Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 236

№ 236 หอร้อยทรัพย์!

เขาหลับตาลง จิบเหล้า น้ำเสียงทุ้มต่ำเปล่งออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ข้าว่าเจ้ายังมีชีวิตออกมาจากตำหนักยมราชได้ คิดแล้ว ตำหนักยมราชนั้นก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเจ้าเลวร้ายนัก”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วก็ชำเลืองมองเขา เห็นเคราหนาเตอะล้วนบดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง จึงไม่อาจมองหน้าจริงได้ชัดเจน สายตาอดไม่ได้ที่จะวนจับจ้องรอบใบหน้าเขา พินิจมองกลับไปกลับมา

เห็นคิ้วและดวงตาเขาคุ้นตาอยู่บางส่วน หัวใจพลันเต้นรัว รอยยิ้มตรงมุมปากแข็งกระด้างเล็กน้อย น้ำเสียงกลับยังคงเกียจคร้านเช่นนั้น เอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง “ท่านอา ท่านอายุเท่าไหร่กันแน่? ไว้เคราดกเพียงนี้ไม่รำคาญ ไม่ร้อนหรือขอรับ?”

หลิงโม่หานเงยหน้าชำเลืองมองนาง บอกว่า “ชินแล้ว”

“โอ้! ชินแล้วนี่เอง!”

เธอยิ้มๆ ช่วยเขารินเหล้า “มาๆๆ ดื่มเหล้ากัน ยากนักที่จะได้พบท่านที่นี่ จริงด้วยท่านอา ท่านมาทำอะไรที่เมืองลิ่วเต้ารึขอรับ?”

“มาทำธุระนิดหน่อย” เขาเห็นเธอยกถ้วยเหล้าขึ้นดื่ม ขมวดคิ้วเบาๆ บอกว่า “ท้องว่างอย่าเพิ่งดื่มเหล้า กินอาหารหน่อยเถอะ” พูดจบ ก็ช่วยคีบพวกอาหารไปไว้ในชามตรงหน้านาง

เห็นเขาที่กระตือรือร้นเกินเหตุ เฟิ่งจิ่วก็พยักหน้ายิ้มเหยเก “ขอรับ”

ทั้งสองกินอาหารเงียบๆ พูดไม่กี่คำเป็นบางครั้งคราว ทว่าหลิงโม่หานก็ทำเหมือนตัวเองไม่ใช่คนอื่นคนไกลโดยสิ้นเชิง ช่วยเธอคีบอาหารอยู่เรื่อง

“กินให้เยอะๆ หน่อย”

มองอาหารในชามกองกันเสียจนเหมือนภูเขาเล็กๆ แล้วเห็นเขาคีบตะเกียบมาอีก จึงรีบร้อนปรามไว้ “ท่านอา ไม่ต้องช่วยข้าคีบแล้ว ท่านดูสิเยอะขนาดนี้ ข้ากินไม่หมดหรอกขอรับ”

ฟังคำพูดนี้ หลิงโม่หานถึงจะสังเกตว่าอาหารในชามตรงหน้านางกองกันเป็นภูเขาเล็กๆ แล้วจริงๆ กระแอมไปเบาๆ อย่างอดไม่ได้ หลับตาลงด้วยความอึดอัดใจอยู่บ้าง ก่อนตัวเองจะกินขึ้นมา

เฟิ่งจิ่วที่เห็นภาพเช่นนี้หรี่ดวงตาลงยิ้ม หันสายตาเล็กน้อย บอกว่า “ท่านอา ท่านคุ้นเคยกับเมืองลิ่วเต้านี้ใช่หรือไม่? ประเดี๋ยวข้าจะไปซื้อพวกวัตถุดิบหลอมอุปกรณ์ ท่านลองพาข้าไปดูหน่อยได้หรือไม่ขอรับ?”

“ได้เลย” เขาเอ่ยพลางพยักหน้า

ดวงตาเธอเป็นประกาย บอกทันทีว่า “งั้นก็ดี พวกเรากินเสร็จค่อยไปนะขอรับ”

เห็นสองตานางแวววาว หลิงโม่หานอดถามไม่ได้ “เจ้าไม่กลัวเจอพวกคนของตำหนักยมราชที่ตามหาเจ้าแล้วรึ?”

“ข้ามีท่านอาอยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ?”

เธอมองเขาทั้งหรี่ตายิ้ม กล่าวว่า “ท่านอา ท่านคงไม่นิ่งดูดายมองข้าโดนจับไปใช่หรือไม่ขอรับ?”

หลิงโม่หานไม่ตอบรับ แต่หลังจากเช็ดๆ มุมปาก ก็บอกว่า “ไปกันเถอะ!” สิ้นสุดน้ำเสียง สาวก้าวเดินไปด้านนอก

เฟิ่งจิ่วลุกขึ้นยืนตาม มองเงาร่างที่สาวเก้าเดินอยู่ด้านหน้า แววตาสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้น ค่อยเร่งฝีเท้าตามไป

หลังมาจ่ายเงินยังชั้นล่าง ภายใต้การนำทางของหลิงโม่หาน ก็มาถึงตึกร้านค้าชั้นดีแห่งหนึ่งที่มีสองหน้าร้าน

เห็นตึกที่มีประมาณสามชั้น รวมถึงประตูหน้าที่ตกแต่งเสียจนดูดีมีระดับ สายตาเธอจับจ้องบนคำสามคำตรงกลาง “หอร้อยทรัพย์? ท่านอา ของที่นี่จะแพงมากหรือไม่? แพงเกินไปข้าซื้อไม่ไหวนะขอรับ!”

หลิงโม่หานที่ได้ยินคำพูดนี้เหลือบมองเธอ จากนั้น ค่อยสาวก้าวเดินเข้าไป “ลองเข้ามาดูเถอะ!”

เฟิ่งจิ่วที่มาด้านในถึงจะพบว่า ของในร้านกระโจมสมบัติอะไรนั่นก่อนหน้านี้เทียบกับหอร้อยทรัพย์นี้แล้ว ช่างเหมือนมดกับช้างเลยจริงๆ แตกต่างกันเกินไปแล้ว

“เจ้าของร้าน กระถางนี้พวกเจ้าขายยังไงรึ?”

เธอถามพลางชี้ไปที่กระถางใบเล็กๆ ด้านในตู้หน้าร้าน เพราะเห็นเครื่องหมายด้านล่างนั้น นี่เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสี่ ซ้ำยังสงสัยอยู่บ้างจริงๆ ว่ากระถางเล็กอุปกรณ์วิญญาณระดับสี่นี้จะขายได้ราคาเท่าไหร่?

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version