Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 336

№ 336 อึ้งไปแล้ว!

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเจ็บปวดของเขา สิ่งที่แว่วมาจากรอบๆ คือเสียงสูดหายใจด้วยความเหลือเชื่อ ผู้คนที่มุงดูเบิกตาโตมองภาพนี้อย่างยากจะเชื่อ หากไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาจริงๆ จะอย่างไรก็ไม่มีทางเชื่อ นึกไม่ถึงว่าระดับบรรพชนนักรบผู้ทรงเกียรติคนหนึ่ง…จะถูกกำราบในหนึ่งกระบวนท่าเช่นนี้

“อ๊าก!”

เข่าชายวัยกลางคนถูกเตะไปทีหนึ่ง ขาจึงงอคุกเข่าลงไป ร่างกายโดนกดให้หมอบไปด้านหน้า ส่วนแขนที่ถูกจับดึงลงมาถูกบิดกดไว้บนหลัง เจ็บเสียจนเขาเหงื่อออกท่วม คิดจะขัดขืนยืนขึ้นกลับพบว่าตนทำไม่ได้

คนตระกูลสาขาอึ้งไปแล้ว!

องครักษ์ทั้งแปดก็มึนงง! นี่มันพิสดารไปแล้วจริงๆ!

ฝีมือและพลังเช่นนี้ ใครกล้าบอกว่านางดูแลทั้งจวนตระกูลเฟิ่งไม่ได้? ใครยังกล้าพูดว่าอยากจะช่วยนางดูแลจวน?

หัวใจทุกคนรอบด้านสั่นไหวขึ้นมา คนตระกูลสาขาอกสั่นขวัญแขวน พวกเขาไม่นึกว่าเฟิ่งชิงเกอจะมีฝีมือประหลาดเช่นนี้ สามารถกำราบบรรพชนนักรบได้ด้วยหนึ่งกระบวนท่า กำลังเช่นนี้ หากพวกเขาเอ่ยคำพูดก่อนหน้าออกไปอีกก็ไม่เจียมตัวเกินไปแล้ว

ส่วนหัวใจเหล่าองครักษ์ที่สั่นไหวก็เพราะความตื่นเต้น ตื่นเต้นในความโดดเด่นของฝีมือและพละกำลังของนาง ในสายตาพวกเขามีเพียงคนที่โดดเด่นเช่นนี้ถึงจะคู่ควรเป็นนายท่านพวกเขา!

ท่ามกลางผู้คน ในดวงตาชราภาพที่ขุ่นมัวของชายชราตระกูลสาขามีความตื่นตระหนกตกใจ อาจเพราะคนอื่นมองไม่ออก แต่เขากลับเห็นอย่างเด่นชัดว่านางสามารถเอาชีวิตเขาได้ในชั่วพริบตา แต่นางไม่ได้ทำ แค่บิดหักข้อมือแล้วดึงแขน สำหรับพวกเขาก็ถือว่านางปรานีให้แล้ว

เขาคิดว่าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาล้วนเป็นคนสกุลเฟิ่ง เกรงว่าแค่เรื่องที่วันนี้เข้ามาจะรับช่วงจวนตระกูลเฟิ่ง ก็มากพอให้พวกเขาตายอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว!

นึกถึงตรงนี้ ใจเขาเกิดกลัวขึ้นมา ขณะอกสั่นขวัญแขวนเหงื่อเย็นก็ไหลซึม รีบใช้ไม้เท้าในมือค้ำไว้เลี่ยงไม่ให้ร่างกายโงนเงนล้มลงบนพื้น แต่แม้เป็นเช่นนี้ เขายังคงจับแขนชายวัยกลางคนข้างๆ ที่อึ้งตกใจเหมือนกันไว้ และบอกด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เร็ว รีบพาเขากลับมา พวกเรา พวกเราไปเถอะ!”

ทว่าตอนนี้กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก แต่ละคนต่างยืนมองหญิงงามท่าทางเย็นเยือกอยู่ตรงนั้นอย่างตื่นตะลึง

“ปล่อยข้า! เจ้าปล่อยข้า!”

ชายวัยกลางคนที่ถูกกดไว้ดิ้นรนแข็งขืนพลางแผดเสียงเกรี้ยวกราด แต่ในเวลาต่อมา เห็นเพียงมือตั้งท่าเป็นดาบสับลงท้ายทอยอย่างแรง เขาร้องเสียงอู้อี้ ร่างนอนลงบนพื้นและสลบไป

เฟิ่งจิ่วมองคนตระกูลสาขาด้วยท่าทีเฉยเมยเย็นชา เสียงเย็นเยียบเปล่งออกจากปากอย่างดุดันและเป็นการเตือน “นี่เป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้าย พวกท่านในฐานะลูกหลานสายรองของตระกูลเฟิ่งก็ควรมีท่าทางเช่นคนสายรอง หากเกิดเรื่องเช่นตอนนี้ขึ้นอีก เช่นนั้นข้าไม่ถือสาที่จะให้พวกท่านตระกูลสาขาหายไปจากลำดับเครือญาติของตระกูลเฟิ่ง!”

ได้ยินเสียงกล่าวเตือนที่ดุร้ายและเย็นเยียบนั้นดังมา คนตระกูลสาขาเพียงรู้สึกใจเต้น หัวใจพลันหล่นวูบ ไม่มีใครเคลือบแคลงถึงความจริงแท้ในคำพูดนี้ เพราะดูจากวิธีการลงมือก็รู้แล้วว่านางไม่ใช่คนที่จะสนใจความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรนั่นแน่นอน

หากมีครั้งต่อไปอีกจริง พวกเขาเชื่อว่านางจะทำอย่างที่พูดวันนี้ ทำให้ตระกูลสาขาหายไปจากเครือญาติวงศ์วานของตระกูลเฟิ่งแน่!

ชายชราสูดหายใจเข้าลึก ข่มความกลัวในใจพลางมองเฟิ่งจิ่วอย่างลึกล้ำ “ข้ารู้แล้ว ข้าจะดูแลคนตระกูลสาขาให้ดี เรื่องเช่นวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วก็ยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม “พ่อบ้าน ส่งพวกเขาออกไปด้วย”

……………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version