№ 337 ภาพหมือนภูตหมอ
“ขอรับ” พ่อบ้านจัดการอารมณ์แล้วขานรับด้วยความเคารพ จากนั้นมาทางด้านคนตระกูลสาขา พาพวกเขาออกไป
เห็นพวกเขาเดินคอตกจากไป ท่าทางไม่กล้าแม้แต่จะก่อเรื่อง หลัวอวี่ก็หัวเราะชอบใจ ก้าวยาวเดินไปทางเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าเอาอกเอาใจ “นายท่าน ตอนนี้ข้าเพิ่งรู้ว่าที่แท้ท่านทำกับข้าเช่นนั้นถือว่าดีแล้ว”
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วเบาๆ พลางชำเลืองมองเขา เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม สายตามองผ่านคนอื่นๆ ด้านนั้น ก่อนจะเดินออกไปจากลานฝึกยุทธ์
เห็นนางไม่พูดอะไรด้วย หลัวอวี่ก็ยังหน้าหนาติดตามไป
ภายในลานฝึกยุทธ์เงียบลงหลังจากพวกเขาออกไปแล้ว เหลือเพียงองครักษ์อีกเจ็ดคนที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น
“พวกเจ้าเห็นว่ายังไง ด้วยฝีมือและกำลังคุณหนูใหญ่ มีคุณสมบัติพอจะเป็นนายท่านพวกเราหรือไม่?” ฟั่นหลินยิ้มน้อยๆ พลางมองหลายคนข้างกาย
ทุกคนต่างครุ่นคิด หนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่เหนือกว่าที่พวกเราคาดไว้มากจริงๆ หากนางเป็นเช่นนี้ จะดูแลองครักษ์ประจำตระกูลก็ไม่ใช่ปัญหา”
“ถูกต้อง รูปแบบการจัดการของนางเฉียบขาดว่องไวยิ่งนัก ควรโหดก็โหด ความห้าวหาญเช่นนี้คนทั่วไปเทียบไม่ติดเลย”
“อืม ข้าก็คิดเช่นนั้น ครั้งก่อนไม่มีโอกาสคลุกคลีกับนาง แต่ครั้งนี้มีเรื่องราวมากมายให้เห็นกับตา ข้าคิดว่านางเหมือนพยัคฆ์หลับลึก แค่ไม่แสดงฝีมือเท่านั้น พอแสดงฝีมือก็น่าสะพรึงนัก!”
“แต่พวกเรากลับมานานเพียงนี้แล้ว นางกลับไม่เคยกำชับหรือสั่งการอะไรเลย อย่างกับพวกเราเป็นอากาศธาตุ คงไม่ได้ไม่พอใจพวกเราหรอกกระมัง?” ฉีคังถามอย่างเป็นกังวลอยู่บ้าง
เวลานี้ เขากำลังคิดว่านางรู้เรื่องวันนั้นแล้วหรือไม่
“คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ ไปกันเถอะ!”
พวกเขาส่งสายตาให้กันแล้วเดินกลับไป ในใจต่างรู้ว่าอาจไม่ใช่พวกเขาที่สำรวจว่านางมีคุณสมบัติพอจะเป็นนายหรือไม่ แต่เป็นนางที่กำลังสำรวจว่าพวกเขามีคุณสมบัติพอจะเป็นข้ารับใช้หรือเปล่า
…..
ในอีกหนึ่งแคว้นที่ห่างไกลออกไป คนชุดดำผู้หนึ่งมายังห้องของฮุยหลาง รายงานข่าวคราวแล้วจึงถอยออกไปเงียบๆ
อิ่งอีที่นั่งดื่มชาอยู่ข้างโต๊ะชำเลืองมองแวบหนึ่ง ถามอย่างอยากรู้เล็กน้อย “ข่าวที่นายท่านให้ไปตรวจสอบรึ?”
“ใช่ วันนั้นภูตหมอจากไป นายท่านมีกิจธุระรั้งไว้จึงไปหาเขาไม่ได้ไม่ใช่หรือ? หลังจากกลับมาจึงให้ข้าไปตรวจหาเบาะแสเขาเสียหน่อย ช่วงนี้ถึงเพิ่งจะมีข่าวคราวเข้ามา” ฮุยหลางขานรับพลางเปิดข้อมูลออกจะอ่านเสียหน่อย
“หาตัวในแคว้นเหินเวหาไม่เจอ นายท่านยังเตือนอีกว่าให้ข้าส่งคนไปแอบสืบที่แคว้นแสงสุริยัน นี่อย่างไร ถึงตอนนี้เพิ่งจะมีข่าวมาจากทางนั้น”
“แคว้นเล็กระดับเก้า? ภูตหมอจะไปที่นั่นทำไมกัน” อิ่งอีขมวดคิ้ว ในสายตาเขา อย่างไรภูตหมอก็ไม่น่าใช่คนจากแคว้นเล็กๆ ระดับเก้า ถึงอย่างไรในแคว้นเล็กระดับเก้าก็มีนักปรุงยาเช่นเขาไม่ได้อยู่แล้ว
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง นายท่านไม่ได้พูดไว้ แค่บอกให้ข้าส่งคนไปตรวจสอบที่แคว้นแสงสุริยัน” พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยิบเอกสารข้อมูลในถุงออกมา
ด้านบนสุดเป็นภาพเหมือน คนในรูปนั้นสวมชุดสีแดงผ่าเผย รูปโฉมงามเป็นเลิศ ดวงตาคู่นั้นที่แฝงความเจ้าเล่ห์และหลักแหลมราวกับกำลังจ้องมองพวกเขาผ่านแผ่นกระดาษ ประหนึ่งกำลังวางแผนร้ายอะไรอยู่ มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยดูชั่วร้ายอยู่หลายส่วน ช่างเหมือนกับท่าทางปีศาจร้ายกาจอย่างภูตหมอคนนั้น
ฮุยหลางถือภาพหเหมือนพลางส่ายหน้า ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “เจ้าดูสิ นายท่านหลงใหลภูตหมอเข้ากระดูกดำ! ให้ข้าวาดข้ายังวาดเขาออกมาให้เหมือนมีชีวิตจริงเช่นนี้ไม่ได้เลย แต่นายท่านกลับวาดบุคลิกและเสน่ห์ของเขาออกมาได้ หากบอกว่าในใจนายท่านไม่มีเขา ข้าก็ไม่เชื่อหรอก”
……………………………………