№ 53 ปกป้องด้วยชีวิต!
ขณะที่ได้ยินเสียง สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปน้อยๆ เธอโผตัวไปตามทิศทางเสียงทันที ทว่าเมื่อมาถึงตรงนั้น พอเห็นภาพตรงหน้า เธอก็กลับนิ่งอึ้งไป
เธอเห็นเพียงชายหนุ่มผู้มีเลือดท่วมตัวกำลังต่อสู้กับเสือทั้งมือเปล่า เสื้อบนตัวถูกกรงเล็บฉีกจนขาดวิ่น รอยขีดข่วนแต่ละรอยช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองยิ่ง…
และบริเวณรอบๆ ยังมีศพของหมาป่าสีเทาอีกหลายสิบตัว…
ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึง ที่เขาสามารถฆ่าหมาป่าสีเทาสิบกว่าตัวและต่อกรกับเสือได้ด้วยตัวคนเดียว ก็เห็นเขากำหมัดขึ้น กลิ่นอายพลังเร้นลับกระจายตัวขึ้นมาบนหมัดเขา ก่อนจะชกไปที่เสือตัวหนักนับห้าสิบกิโลฯอย่างแรง จนมันลอยออกไปเสียงดังปัง
“กรร!”
เสือตัวนั้นร้องคร่ำครวญ มันล้มลงกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบอย่างรุนแรง ถึงขนาดได้ยินเสียงหัวเสือถูกกระแทกดังแกร๊ก
“น้องชาย!”
กวนสีหลิ่นหันกลับมาร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดบนใบหน้า แล้วเช็ดลงบนตัว ก่อนจะวิ่งเข้าไปอย่างตื่นเต้นดีใจ “น้องชาย ข้านึกว่าเจ้ามีเรื่อง… ระวัง!”
เขายังพูดไม่ทันจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ในขณะที่ร้องอย่างตกใจ ทั้งร่างเขากระโจนเข้ามา สองมือเขาออกเอื้อมใช้แรงผลักเธอไป
ความเร็วอันว่องไว ทำให้เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีรู้สึกถึงอันตรายจากด้านหลังจนต้องหันกลับไปไม่อาจหลบได้ทัน จึงถูกเขาผลักล้มลงไปบนพื้น
“กรร!”
“อ๊าก!”
เสียงเสือร้ายคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงโอดครวญของกวนสีหลิ่นที่สูดหายใจ “น้องชาย รีบ รีบหนีไป…”
เหตุไม่คาดฝันที่เกิดอย่างกะทันหัน ทำให้ทั้งตัวเฟิ่งจิ่วถึงกับป้ำเป๋อ พอเห็นกวนสีหลิ่นถูกเสือตัวนั้นกัดแขนไว้ครึ่งหนึ่งจนเลือดไหลอาบโชก ดวงตาเธอก็แดงก่ำ จึงผุดลุกขึ้นดึงมีสั่นพุ่งออกไปในทันที
“เจ้าสัตว์ร้ายบ้าเอ๊ย!”
เธอเข้าไปดึงขนเสือร้ายไว้ แล้วใช้มีดสั้นในมือแทงตรงบริเวณคอของมันอย่างโหดเหี้ยม
“กรร!”
เสือร้ายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แต่คนที่โดนคาบอยู่ในปากเสือกลับยังถูกลากไว้ไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งมีดสั้นของเฟิ่งจิ่วแทงเข้าไปหนักๆ ตรงคอมันอีกครั้งอย่างดุร้ายรุนแรง เสือตัวนั้นถึงจะล้มลงนอนโครมบนพื้น พอเห็นแขนที่โชกเลือดของเขา และยังไหล่ขวาที่ลู่ลงอย่างหมดแรง ใจก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อย
บาดแผลเช่นนี้…แขนของเขา…
“น้อง น้องชาย เจ้า เจ้าไม่ได้บาด บาดเจ็บรึ?” เขาถามอย่างเป็นห่วง เสียงเขาอ่อนแรงน้อยๆ
เมื่อได้ยินคำพูดเขา หัวใจเธอก็บีบรัดเข้าหากันแน่นหนา จนเจ็บปวดขึ้นในใจ เบ้าตาเห่อร้อนนิดๆ เธอทำได้เพียงหยิบยาทาแผลสำหรับหยุดเลือดออกมาโปรยลงบนบาดแผล ก่อนจะว่าเขาเสียงดัง “เจ้าไม่ชอบที่ชีวิตมันยืนยาวเกินไปรึไง? ใครใช้ให้เจ้ามาช่วยข้า? เดิมทีข้าก็หลบได้อยู่แล้ว เจ้าจะผลักข้าทำไม?”
แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครมาขวางหน้าเธออย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้ ทว่าเขา เจ้ายักษ์โง่เง่าเต่าตุ่นนี่กลับทำแบบนี้ซะอย่างงั้น
ช่างเป็นคนที่โง่เขลาเสียจริง! โง่จนเหลือทนเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจเฉยชาราวน้ำแข็งของเธอกลับสั่นคลอนไปบางส่วน ความรู้สึกไม่คุ้นเคยทำให้หัวใจเธอมีรสเปรี้ยวฝาดๆ ขึ้นมาพักหนึ่ง รอบดวงตาเห่อร้อนน้อยๆ เหมือนถูกชั้นไอน้ำทำให้พร่ามัวจนมองหน้าเขาไม่ค่อยชัดเจนอยู่นิดหน่อย
“ขอ ขอโทษ ข้า ข้าร้อนรนจน จนลืมตัว”
เขายกรอยยิ้มขึ้นอย่างซื่อๆ แต่เพราะบาดแผลบนร่างที่สาหัสเกินไป อีกทั้งสีหน้าที่ซีดเผือดเกินทน ประกอบกับเลือดที่ท่วมร่าง ทั่วทั้งตัวเขาจึงดูแล้วเหมือนจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อ
“น้อง น้องชาย เจ้าอย่าร้องไห้ ข้า ข้าไม่เป็นไร ข้า ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย อยาก อยากจะนอนหลับสักพัก…”
น้ำเสียงเขาค่อยๆ อ่อนเปลี้ยลง และตัวเขาก็หมดสติจนสลบไป…
…………………………………….