Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 737

№ 737 เกิดจิตสังหาร

เลือดพลันไหลทะลักจากลำคอ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นเบิกตาพลางเตะเท้า ร่างกายแข็งทื่อ คอหักไปข้างๆ และสิ้นลมหายใจไป

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังโดนเฟิ่งจิ่วปาดคออย่างเงียบเชียบเช่นนี้ โดยไม่ส่งเสียงเคลื่อนไหวสักนิด

เธอหยิบแหวนมิติบนมือเขาไปอย่างรวดเร็ว ขยับมือโปรยพวกผงยาลงบนศพนั้น อาศัยตอนที่กลิ่นคาวเลือดยังไม่ถูกลมพัดไปไกลถอยกลับโดยเร็ว แล้วเข้าไปซ่อนภายในป่าทึบอีกครั้ง

ไม่นานนักผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกคนที่ออกตามหาในพื้นที่นี้ก็ไล่ตามกลิ่นคาวเลือดมา ย่อลงตรวจดูเพื่อนที่ถูกฆ่า เห็นทั้งร่างมีเพียงบาดแผลปลิดชีพตรงคอ หนำซ้ำแหวนมิติบนมือยังถูกเก็บไป

ทันใดนั้นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณในทิศทางนี้ก็เข้ามา ครั้นเห็นคนที่ตายไปบนพื้น แววตาก็หรี่ลงเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มเข้มว่า “เขาตายได้อย่างไร?”

“ปลิดชีพในหนึ่งมีด คมมีดปาดขึ้น เฟิ่งจิ่วคนนั้นคงโถมตัวลงมาจากบนต้นไม้ อาศัยตอนที่คนของเราไม่ได้เตรียมตัวปาด…”

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นยังเอ่ยไม่ทันจบก็เห็นสีหน้าเปลี่ยนไป มุมปากมีเลือดไหล แทบไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบโต้ ก่อนล้มลงไปทั้งตัว

ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเห็นเช่นนี้ ม่านตาก็หดลงเล็กน้อยพลางก้าวถอยหลังไป ฝ่ามือใต้แขนเสื้อกำขึ้นแน่น “เจ้าเฟิ่งจิ่ว!”

ยังไม่ทันเห็นร่างนางก็เสียผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังไปสองคนแล้ว มิน่าเบื้องบนถึงส่งผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณเช่นพวกเขาสี่คนมา ใช่ หากเป็นคนทั่วไปจะอยู่ในสายตาท่านผู้นั้นได้อย่างไร?

นึกถึงตรงนี้เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงชั่วร้ายเปล่งออกจากปากพร้อมด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณ “ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตายไปสองคน ทุกคนต้องระวังตัวมากขึ้น จับกลุ่มสองคนอย่าเดินไปลำพัง ระวังนางจะใช้ยาพิษ!”

เสียงเขากระเพื่อมไปกลางอากาศดุจลายน้ำ แรงกดดันกับกลิ่นอายพลังวิญญาณผู้แข็งแกร่งกระจายไปอย่างเด่นชัด กึกก้องอยู่ภายในป่าทึบแห่งนี้ทีละรอบๆ เพื่อเตือนให้คนอื่นที่นี่ระวังตัวมากขึ้น

ทว่าแม้มีคำเตือนจากผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังบางคนยังไม่ค่อยเชื่อนัก ถึงอย่างไรเฟิ่งจิ่วก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ จะสังหารผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้อย่างไร? ตามความคิดพวกเขา สองคนนั้นคงประมาทเกินไปถึงทำให้เฟิ่งจิ่วมีโอกาสได้

แม้ในใจไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แต่คนที่อยู่พื้นทีเดียวกันก็ยังคงรีบมาอยู่ด้วยกัน สองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังจึงรวมกันกลายเป็นกลุ่มเล็กๆ เข้าไปตามหา

ภายในป่าแห่งนี้ เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินคำพูดที่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นกล่าวไปเช่นกัน ยามนี้สายตากำลังเพ่งเล็งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่อยู่ลำพัง

เธอพุ่งไปจากด้านหลังอย่างไร้เสียง ขณะที่เตรียมตัวจะมือ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นที่ดูเหมือนสัมผัสไม่ได้กลับหันมาทันที ในเวลาเดียวกัน ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกคนก็ปรากฏตัวจากมุมมืด สองคนล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ทั้งหน้าหลัง

“ข้าขอดูสิว่าครั้งนี้เจ้าจะหนีไปไหน!”

แววตาเฟิ่งจิ่วสั่นไหว คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ “หนี? ข้าไม่ได้คิดหนีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว! สิ่งที่ข้าต้องการคือชีวิตพวกเจ้า!” กริชในมือเธอถูกเก็บไป กระบี่คมพยับที่ไม่ได้เห็นเลือดมานานปรากฏในมือ

เมื่อกระบี่คมพยับปรากฏ ไอสังหารกระหายเลือดก็ทะลักออกมาจากตัวกระบี่ พลังกระบี่ที่ไหลพล่านบนตัวกระบี่พร้อมด้วยประกายสีดำเย็นเยียบ พลันแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายกลางอากาศ

ไอหนาวกระจายออกไป ไอสังหารเอ่อล้นพุ่งพล่าน ร่างสีแดงพุ่งไปทันทีโดยไม่ให้โอกาสผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนนั้นตะลึงและได้สติกลับมา ท่วงท่าราวภูตผีพร้อมไอสังหารดุดันโจมตีไปทางผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งในนั้นด้วยความเร็วปานสายฟ้า…

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version