Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 70

№ 70 คมพยับลิ้มรสเลือด

“แกร๊ง!”

“ชิ้ง!”

เสียงแตกหักดังแกร๊งลอยมา ผู้อาวุโสใหญ่เบิกสองตากว้างอย่างตื่นตกใจ เห็นกระบี่คมทอแสงสีดำในมือนาง และยังรอยตำหนิแตกร้าวบนกระบี่ในมือตัวเอง หัวใจก็หนักอึ้งตึกตัก

เวลาต่อมา กระบี่ยาวในมือสั่นสะเทือนเพราะพลังกระบี่อีกฝ่ายอย่างแข็งกระด้าง เสียงร่วงหล่นลงพื้นดังชิ้ง ตัวเขาถึงกับถูกพลังกระบี่ที่น่าหวาดกลัวนั้นสะเทือนออกไปโดยไม่อาจถอยหนีได้ทันท่วงที

“ซี๊ด!”

“อ๊าก!”

ร่างกายเขาถอยหลังไปอย่างเสียหลัก โชคดีที่ผู้อาวุโสสี่ด้านหลังประคองเขาไว้ เลี่ยงไม่ให้เขาล้มลงไปบนพื้นด้วยความอับอาย

“เป็นไปได้อย่างไร? จะเป็นคมพยับได้อย่างไรเล่า?”

เขามองกระบี่ที่กำลังประกายแสงสีดำในมือนางอย่างยากจะเชื่อ รัศมีสีดำบนคมกระบี่ช่างแพรวพราววาววับ หากเปิดตามองทั่วใต้หล้า ก็มีแค่กระบี่คมพยับที่มีแสงสีดำในตัวเอง!

ไม่เพียงแต่เขา ตอนนี้บนใบหน้าผู้อาวุโสสี่และคุณชายรองตระกูลสวี่ต่างก็ตกใจกันอย่างมาก ทว่าพวกเขานอกจากความตะลึงที่มากล้น ก็ยังมีความละโมบ เป็นความละโมบที่มีต่อกระบี่เล่มนั้น

กระบี่คมพยับ เป็นสิ่งล้ำค่าท่ามกลางเหล่ากระบี่!

กระบี่คมพยับที่หายสาบสูญไปหลายปีนึกไม่ถึงว่าจะมีวันได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง หนำซ้ำพวกเขายังได้มาพบมัน จะไม่ตื่นเต้นได้เช่นไร? และจะไม่ให้ใจเกิดความละโมบอยากครอบครองมันเป็นของตนเองได้อย่างไรเล่า?

คมพยับเฉียงชี้ไปบนพื้น รัศมีสีดำลอยอยู่จางๆ ชุดสีแดงบินพลิ้วไหว กลิ่นอายกระหายเลือดกระจายออกมาจากร่างนาง

เธอมองสามท่านนั้นที่ทั้งตกตะลึงและมีความโลภ แนวโค้งที่มุมปากยกขึ้นน้อยๆ ปรากฏรอยยิ้มดุร้ายเยือกเย็น “คนที่เห็นกระบี่ข้าเล่มนี้ ล้วนต้องตาย!”

พอสิ้นสุดเสียง เงาร่างสีแดงก็พุ่งออกไปราวกับภูตผี ทว่า เธอกลับไม่ไปทางผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสี่ แต่หมุนกลับหลัง กวัดแกว่งคมพยับในมือ พลังกระบี่อันรุนแรงตวัดผ่านกลางอากาศดังฟิ้ว

“ซี๊ด!”

คุณชายรองตระกูลสวี่ผู้นั้นถูกกระบี่ปาดคอโดยไม่ได้ป้องกันตัวเลยแม้แต่น้อย!

เพราะไม่ทันตั้งตัว และ… หลบได้ไม่ทัน!

จนเขาตาย สองตาก็เบิกกว้างอย่างไม่มีทางเชื่อ ถึงตาย แม้แต่ลมหายใจสุดท้ายก็ไม่อาจได้สูดเข้าไป เพราะใจยังไม่ยอม…

“คุณชายรอง!”

ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสี่อุทานอย่างตกใจ เห็นเงาร่างนั้นแข็งทื่อล้มลงไป เพียงชั่วพริบตา ชีวิตหนึ่งก็สูญสลายไปต่อหน้า

เพราะกระบี่นางเร็วเกินไป เลือดสดบริเวณคอถึงกับไม่ไหลออกมาในตอนแรก จนกระทั่งเมื่อเขาล้มลง กระเทือนถึงบาดแผลบริเวณลำคอที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต เลือดสีแดงสดถึงจะพุ่งตรงออกมาราวกับน้ำพุโลหิต ย้อมพื้นดินเสียแดงฉาน…

นั่นคือน้องชายที่ผู้นำตระกูลให้ความสำคัญที่สุด ตอนนี้ก็ตายไปเสียแล้ว… พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าหลังจากกลับไป ท่านเจ้าบ้านจะโกรธเกรี้ยวสักเพียงใด?

เมื่อเห็นท่าทางบนใบหน้าสองท่าน เฟิ่งจิ่วก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ “พวกท่านคิดว่า จะยังมีชีวิตรอดกลับไปได้รึ?”

ตั้งแต่เธอดึงดาบคมพยับออกมา ก็ไม่คิดให้พวกเขาทั้งสามคนได้มีชีวิตรอดออกไปอีก

ในตรอกเล็กๆ นี้ จะเป็นที่จบชีวิตของพวกเขา!

ดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งฉายแววเยือกเย็น แรงอาฆาตพวยพุ่ง เงาร่างสีแดงโผตามสองท่านไป คมพยับในมือขยับเล็กน้อย และพลังกระบี่อันเย็นเยียบก็กลายเป็นคมกระบี่ที่จู่โจมออกไปทีละเล่มๆ!

“ฆ่านางซะ!”

สองท่านแผดเสียงเกรี้ยวกราด ผู้อาวุโสใหญ่ตวัดกระบี่หักขึ้นรับหน้า ส่วนผู้อาวุโสสี่ก็ดึงกระบี่คมออกเข้าล้อมโจมตี สองท่านร่วมมือกัน ทันใดนนั้น แรงกดดันและกลิ่นอายของปรมาจารย์นักรบขั้นสมบูรณ์ก็กระจายอยู่ในตรอกเล็กนี้ ทำให้กลิ่นอายในอากาศยิ่งเยือกแข็งและกดดัน

“แกร๊ง! ฟิ้ว! ฟิ้วๆ!”

ระหว่างที่คมกระบี่ปะทะกัน กระแสลมและเสียงแกร๊งอันรุนแรงดังไม่หยุดไม่หย่อน แต่ที่ทำให้สองท่านประหลาดใจคือแรงอาฆาตกระหายเลือด รวมถึงการโจมตีหมายเอาชีวิตมากร้อยเล่ห์เหลี่ยม ที่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกเสียขวัญจนเกินรับมืออยู่บ้าง

“ไม่!”…………………………………….

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version