№ 662 เฟิ่งจิ่วบาดเจ็บหนัก
“เหอะๆ เป็นข้าไม่ได้หรือ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มเจื่อนๆ เห็นเยี่ยจิงตั้งท่าป้องกันตัวราวกับเจอหมาป่าก็เกาหัว ยิ้มเอ่ยอย่างเขินอาย “บังเอิญจริงๆ! เจ้าบาดเจ็บหรือ? ข้าจะช่วยเจ้าพันแผลแล้วกัน!”
“จะ เจ้าอย่าเข้ามานะ!” เยี่ยจิงมีสีหน้าซีดเผือด ระหว่างที่เท้าก้าวถอยหลังอย่างซวนเซ ข้อเท้ากลับบิดจนทรุดกลับไปนั่งบนพื้น
“อ๊ะ!” นางร้องเสียงเบาแล้วสูดลมหายใจ มือหนึ่งจับไปตรงข้อเท้า เพียงรู้สึกเจ็บเสียจนเหงื่อออก
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ส่ายหน้าทันควัน “ดูเจ้าสิ บาดเจ็บหรือเปล่า? ข้าไม่ทำอะไรหรอก เจ้าจะเครียดอะไรเล่า?” เธอเดินเข้าไปนั่งย่อตรงหน้านางท่ามกลางสายตาระแวดระวังและตื่นตระหนก ยื่นมือไปจะดึงชายกระโปรงนางขึ้นเล็กน้อย ก็เห็นนางพลันหดตัวถอยหลังไป
“จะ เจ้าจะทำอะไร!”
เฟิ่งจิ่วทำหน้าใสซื่อ กางสองแขนออกพลางบอกว่า “ข้าแค่จะดูแผลเจ้าเสียหน่อย! กระโปรงเจ้าบังไว้มองไม่เห็น ต้องเลิกขึ้นนิดนึง”
“จะ เจ้าอย่าเข้ามา…” นึกถึงว่าที่นี่ไม่มีคนอื่น และหนุ่มน้อยคนนี้ยังเคยมีเรื่องมาก่อน สีหน้านางขาวซีด อยากประคองตัวลุกยืนขึ้น แต่พอขาอีกข้างออกแรงก็ทรุดลงไปอีก
เฟิ่งจิ่วนั่งย่ออยู่ตรงนั้นมองนางดิ้นไปดิ้นมา แล้วลูบๆ หน้าตัวเองทันที แอบคิดว่า ‘หรือว่าเธอหน้าตาลามก?’
“อ๊ะ!” เยี่ยจิงล้มลงไปอีกครั้ง เหมือนจะทำให้แผลบนข้อเท้านั้นยิ่งแพลงหนักขึ้น หน้าผากจึงมีเหงื่อไหลออกมา
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วถอนหายใจเบาๆ ส่ายหน้าเดินเข้าไปจับขานางไว้ ก่อนจะถอดรองเท้าออกให้
“เจ้าทำอะไรน่ะ! เจ้าคนบ้ากาม! ปล่อยข้านะ! ปล่อย!” เยี่ยจิงร้องอย่างตกใจ ดิ้นรนต่อสู้พลางตบตีหนุ่มน้อยคนนั้นที่ถอดรองเท้านางออก ทั้งอายทั้งโกรธทั้งตกใจ
ขาหญิงสาวจะให้ผู้ชายเห็นได้อย่างไร? เด็กหนุ่มคนนี้ช่างหื่นกามจริงๆ!
เฟิ่งจิ่วเห็นข้อเท้านางบวมหนัก ซ้ำยังเห็นนางดิ้นต่อสู้ไม่หยุด จึงหันหน้าไปกวักมือเรียกหมีดำตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างกันมา “เสี่ยวเฮย มา เข้ามาช่วยกดนางไว้ที อย่าให้นางวุ่นวาย”
“กรร!”
หมีดำตัวใหญ่ที่สูงประมาณสองสามเมตรคำรามเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาอย่างว่าง่ายทีละก้าวๆ สองอุ้งมือใหญ่โตกดเยี่ยจิงลงบนพื้นทันทีไม่ให้นางขยับ
“เบาหน่อยๆ นี่สาวงามนะ อย่าหนักมือจนทำให้นางบาดเจ็บสิ”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยปากกล่าวเตือน ไม่มีเจตนาอื่น แค่คิดว่าเยี่ยจิงเป็นสาวงามอ้อนแอ้นน่ารัก เสี่ยวเฮยจะได้ไม่มือหนักกดแรงเกินไปจนนางบาดเจ็บ ทว่าคำเตือนนี้ได้ยินถึงหูคนอื่นก็ไม่ใช่ความหมายเช่นนั้นแล้ว
“มะ ไม่นะ! ปล่อยข้า… รั่วเฟย รั่วเฟยช่วยข้าด้วย…”
ถึงอย่างไรก็เป็นหญิง ถูกหมีดำตัวใหญ่กดให้นอนลงบนพื้นโดยไม่อาจขยับเขยื้อน ตรงจุดที่มองไม่เห็นยังรู้สึกว่ากระโปรงโดนเจ้าบ้ากามคนนั้นเลิกขึ้นมา นางตกใจเสียจนสีหน้าขาวซีดไปหมด น้ำเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นพร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างตกใจกลัว หวังว่าพี่น้องนางจะได้ยินและเข้ามาช่วย
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ไม่รู้เลยว่าเธอทำตัวเป็นคนดีได้ล้มเหลวถึงเพียงนี้ เดิมคิดว่าเยี่ยจิงคนนี้เคยช่วยเด็กคนนั้นไว้คงมีจิตใจไม่เลว จึงอยากช่วยนางบ้าง ไม่นึกว่านางจะมองว่าเป็นการขโมยเด็ดดอกฟ้า
แต่ว่า… รั่วเฟย? คนที่มาด้วยกันกับเยี่ยจิงหรือ?
ดวงตาเธอฉายประกาย เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วลอบมองไปทางต้นไม้บริเวณไม่ไกลอย่างไร้ร่องรอย เมื่อครู่ตรงนั้นมีกลิ่นอายที่ว้าวุ่นเล็กน้อยปรากฏ ยามนี้เงยหน้าเหลือบมองไปจึงเห็นหญิงคนหนึ่งแอบมองอยู่หลังต้นไม้
หากเธอมองไม่ผิด ผู้หญิงหลังต้นไม้น่าจะเป็นหญิงชุดขาวบนถนนใหญ่วันนั้น
…………………