขึ้น เหล่าสัตว์ร้ายก็ก้าวเท้ากระโจนมาทางพวกเขาสองคน ปากใหญ่ที่อ้ากว้างมีน้ำลาย เขี้ยวคมที่ปรากฏมีประกายแห่งความกระหายเลือด ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกใจสั่น
“ขึ้นต้นไม้ไปซะ!” ดวงตาเยือกเย็นของหลิงโม่หานกวาดมอง พลางตะเบ็งเสียงทุ้ม
พอได้ยินเสียงสั่งขึ้นต้นไม้ของเขา ในดวงตาของเฟิ่งจิ่วก็ฉายยิ้มเยาะแทนการพูดว่า ‘ท่านอาคนนี้นี่ไม่เลวเลย!’
“ท่านอา เช่นนั้นท่านระวังตัวเองหน่อย” เธอปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว มือกอดลำต้นพลางก็มองเหตุการณ์เบื้องล่าง อยากเห็นนักว่าฝีมือของท่านอาจะถึงระดับไหนกันเชียว
ทว่าเมื่อหางตาเธอจากบนต้นไม้เหลือบเห็นชายหนุ่มที่หลบอยู่ด้านหลังและกำลังถือคันธนูเล็งไปทางท่านอา แววตาก็มีประกายเยียบเย็น เธอครุ่นคิดในใจ จนสัตว์ร้ายตัวหนึ่งพุ่งชนต้นไม้ที่เธอเกาะอยู่ ดังนั้นมือที่กอดกิ่งไม้อยู่จึงคลายออก เธอตกลงมาจากบนต้นไม้ตามแรงกระแทก
“อ๊ะ!”
หลิงโม่หานที่กำลังรับมือกับสัตว์ร้ายสิบกว่าตัวหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ สีหน้าเคร่งขึ้นน้อยๆ เจ้านี่ทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย! เขากลั้นใจกำลังจะเข้าไปรับนาง กลับเห็นนางขยิบตามาให้ พอเห็นเช่นนั้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางตวัดดาบฟันใส่สัตว์ร้ายที่พุ่งเข้ามา
ตอนนั้นเอง หลังเฟิ่งจิ่วร่วงจากต้นไม้ก็สับเท้าวิ่ง “อ๊า! ช่วยด้วย!”
ท่าร่างเธอแปลกประหลาด เห็นชัดว่าไม่มีพลังเร้นลับ แต่กลับวิ่งท่ามกลางสัตว์ร้ายพวกนั้นได้โดยไม่ถูกชน พอวิ่งไปรอบหนึ่งก็ยังไม่มาหลบหลังหลิงโม่หาน แต่วิ่งย้อนไปตามทางที่พวกเขามา
“ช่วยด้วย…”
คนหลายสิบคนที่หลบอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลเห็นทิศทางที่เฟิ่งจิ่ววิ่งมา และสัตว์ร้ายอีกเจ็ดแปดตัวที่ตามไล่หลัง สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วขณะหนึ่ง
“บ้าจริง!”
ชายหนุ่มสบถเสียงเบา เพราะการเคลื่อนไหวของเงาร่างสีดำตรงหน้าคันธนูในมือจึงไม่มีทางเล็งถูก พอเห็นสัตว์ร้ายที่วิ่งมาทางพวกเขาอีก ก็รู้ว่าเขาเสียโอกาสลอบฆ่าไปเสียแล้ว ทันใดนั้นคันธนูในมือขยับ และยิงไปหาขอทานน้อยตรงหน้า
“เตรียมพร้อมสู้!” ชายวัยกลางคนตะโกนเสียงเข้ม ขณะที่เค้นพลังเร้นลับออกมาก็ดึงกระบี่คู่กายออกจากข้างเอว
เมื่อเห็นชายหนุ่มยิงธนูมาทางเธอ มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุกขึ้น ปรากฏเป็นรอยยิ้มที่ทั้งแปลกและชั่วร้าย
เพียงครั้งเดียวไม่มีสอง กับคนที่คิดแต่จะเอาชีวิตเธอ เธอคงไม่อาจปล่อยเขาไปได้ทุกครั้ง
อีกอย่างเธอก็เริ่มคันไม้คันมือเสียแล้ว ขอลองกำลังต่อสู้ของตัวเองกับคนกลุ่มนี้หน่อยแล้วกัน!
พอตัดสินใจแน่วแน่ รังสีฆ่าฟันก็แผ่กระจายออกจากร่างเธอ กลิ่นอายดุดันแสดงถึงพละกำลังของผู้เหนือกว่า เพียงแค่แววตาที่เปลี่ยนไปและกลิ่นอายที่ล้อมกายเธอ ก็ทำให้ในใจของหัวหน้าชายวัยกลางคนเกิดคลื่นพายุโหมกระหน่ำขึ้นมา ตื่นตระหนกไม่มีสิ้นสุด!
เขาอ่านคนมานับไม่ถ้วน ย่อมมองออกว่าขอทานน้อยในตอนนี้ช่างแตกต่างกับคนก่อนหน้าราวเป็นคนละคน พลังเช่นผู้เหนือกว่าของเขา รังสีสังหารที่รุนแรง และความมั่นใจตรงหว่างคิ้ว แค่มองก็อกสั่นขวัญแขวนอย่างอดไม่ได้
แต่คนคนนี้ไม่มีพลังเร้นลับ เขาเชื่อว่าแม้พลังที่แสดงออกมาจะแข็งแกร่งกว่านี้ แต่หากอยู่ในการต่อสู้ก็คงไม่อาจแกร่งเท่าเขาได้!
สายตาของหลิงโม่หานจับจ้องที่ร่างขอทานน้อย ในสายตาลึกล้ำฉายประกายจางๆ
เป็นไปตามคาด นางไม่ได้ไร้พิษสงและง่ายดายเช่นที่แสดงออกมาจริงๆ แต่พอคิดดูเขาถึงสิ้นความสงสัย เดิมทีขอทานน้อยคนนี้ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ลองถามดูสิ มีผู้หญิงปกติคนไหนกล้าเข้ามาในป่าเก้าหมอบที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนี้เพียงลำพังบ้าง?
แต่ถึงอย่างไร นางที่ไม่มีพลังเร้นลับก็เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้น
ทว่าอีกไม่นานนัก เขาก็รู้ว่าตัวเองประเมินนางต่ำเกินไป…
…………………………………………….