Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 775

№ 775 เยือนป่าฝึกวิชาอีกครั้ง

เป็นเช่นนี้ เดิมทีการเดินทางแค่คนเดียวจึงเปลี่ยนกลายเป็นสองคน

เฟิ่งจิ่วพาไป๋เสี่ยวนั่งขนนกบินมุ่งไปยังป่าฝึกวิชาผืนนั้น ระหว่างทางยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหล่าไป๋ให้เขาฟัง…

หนึ่งวันต่อมา เช้าตรู่ทั้งสองมาถึงด้านนอกเขตอาคมของป่าแห่งนั้น เห็นป่าผืนนี้แล้ว เธอก็นึกถึงเรื่องตอนแรกที่หนีมาถึงที่นี่อย่างอดไม่ได้

หนีจากตำหนักยมราชออกมา ไม่รู้เดินไปนานเพียงใด ข้ามผ่านภูเขามากมายเท่าไรถึงเข้ามาที่นี่ นึกถึงว่าภายหลังยังถูกท่านอาคนนั้นจับไว้ได้ ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

ทั้งหมดล้วนเป็นวาสนา

ขอแค่มีวาสนา ไม่ว่าหลบหรือหนีอย่างไร ก็ยังบังเอิญเจอ ได้พานพบ และเดินไปด้วยกัน

“เฟิ่งจิ่ว ที่นี่มีเขตอาคม พวกเราเข้าไปไม่ได้ หรือพวกเราจะไปที่อื่นกัน! ที่นี่ดูน่ากลัวแปลกๆ”

ไป๋เสี่ยวเห็นบนแผ่นหินตรงนั้นสลักไว้ว่า ‘สถานที่ฝึกฝนสำคัญ มีเขตอาคมคุ้มกัน อันธพาลชั่วช้า เต็มไปด้วยอสูรร้าย’

เขาเห็นอักษรพวกนั้น ก็ถอดใจกลางคันในทันที สถานที่อันตรายเช่นนี้ หากเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้จะทำอย่างไร?

“เรามาที่นี่เป็นเรื่องภายใน หนำซ้ำสถานที่นี้ไม่ใช่ว่าอยากจะเข้าก็เข้าได้ หรืออยากจะออกก็ออกได้”

เธอยิ้มๆ แล้วยกป้ายหยกสีขาวสองชิ้นในมือขึ้น “ภายในนอกจากมีสัตว์ร้าย ยังมีพวกอันธพาลที่สามสำนักใหญ่กับสำนักศึกษาหมอกดาราจับไว้ แต่พวกเขาไม่มีของสิ่งนี้จึงออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงติดกับอยู่ข้างใน และกลายเป็นอันตรายในการฝึกวิชาของศิษย์สามสำนักใหญ่กับนักเรียนสำนักศึกษาหมอกดารา”

“เจ้าจะบอกว่าคนคนนั้นที่ต้องตามหาอยู่ข้างในด้วยหรือ? ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าคนที่ติดกับอยู่ที่นี่ล้วนเป็นพวกอันธพาล…”

“เหอะๆ ทุกอย่างล้วนมีข้อยกเว้น เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเราเข้าไปกันเถอะ!” มือหนึ่งเธอจับลงบนไหล่เขา แล้วผลักเขาเข้าไปทันทีโดยไม่ให้โอกาสเขาลังเล

ร่างทั้งสองราวกับทะลุผ่านกระแสลม ภายในอากาศผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะโดดบีบเข้ามา สำหรับเขตอาคมนี้ ในใจเธอยังแปลกๆ นิดหน่อย ถึงอย่างไรครั้งก่อนเธอไม่มีป้ายหยกยังเข้ามาได้เลย

“เฟิ่งจิ่ว ข้างในนี้มืดมนน่าสะพรึง กลิ่นอายนี้ให้ความรู้สึกอันตรายมาก” เขาที่แทบไม่มีกำลังป้องกันตัวอะไรเลยดึงชุดสีแดงของเฟิ่งจิ่วไว้ด้วยความตึงเครียดไปบ้าง

จะโทษว่าเขาใจเสาะไม่ได้ แม้ออกมาจากตระกูลนักคุมสัตว์อสูร แต่เมื่อก่อนจะฝึกสัตว์อสูรข้างกายต้องมีคนคุ้มกัน ต่อให้อยู่ในป่าสัตว์ร้ายที่อันตรายยิ่งก็ไม่กลัว เพราะรู้ว่าหากมีอันตรายคนข้างกายจะปกป้องเขาไม่ให้บาดเจ็บแม้แต่น้อยแน่นอน

แต่นี่ไม่เหมือนกัน แม้เฟิ่งจิ่วบอกว่าคุ้นเคยกับเขา ทว่าแค่รวมครั้งนี้ก็เพิ่งเคยเจอหน้ากันสองครั้งเท่านั้น ใครรู้ว่าหากเขาพบอันตรายจริงๆ จะวิ่งหนีไปเสียเองทันทีหรือเปล่า?

เฟิ่งจิ่วไม่รู้ว่าในใจเขาคิดเช่นนี้ หากรู้จะต้องถีบเขาขาคู่ก่อนเป็นแน่

เธอเห็นสีหน้าเขาซีดไปหมด ก็หัวเราะเบาๆ อย่างกลั้นไม่อยู่ ตบๆ ไหล่เขาพลางเอ่ยว่า “เจ้าต้องฝึกความกล้าเสียหน่อย พอดีเลย อาศัยครั้งนี้ที่มาตามหาคนที่นี่ ข้าจะให้เจ้าฝึกฝนความกล้า”

“ไม่ต้องหรอกกระมัง? ข้าเป็นแค่นักฝึกสัตว์อสูร ซ้ำยังไม่ใช่นักสู้ ไม่ต้องจริงๆ” เขาโบกมือรัวๆ ทว่าเขาเป็นเช่นนั้น เคยสู้ความพยายามของเฟิ่งจิ่วได้เสียที่ไหน?

สุดท้ายเฟิ่งจิ่วก็พาเขาฝึกตั้งแต่รอบนอก พลางมุ่งไปรอบด้านใน ภายในป่า พวกสัตว์อสูรกำลังต่อสู้ไม่ค่อยมากที่เจอล้วนให้เขาฝึก เธอจึงเห็นวิธีฝึกสัตว์อสูรจริงๆ มันไม่ธรรมดาโดยแท้ แต่ชัดเจนว่าเมื่อพบเหล่าสัตว์ร้ายระดับค่อนข้างสู้ เขากลับฝึกไม่ได้

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version