Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 738

CMYYNK

№ 738 ขอความช่วยเหลือที่สำนักศึกษา

“คมพยับ กระบี่เทวะในตำนาน!”

สองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเห็นกระบี่เล่มนั้น ดวงตาเอ่อล้นด้วยความบ้าคลั่ง ความคิดบ้าๆ ที่อยากจะครอบครองมันไว้เสียเองทำให้พวกเขายกกระบี่ขึ้นรับทันควัน จะอาศัยตอนที่พวกผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณยังไม่มาถึงชิงกระบี่เล่มนี้มาจากมือนางซะ เช่นนั้นกระบี่ก็เป็นของพวกเขาแล้ว!

แรงกดดันผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งหมดแผ่ออกมาในชั่วครู่ บนร่างทั้งสองพลันมีกระแสลมพลังวิญญาณสูงสิบจั้งก่อตัว ใบไม้ร่วงในป่าถูกกระแสลมนั้นม้วนขึ้นมา ฝุ่นผงปลิวไปทั่วท้องฟ้าท่ามกลางกระแสลมหมุน

เฟิ่งจิ่วไม่ได้สนใจคนที่จู่โจมมาด้านหลัง ยามนี้แค่อยากฟันฆ่าไปสักคนหนึ่งก่อนแล้วค่อยสู้กับอีกคน ด้วยเหตุนี้ขณะที่คนด้านหลังปล่อยแรงกดดันระดับหลอมแก่นพลังโจมตีมา กลิ่นอายพลังวิญญาณบนร่างก็ไหลเวียนขึ้นมาโดยเร็ว

คมพยับในมือเปล่งประกายสีดำ พลังกระบี่ที่พุ่งพล่านด้วยเสียงโหยหวนรวบกระแสลมรอบๆ เข้าสู่ตัวกระบี่ กระบี่คมพยับในมือเธอยกขึ้นตัดไปข้างหน้าอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับไอสังหารดุร้ายกระหายเลือด เวลานี้คมพยับเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าในทันที แค่ตัดลงไปก็ฟันกระบี่ในมือของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นหักเสียดื้อๆ

“แกร๊ง!”

เสียงคมกระบี่แตกหักดังกังวานกลางกระแสลม สองตาของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นเบิกกว้างอย่างตื่นตกใจ ขณะที่ก้าวเท้าถอยหลังไปด้วยความรวดเร็ว กลับเห็นกระบี่เล่มนั้นฟันตรงลงมาจากเหนือศีรษะเขาราวกับตกจากฟากฟ้า ลมหายใจเขาหยุดนิ่งเพียงกรีดร้องได้ทัน

“อ๊าก!”

“อั่ก! ฟิ้ว!”

เมื่อคมพยับตัดลงไปก็ฟันผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นออกเป็นสองซีกเสียดื้อๆ ขณะที่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแหลกสลายยังโดนระเบิดออกจนเลือดกระเซ็นลงพื้น แต่เฟิ่งจิ่วไม่ได้หยุดมือ หลังจากกระบี่คมพยับฟันสังหารผู้ฝึกตนเบื้องหน้า มือยังหมุนคมพยับกวาดกลับไปยังคนที่โจมตีมาด้านหลัง

“วูบ! ฟิ้ว!”

พลังกระบี่มหาศาลกวาดผ่านไป กลืนกินกระแสลมที่จู่โจมมาจากกระบี่คมในมือเขา สองกระแสลมปะทะเข้าหากัน พลังที่อ่อนแอถูกกลืนกินพลังที่แข็งแกร่งยังคงอยู่! ยืนไปไม่ทันไรเขาก็ถูกฟันเข้ากลางเอวในทันที และตัดผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่ไม่ทันตอบโต้กลับมาออกเป็นสองส่วน!

“ฟิ้ว!”

ไม่ได้อุทานหรือกรีดร้อง หลังจากเลือดกระเซ็นออกมามีเพียงร่างครึ่งบนที่กระเด็นไปไกลมากกว่าสามจั้ง ก่อนจะกลิ้งหล่นลงพื้นสาดเลือดไปทั่ว เฟิ่งจิ่วหยิบแหวนมิติบนตัวเขามา จากนั้นวิ่งหนีไปที่อื่นอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะหยุดอยู่ต่อ…

เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณละแวกใกล้ๆ มาถึง และเห็นภาพที่ทั้งนองเลือดทารุณ สองมือก็กำหมัดพลางแหงนหน้าคำรามอย่างเกรี้ยวกราด “เฟิ่งจิ่ว! กล้าก็ออกมาสิ! ออกมา! ออกมาซะ!”

“ตู้มๆๆ…”

คำว่าออกมาทั้งสามเสียงยิ่งดังขึ้นแต่ละเสียง แรงกดดันทรงพลังก็บีบคั้นออกไป ระหว่างที่กระแสลมพุ่งทะยานขึ้นมายังส่งเสียงดังสนั่นไปรอบๆ เขา ทั้งผืนป่าทึบถูกสะเทือนจนสั่นไหวเล็กน้อย

ขณะเดียวกันนี้ เยี่ยจิงที่เร่งร้อนกลับสำนักศึกษามาขอความช่วยเหลือร่นเวลาที่เดิมต้องใช้หนึ่งชั่วยามถึงจะบินกลับถึงสำนักศึกษา เหลือแค่ประมาณครึ่งชั่วยามก็กลับไปถึงแล้ว นางที่มาถึงประตูด้านข้างสำนักพลังวิญญาณ ทั่วร่างเหงื่อออกเปียกชุ่ม หอบหายใจไม่หยุด

เพื่อซื้อเวลาให้มากโดยเร็วที่สุด นางใช้พลังวิญญาณฝืนเร่งความเร็วพาหนะเหาะเหิน เพียงเพื่อจะเร่งกลับมาเร็วหน่อยให้เฟิ่งจิ่วมีโอกาสรอดมากขึ้น

“เยี่ยจิง? เจ้าเป็นอะไรไป?” อาจารย์หลี่ว์ผ่านทางมาพอดี เห็นท่าทางนางใช้พลังวิญญาณมากเกินไปและหอบหายใจไม่หยุดก็ตกใจยิ่ง จึงรีบเร่งเข้าไปประคองนางไว้

“ฟะ เฟิ่งจิ่วกำลังลำบาก ระ รีบพาข้าไปพบเจ้าสำนัก…เร็วเจ้าค่ะ!”

เยี่ยจิงเกาะแขนอาจารย์หลี่ว์ไว้เพื่อประคองสองขาที่อ่อนแรง นางที่ในใจทั้งหวาดกลัวและกังวลร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว กลัวว่าตนเองขอความช่วยเหลือช้าไป กลับไปจะเห็นแค่ศพเฟิ่งจิ่ว…

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version