Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 366

№ 366 ยา!

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนนั้นรับของที่โยนมาไว้ ทว่าเมื่อมองไปอีกครั้งกลับเห็นนางรับฝ่ามือนั้นเสียดื้อๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่กำลังกังวลใจก็เห็นฝ่ามือที่ร้ายแรงมากพอโจมตีนางถอยไปไกลสิบเมตรกระเทือนเสียจนเสื้อผ้าชุดโทรมบนร่างขาดกระจุย เพียงเห็นสีขาวเงินที่ปรากฏออกมาแวววับจับตาพวกเขาภายใต้ค่ำคืน

“ซี๊ด! นั่นเสื้อเกราะป้องกันนี่!”

พวกเขาสูดหายใจเล็กน้อย ไม่นึกว่านางจะมีของล้ำค่าเช่นนี้ด้วย หนำซ้ำหลังจากรับฝ่ามือของหัวหน้าระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดยังไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เห็นเสื้อเกราะป้องกันที่น่าอัศจรรย์ตัวนั้น!

ยามนี้ทั้งสี่คนยังสังเกตเห็นว่าหลังจากเสื้อผ้าชุดเก่าๆ ธรรมดาๆ ตัวนั้นขาดร่วงโรยทรวดทรงสาวน้อยที่สวมเสื้อคลุมสีขาวเงินก็ปรากฏทำให้คนยากจะละสายตา

แม้บนหน้านางจะทาขี้เถ้าไว้ทำให้มองหน้าไม่ชัดเจน แต่ดวงตาที่ประกายแวววาวคู่นั้นสว่างไสวราวดวงดารา สิ่งที่ออกมาจากดวงตาคือกลิ่นอายที่มั่นใจและเยือกเย็น ท่าตัวตั้งตรงห่อหุ้มอยู่ภายใต้เสื้อคลุมสีขาวเงินไม่ได้ดูผอมเล็กมากนัก แต่ในความสูงโปร่งนั้นมีความบอบบางกลับยังมีกลิ่นอายสูงศักดิ์เช่นผู้เหนือกว่ากระจายอยู่

ดูท่านางคงมีที่มาไม่ธรรมดาเป็นแน่! ก็ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ใช่คนแคว้นเล็กๆ ระดับเก้า

คิดถึงตรงนี้พวกเขาก็คืนสติอย่างรวดเร็ว นึกถึงก่อนหน้านี้ที่หลังดื่มของในขวนจากนางไปพลังวิญญาณบนร่างก็ปะทุขึ้นมา จิตใจหวั่นไหวเล็กน้อย มองขวดในมือแล้วเปิดออกดื่มลงไปโดยไม่ลังเลสักนิด

พอดื่มเข้าไปด้วยประสบการณ์พวกเขาจึงรู้รสว่านั่นเป็นยา! หนำซ้ำยังเป็นยาที่บริสุทธิ์ยิ่งนัก! เมื่อรู้สึกว่ายานั้นไหลตามลำคอเข้าสู่ทรวงอกไปถึงจุดตันเถียน เพียงรู้สึกว่าบริเวณที่ยาไหลผ่านมีกระแสลมแปลกๆ ประดังขึ้นในช่องท้อง จากนั้นกลิ่นอายพลังวิญญาณทั่วร่างก็ระเบิดออกมาและพุงไปตามเส้นโลหิตด้วยความรวดเร็ว

ช่างเป็นยาที่ร้ายกาจนัก!

พวกเขามองหน้ากันอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่ายาขวดเล็กๆ จะมีฤทธิ์ร้ายกาจน่าอัศจรรย์กว่ายาอายุวัฒนะเสียอีก! ของแบบนี้แม้ในชีวิตพวกเขายังเห็นได้น้อยยิ่งนัก!

ตอนนี้ไม่ต้องสนใจคิดอะไรมาก เพราะได้ยินเสียงตู้มดังสนั่นขึ้นกลางอากาศ ขณะที่มังกรยักษ์ทั้งสองตัวแผ่กระแสลมกวาดออกไปกลางเวหาสองคนด้านล่างก็กำลังต่อสู้กัน เห็นได้ชัดว่าสาวน้อยที่สวมชุดคลุมสีเงินค่อยๆ เสียเปรียบเพราะกำลังที่สู้ศัตรูไม่ได้

เห็นเช่นนี้พวกเขาจึงเรียกพลังกระโจนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะล้อมหัวหน้าคนนั้นไว้สี่ด้าน ขณะเดียวกันก็ตะโกนบอกเฟิ่งจิ่วที่กลิ่นอายปั่นป่วนและลำบากเล็กน้อยว่า “นายท่านถอยออกไปก่อนขอรับ! พวกเราจะจัดการเขาเอง!”

ได้ยินเช่นนี้ หลังหลบการโจมตีของชายชราคนนั้นเฟิ่งจิ่วถอยห่างอย่างว่องไว ด้วยกำลังยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณทนอยู่ในเงื้อมมือผู้แข็งแกร่งระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดได้นานถึงเพียงนี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หากสู้ต่อไปกำลังกายไม่เพียงตามไม่ทันแม้แต่กลิ่นอายพลังวิญญาณก็จะหมดเกลี้ยงไปด้วย

เธอที่ถอยออกอย่างว่องไวหอบหายใจ หยิบยาขวดหนึ่งจากห้วงมิติมาดื่ม สายตามองผ่านชายชราที่กำลังถูกผู้ฝึกตนทั้งสี่ล้อมโจมตีแล้วหันไปจับจ้องยังบริเวณดวงตาค่ายกลตรงกลาง

“หงส์ไฟน้อย พลังประกายสีเลือดบนร่างหัวหน้าคนนั้นคงมาจากค่ายกลนี้สินะ? หากทำลายค่ายกลวิญญาณโลหิตนี้แม้เขายังสู้ต่อกลิ่นอายบนร่างก็จะหมดลงใช่หรือไม่?”

เธอใช้ดวงจิตเอ่ยถาม และตัดสินใจว่าจะทำลายค่ายกลวิญญาณโลหิตประหลาดนี่ก่อนค่อยว่ากัน

หงส์ไฟน้อยที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในห้วงมิติพยักหน้า น้ำเสียงเด็กน้อยเปล่งไปอย่างมีความนับถือ “ถูกต้อง แต่ตรงดวงตาค่ายกลมีดวงไฟวิญญาณรอบๆ คุ้มกันอยู่ หนำซ้ำหัวกะโหลกที่วางเรียงไว้ยังมีพลังโจมตี อยากจะเข้าไปใกล้เจ้าต้องทำลายสิ่งเหล่านั้นเสียก่อน มิเช่นนั้นจะทำลายค่ายกลนี้ไม่ได้”

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version