Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 664

№ 664 เสี่ยวเฮยที่เชื่อฟังเฟิ่งจิ่ว

“เจ้าทำให้เสี่ยวเฮยโกรธได้อย่างไร ช่วงนี้มันว่านอนสอนง่ายไม่ทำร้ายมนุษย์ ทำไมถึงไล่ตามเจ้าไม่ปล่อย?” เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปถามพลางตบๆ หมีดำตัวใหญ่ที่หมอบนั่งอย่างเชื่อฟัง

“สะ เสี่ยวเฮย?” เยี่ยจิงมองหมีดำตัวใหญ่สูงสองสามเมตรตัวนั้น หนังตากระตุก นั่นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์แสนสง่างาม มองไม่ออกจริงๆ ว่าเล็กน้อยตรงไหน

“อืม เสี่ยวเฮย ข้าช่วยมันไว้ เจ้าอย่ามองที่รูปลักษณ์เชียว จริงๆ แล้วมันเป็นแค่เจ้ายักษ์โง่” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีมองพลางตบๆ หมีดำตัวใหญ่ เห็นมันก้มหน้าลงส่งเสียงร้องก็หยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาวางบนฝ่ามือทันที

“นี่ กินสิ!”

เมื่อหมีดำตัวใหญ่เห็นยาอายุวัฒนะบนฝ่ามือ ดวงตาเป็นประกาย อ้าปากพุ่งไปข้างหน้าทันที

เยี่ยจิงมองภาพเช่นนี้แล้วหวั่นๆ ใจ มือเด็กหนุ่มคนนั้นคงไม่โดนกัดกระมัง? ทว่าภาพนั้นที่นางเป็นกังวลไม่ได้เกิดขึ้น แต่หมีดำตัวใหญ่ตวัดลิ้นกินยาเม็ดนั้นไป ขณะเดียวกันยังยื่นลิ้นออกไปจะเลียหน้าเด็กหนุ่ม

เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางหันหน้าหนี บอกว่า “อย่าสร้างปัญหาน่า นั่งดีๆ”

เยี่ยจิงมองด้วยความประหลาดใจ สายตาพินิจมองไปบนร่างเฟิ่งจิ่ว เห็นเขาสวมเครื่องแบบนักเรียนสำนักศึกษาหมอกดารา จึงเอ่ยถามทันที “เจ้าเป็นนักเรียนสำนักยาหรือ? เพิ่งเข้ามาปีนี้สินะ?” สำนักยาและสำนักยาเซียนต่างสวมชุดสีฟ้า ว่ากันว่าสำนักยาเซียนปีนี้รับมาแค่คนเดียว คิดแล้วไม่น่าจะใช่หนุ่มน้อยคนนี้ เช่นนั้นเขาคงอยู่สำนักยา

“อืม ข้าเพิ่งเข้ามาปีนี้” เฟิ่งจิ่วกล่าวจบก็ปัดๆ ชุดคลุมบนร่างพลางบอก “ข้าต้องกลับไปแล้ว เจ้าล่ะ?”

เยี่ยจิงได้ยินดังนั้น มือก็จับไปบนข้อเท้าทันควันแล้วส่ายหน้า “ข้าเดินไม่ได้”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเดินไม่ได้ จึงจะถามว่าอยากให้ข้าไปส่งหรือไม่?”

“ไปส่งอย่างไร?” เยี่ยจิงมองเด็กหนุ่มอย่างตกใจเล็กน้อย

เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนางก็เผยรอยยิ้มออกมา พร้อมตบๆ หมีดำตัวใหญ่ข้างกาย “เสี่ยวเฮย อุ้มนางขึ้นมา”

“กรร!”

หมีดำตัวใหญ่ที่เพิ่งกินของหวานไปร้องขานรับ เข้ามาอุ้มมนุษย์ที่เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในสายตามันขึ้นมา จากนั้นค่อยมองไปทางเฟิ่งจิ่ว

“ไปกันเถอะ!” อยู่ที่นี่มาครึ่งเดือนกว่า เก็บสะสมมณีเพลิงมาไม่น้อย มากพอที่เธอจะไปแลกของในหอสวรรค์แล้ว

“เดี๋ยวๆ” เยี่ยจิงที่โดนหมีดำตัวใหญ่อุ้มไว้มองไปหาเฟิ่งจิ่วอย่างไม่กล้าขยับเขยื้อน “เพื่อนข้าคนนั้น…” ยังเอ่ยไม่ทันจบก็เห็นหนุ่มน้อยเบ้ปากตัดบทนาง

“ดูแลตัวเองดีๆ เถอะ! เพื่อนเจ้าคนนั้นฉลาดกว่าเจ้ามาก” เฟิ่งจิ่วเรียกพลังพุ่งไปข้างหน้าและหลัง ส่วนหมีดำตัวใหญ่ด้านหลังก็วิ่งตามเฟิ่งจิ่วไป

ผ่านไปหนึ่งวัน ทั้งสองก็ออกจากเทือกเขาหมื่นอสูร

เฟิ่งจิ่วมองเยี่ยจิงที่หลับไปในอ้อมแขนเสี่ยวเฮย คิดๆ แล้วบอกว่า “เสี่ยวเฮย เป็นคนดีต้องทำให้ถึงที่สุด ส่งนางกลับไปสำนักพลังวิญญาณเถอะ!”

หมีดำตัวใหญ่นิ่งมองนาง ไม่รู้ว่าสำนักพลังวิญญาณอยู่ที่ไหน

ทว่าเธอยังลูบคางครุ่นคิด กล่าวว่า “ช่างมันแล้วกัน ไปกับข้าก่อนเถอะ! เจ้าเด่นสะดุดตาเกินไป หากไปสำนักพลังวิญญาณก็ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง” ดังนั้นสุดท้ายจึงพาหมีดำตัวใหญ่ไปยังอาศรมของเธอ

หลังจากวางเยี่ยจิงที่หลับสนิทไว้ในอาศรมและเดินออกมา กลับเห็นหมีดำตัวใหญ่นั่นยังหมอบนั่งอยู่หน้าอาศรมไม่จากไป จึงอดแปลกใจไม่ได้ “เสี่ยวเฮย ทำไมเจ้ายังอยู่ที่นี่? รีบๆ กลับไปสิ!”

“กรร” หมีดำตัวใหญ่คำรามเบาๆ แล้วยื่นอุ้งมือใหญ่ออกไปตบพื้นหญ้า

เฟิ่งจิ่วเห็นก็ตาค้างไปบ้าง “จะ เจ้าคงไม่ได้อยากบอกว่าเจ้าไม่อยากกลับไป แต่อยากอยู่ต่อกระมัง?”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version