№ 379 เฟิ่งจิ่วกลับเมือง!
ชายชราทั้งสองถูกสั่งสอนต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ก็อับอายเสียจนโกรธเคืองอยู่บ้างกลับยังเก็บไว้ไม่ปล่อยออกมา พวกเขาเพียงกวาดมององครักษ์พวกนั้น และสะบัดแขนเสื้อจากไปทันทีโดยไม่คารวะมู่หรงอี้เซวียนอีก
ขนาดมู่หรงป๋อยังไม่ใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับพวกเขา แต่มู่หรงอี้เซวียนกลับมาสั่งสอนพวกเขาโดยไม่ไว้หน้ากันเลย บอกว่าเห็นแก่หน้าเสด็จพ่อเขาอะไรกัน หากเห็นแก่หน้าเสด็จพ่อจริงคงไม่ปกป้องจวนตระกูลเฟิ่งหรอก!
มู่หรงอี้เซวียนมองพวกเขาสองคนจากไปหัวใจกลับหนักอึ้งเล็กน้อยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นานนักถึงจะมองไปยังเหล่าองครักษ์ อยากจะพูดอะไรหน่อยแต่สุดท้ายก็แค่มองจวนตระกูลเฟิ่งแล้วเดินไปโดยไม่พูดอะไร
เหล่าองครักษ์เห็นเขาหันตัวเดินไปก็มองหน้ากันโดยฉับพลัน ก่อนจะกลับเข้ามาแล้วปิดประตูลงอีกครั้งเพื่อหลบซ่อนจากการสอดแนมและความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนภายนอก…
เช้าตรู่สองวันต่อมา ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างรอบด้านยังมืดสลัวๆ เรือเหาะร่อนลงจอดตรงด้านนอกเมืองอวิ๋นเยวี่ยอย่างเงียบเชียบโดยไม่ทำให้แตกตื่นและไม่ดึงดูดความสนใจผู้คน
หลังพวกเขาลงมาเฟิ่งจิ่วก็เก็บเรือเหาะไป จากนั้นจึงบอกว่า “หลัวอวี่ เจ้ากลับจวนก่อนเถอะ ข้าคงกลับถึงบ้านก่อนค่ำ”
“นายท่านจะไม่กลับไปตอนนี้หรือขอรับ?” หลัวอวี่ตกใจเล็กน้อย มาถึงเมืองอวิ๋นเยวี่ยแล้วไม่กลับจวนนางจะไปไหนอีก?
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา “ข้าไม่บอกเจ้าก็ไม่ต้องถาม สิ่งที่ควรรู้จะให้เจ้ารู้เอง”
ได้ยินเช่นนี้เขาก็ยิ้มหน้าเจื่อน ตอบรับว่า “ขอรับ ข้าจะกลับจวนไปก่อน” พูดจบถึงจะเดินหน้าไปก่อน ทว่าฟ้ายังไม่สว่างประตูเมืองจึงยังไม่เปิด
เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจเฟิ่งจิ่วจึงต้องเปลี่ยนสวมเสื้อผ้าชุดโทรมก่อนเข้าเมือง รอจนฟ้าสว่างเมื่อประตูเมืองเปิดถึงจะไปยังเวิ้งสวนท้อพร้อมกับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่…
หลัวอวี่ที่กลับถึงเมืองเข้ามาก็รู้สึกผิดปกติ พอพวกคนที่ทำการค้าเล็กๆ ในเมืองหรือขอทานที่หมอบตรงมุมถนนเห็นเขาต่างก็เผยรอยยิ้มออกมา โดยเฉพาะเมื่อผ่านบริเวณร้านน้ำชา หลังเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยถึงจะรู้ว่าตัวเองไม่ได้จำคนพวกนั้นผิดไป
เขาที่เดิมคิดจะตรงไปยังจวนตระกูลเฟิ่งเลี้ยวฝีเท้ามานั่งลงตรงร้านน้ำชา เรียกเสียงดัง “เอาน้ำชามา!”
“มาแล้วขอรับ”
คนที่กำลังวุ่นอยู่กับการต้มชาขานรับแล้วยกกาน้ำชาเดินเข้ามา เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ตกใจเล็กน้อยสักพัก เห็นท้องฟ้ายังสว่างคนสัญจรบนถนนยังมีไม่มากจึงเดินเข้าไปทั้งรอยยิ้ม กดเสียงเอ่ยถามว่า “หัวหน้า ทำไมมาอยู่ที่นี่ขอรับ?”
“คำพูดนี้ข้าควรจะถามเจ้า ทำไมมาอยู่ที่นี่กันหมด? ทำไมเข้ามาถึงมีพี่น้องเราไม่น้อยแอบซุ่มอยู่ในเมือง? เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่รึ?” เขาแค่ติดตามนายท่านออกไปข้างนอก ทำไมกลับมากลับเห็นกององครักษ์ถูกเรียกตัวกลับ? ซ้ำยังปลอมตัวเป็นชาวบ้านอยู่ในเมือง คิดจะทำอะไรกัน?
“พวกเราได้รับคำสั่งเข้ามาดังนั้นพี่น้องเราจึงต่างอยู่ในเมืองนี้ หัวหน้าเพิ่งกลับมาหรือ? ได้ยินว่าติดตามคุณหนูใหญ่ออกไป เรื่องที่ช่วงนี้จวนตระกูลเฟิ่งเกิดเรื่องท่านอาจจะยังไม่รู้กระมัง?”
หลัวอวี่ที่ยกน้ำชาขึ้นดื่มได้ยินคำพูดนี้จู่ๆ ในใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี ถามว่า “แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“พวกเราก็ไม่รู้สถานการณ์ชัดเจน แค่รู้ว่าท่านผู้เฒ่าโดนจับตัวไปหลายวันแล้วขอรับ” ชายคนนั้นกดเสียงพูดเบาๆ ก็เห็นว่าหัวหน้าที่กำลังดื่มน้ำชาท่าทางเปลี่ยนไป วางถ้วยชาลงบนโต๊ะลุกขึ้นมาก้าวยาวไปยังจวนตระกูลเฟิ่งทันที
เห็นท่าทางเขาก็อึ้งไปพักหนึ่ง รีบร้อนตะโกนว่า “ลูกค้า! ท่านยังไม่ได้จ่ายเงินเลย!”
………………………………….