Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 382

№ 382 รับรู้!

ตอนนี้ภายในเวิ้งสวนท้อ เฟิ่งจิ่วให้ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่คนพักอยู่ที่นี่ก่อน ส่วนตัวเองก็มายังเรือนที่วางไม้วิญญาณไว้

เรือนนั้นอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกล แสงแดดค่อนข้างน้อยและออกจะมืดครึ้ม ประกอบกับตั้งแต่ครอบครัวพวกเขาอาศัยไม้วิญญาณเพื่อฝึกบำเพ็ญอยู่ภายในเรือนตรงนี้จึงยิ่งอุดมไปด้วยกลิ่นอายหนาวเย็น

ใต้ร่มไม้บริเวณที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่อง มีสองสามร่างค่อยๆ ปรากฏ เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วมาถึงบนใบหน้าล้วนมีท่าทีระรื่นเอ่อล้น ต่างพากันคารวะนางและขานเรียกด้วยความเคารพ

“นายท่าน”

วิญญาณทั้งสี่ตนพลังหยินมั่นคงเพราะฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ประกอบกับตำราวิญญาณผู้ฝึกตนที่เฟิ่งจิ่วให้พวกเขาฝึกบำเพ็ญ ตอนนี้แม้ไม่ใช่กลางคืนก็สามารถปรากฏตัวได้

สายตาเฟิ่งจิ่วมองผ่านร่างพวกเขา กล่าวยิ้มๆ ว่า “ดูท่าความเร็วในการฝึกบำเพ็ญของพวกท่าจะไม่เลวเลย ถึงบำเพ็ญถึงขั้นแรกของการควบวิญญาณสร้างร่างได้รวดเร็วเพียงนี้”

“ล้วนต้องขอบคุณนายท่านอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะตำราที่นายท่านให้พวกเราไว้ฝึกฝนเป็นของล้ำค่าวิเศษสำหรับวิญญาณผู้ฝึกตน เกรงว่าพวกเราคงไม่มีทางควบวิญญาณสร้างร่างได้ในเวลาสั้นๆ เช่นนี้” ชายชราเอ่ยปากบอก บนใบหน้ามีรอยยิ้มอิ่มเอมเอ่อล้น

พอสามารถควบวิญญาณสร้างร่างพวกเขาก็ปรากฏตัวตอนกลางวันและเดินไปมาต่อหน้าผู้คนด้วยร่างคนเหมือนมนุษย์ที่ยังมีชีวิตได้ สำหรับพวกเขาแล้วเดิมทีนี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจนึกภาพไว้

“ฝึกบำเพ็ญสำเร็จผลเป็นเรื่องดี” เธอพยักหน้าเดินมานั่งลงข้างโต๊ะ พร้อมถามพวกเขาถึงเรื่องราวของที่นี่ช่วงนี้

“นายท่าน พวกเราอยู่ที่นี่ทุกอย่างปกติดี ต่อให้มีผู้ฝึกตนมาก็จะไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเรา แต่ว่า…” น้ำเสียงชายชราชะงักเล็กน้อย เอ่ยว่า “ชายชราที่กวาดพื้นอยู่ในเวิ้งสวนท้อคนนั้นกลับไม่ธรรมดาเลยขอรับ”

“หืม?” เธอเลิกคิ้วขึ้น “ว่ามาซิ”

“นายท่านบอกว่าพวกเราสามารถไปมาในเวิ้งสวนท้อได้ตามใจชอบ คืนวันนั้นพวกเราออกไปเดินวนรอบๆ จึงพบกับชายชราคนนั้นพอดี ตอนนั้นเขาเกือบจะทำร้ายพวกเรา ยังดีที่พวกเราบอกว่านายท่านอนุญาตให้ฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่ เขาถึงจะสะบัดแขนเสื้อจากไป แต่บอกไว้ว่าอย่าได้รบกวนคนที่เข้ามาเวิ้งสวนท้อขอรับ”

ได้ยินเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็หัวเราะ ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาครั้งแรกก็เห็นว่าชายชราคนนั้นไม่ธรรมดา กลิ่นอายบนร่างเขาเก็บไว้เสียจนสะอาดหมดจด แม้ไม่รู้ว่าเขาฝึกบำเพ็ญสูงแค่ไหนกันแน่ นานถึงเพียงนี้แล้วยังเห็นสงบเงียบไม่ก่อเรื่องมาตลอดจึงไม่ไปสนใจและปล่อยเขากวาดพื้นอยู่ตรงนั้นต่อไป

“พวกเจ้าฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ! หยางหยางสบายดี ท่านพ่อข้าเชิญคนมาสอนเขียนอ่านหนังสือ ซ้ำเขายังสอนพวกการฝึกวิชาเบื้องต้นให้ด้วย รอวรยุทธ์พวกเจ้าสูงอีกหน่อยเมื่อเดินเหินตามใจชอบโดยไม่กลัวแสงแดดได้ถึงเวลานั้นค่อยไปหาเขาที่จวนตระกูลเฟิ่ง”

ได้ยินคำพูดนี้พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยความสุขใจ บอกเฟิ่งจิ่วว่า “ขอบคุณนายท่านมากที่เลี้ยงดูหยางหยาง พวกเราจะขยันฝึกบำเพ็ญอย่างแน่นอน”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้าถึงจะลุกขึ้นเดินออกไป เพิ่งเดินออกจากเรือนก็เห็นชายชราที่สวมชุดสีเทาถือไม้กวาดยืนอยู่ไม่ไกล เห็นเช่นนี้รอยยิ้มตรงริมฝีปากเธอก็ลึกขึ้นเล็กน้อยแล้วเคลื่อนก้าวเดินเข้าไป

“มีธุระอะไรรึ?”

เธอหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าเขาพลางถามไป ในใจอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้างว่าเขาเป็นใคร? ทำไมถึงเต็มใจเป็นคนกวาดพื้นอยู่ที่นี่เงียบๆ?

ชายชรามองนาง จากนั้นจึงหรี่ตาลงบอกว่า “แม่นางเพิ่งกลับมา คงไม่รู้ว่าช่วงนี้คนกำลังบอกกันว่าผู้เฒ่าตระกูลเฟิ่งหายตัวไป”

ได้ยินเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version