№ 319 ไปเยือนด้วยตนเอง!
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้เฒ่าเฟิ่งรีบพูดอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณผู้ดูแลเหยียนมาก ช่างเป็นถ่านร้อนที่ส่งมากลางหิมะจริงๆ! ไม่ว่าลูกชายข้าจะรอดจากเหตุร้ายนี้หรือไม่ วันหน้าข้าจะนำของขวัญไปขอบคุณถึงด้วยตัวเอง”
“ท่านผู้เฒ่ากล่าวหนักไปแล้ว” ผู้ดูแลเหยียนยิ้มๆ ก่อนจะนำยาสองขวดส่งถึงมือเขา บอกว่า “ขวดหนึ่งตรงนี้เป็นยารักษาแผลภายในอีกขวดเป็นยาแก้พิษ ท่านผู้เฒ่ารีบนำไปให้แม่ทัพเฟิ่งทานเถอะ ข้าอยู่นานไม่ได้ต้องขอตัวก่อน”
เขาประสานมือเอ่ยถึงจะหันตัวออกไป
ผู้เฒ่ารีบให้พ่อบ้านส่งเขาออกไป ส่วนตัวเองก็ถือยาไปยังเรือนเฟิ่งเซียว
เมื่อเขาเข้ามาอีกครั้งในห้องเหมือนผ่านการทำความสะอาด กวนสีหลิ่นกับเหลิ่งหวาเปลี่ยนเสื้อคลุมเปื้อนเลือดบนร่างเฟิ่งเซียวบนเตียงให้แล้ว อาจเพราะเหตุที่เลือดคั่งตรงอกถูกปล่อยออกมา แม้ยังสลบอยู่แต่ลมหายใจก็ไม่แผ่วเหมือนก่อนหน้านี้
“แม่หนูเฟิ่ง พ่อหลานเป็นยังไงบ้าง? มี มีอะไรต้องกังวลไหม?” ผู้เฒ่ามายังข้างกายเฟิ่งจิ่วพร้อมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
เฟิ่งจิ่วจิบชาร้อนที่เหลิ่งหวายกเข้ามา หลังถอนหายใจถึงจะบอกว่า “ท่านปู่วางใจเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้ไม่มีอันตราย แต่จะพ้นขีดอันตรายหรือไม่ยังต้องดูว่าคืนนี้จะมีไข้รึเปล่า หากไข้ขึ้นสูงไม่ลดนั่นแหละที่ต้องกังวล”
“งั้นหากไข้ขึ้นสูงจริงๆ จะทำเช่นไร?” ผู้เฒ่าหน้าซีดเล็กน้อย เพียงรู้สึกหวั่นๆ หัวใจขึ้นมาด้วยความกังวล
“คืนนี้หลานจะเฝ้าอยู่ที่นี่” เธอกล่าวเสียงอบอุ่น พูดอย่างปลอบใจ “ท่านปู่ไม่ต้องเป็นห่วง จะไม่เป็นอะไรแน่เจ้าค่ะ”
ได้ยินนางพูดถึงเพียงนี้ แม้ผู้เฒ่าจะกังวลใจก็ไม่พูดอะไรอีก แต่หยิบยาสองขวดนั้นยื่นให้นาง “นี่คือยาที่ผู้ดูแลเหยียนจากตลาดมืดส่งมา ขวดหนึ่งใช้รักษาแผลภายในอีกขวนเป็นยาแก้พิษ ใช้ได้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า “หลานให้ท่านพ่อทานยาแก้พิษกับยาภายในเห้าหนแล้ว ฤทธิ์ยาแรงกว่ายาพวกนี้มาก ตอนนี้ไม่ต้องทานยาอื่นอีก สองขวดนี้ท่านปู่เก็บไว้เถอะเจ้าค่ะ!”
กวนสีหลิ่นข้างๆ เห็นบนตัวนางยังเปื้อนเลือดไม่ได้ทำความสะอาด จึงบอกว่า “เสี่ยวจิ่ว ตรงนี้ให้ข้าเฝ้าก็พอ เจ้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ่าก่อนเถอะ!”
“อืม แม่หนูเฟิ่ง หลานกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเสียหน่อย ตรงนี้ให้พวกเราเฝ้าไว้ก็ได้”
ผู้เฒ่าเห็นนางท่าทางเหนื่อยล้า เอ่ยอย่างสงสาร “หลานได้ยินข่าวก็ต้องรีบกลับมา จากเวิ้งสวนท้อถึงที่นี่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ซ้ำยังต้องช่วยรักษาพ่อ ต้องเหนื่อยแย่แน่ๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยเข้ามาพักผ่อนเถอะ! ที่นี่คืนนี้เกรงว่าจะยังขาดหลานไปไม่ได้”
“เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวหลานจะเข้ามาพักตรงนี้ก็ได้เจ้าค่ะ”
เธอยิ้มน้อยๆ ขณะลุกขึ้นจะเดินออกไปฝีเท้าก็ชะงักลง บอกว่า
“ท่านปู่ เรื่องที่หลานกลับมาอย่าเพิ่งป่าวประกาศไป สักพักหลานค่อยเข้ามาคุยเรื่องที่ท่านพ่อถูกทำร้ายอย่างละเอียดนะเจ้าคะ”
ผู้เฒ่าพยักหน้าบอกว่า “ปู่รู้ สั่งการลงไปแล้ว หลานวางใจได้เลย”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วถึงจะไปยังเรือนตนเอง
ภายในพระราชวัง
“อะไรนะ? เจ้าว่าผู้ดูแลตลาดมืดเข้าไปส่งยาให้เฟิ่งเซียวรึ?”
เมื่อมู่หรงป๋อในท้องพระโรงได้ยินคำพูดนี้ก็พะวงอยู่ในใจ แม้แต่เสียงยังไม่รู้สึกว่าสูงไปบ้าง
มู่หรงอี้เซวียนที่ยืนอยู่กลางท้องพระโรงเห็นแล้วแปลกใจเล็กน้อย มองเสด็จพ่อแวบหนึ่ง พยักหน้าลง
“ลูกถามผู้ดูแลเหยียนคนนั้นแล้ว เขาว่าได้รับความไว้วางใจจากภูตหมอก่อนไปว่าให้เขาดูแลตระกูลเฟิ่งพะยะค่ะ”
มู่หรงป๋อทำจิตใจให้มั่นคงไว้ ถามว่า
“งั้นตอนนี้เฟิ่งเซียวพ้นอันตรายแล้วรึ?”
“เรื่องนี้ลูกไม่ทราบ เพราะเข้าไปด้านในไม่ได้”
ได้ยินเช่นนี้มู่หรงป๋อก็ลุกยืนขึ้นมา ถอนใจเอ่ยว่า
“เห็นทีข้าต้องไปด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นก็ยากจะสงบใจ”
……………………………………….