Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 780

№ 780 แพ้จะยกชีวิตให้เจ้า

คำพูดชายร่างใหญ่คนนั้นยังไม่ทันกล่าวจบ ก็เห็นกริชแหลมคมจี้มาตรงลำคอเขา ประกายหนาวเย็นนั้นที่หางตาเหลือบเห็น ทำให้ร่างกายเขาแข็งทื่อ พร้อมถลึงมองหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้นอย่างตะลึงไปบ้าง

“ข้ารู้ว่าในนี้จะพูดจาต้องมีพละกำลัง หากเจ้าไม่ถือสา พวกเราประลองกันเสียหน่อยยังได้ หืม?” น้ำเสียงเฉยเมยปรากฏความเกียจคร้านเช่นนั้น ไร้ซึ่งแรงอาฆาตและอันตราย ทว่าทุกคนรอบข้างกลับขมวดคิ้วครุ่นคิด ในดวงตามีความหนักใจที่ไม่เคยมีมาก่อน

พวกเขาล้วนเป็นอันธพาลที่บนร่างแบกรับชีวิตคนหลายร้อย บางคนยังมีชีวิตคนบนร่างยิ่งกว่าหลายร้อย ความตายสำหรับพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่ใครก็ไม่ยอมตกอยู่ในเงื้อมมือเด็กหนุ่มที่ไม่รู้แจ้งแม้แต่ที่มาเช่นนี้

ชายฉกรรจ์คนนั้นเข้าใจข้อนี้อย่างชัดเจน เพียงหลังจากแข็งทื่อไปพักหนึ่ง ก็แบกหมูป่าตัวนั้นไปย่างด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“จ้องข้ากันทำไม?”

เธอเลิกคิ้วกวาดมองไปยังทุกคน หลังจากสายตาเธอมองผ่านไป ดวงตาแต่ละคู่นั้นไม่ละออกก็เก็บกลับไป

ยามนี้หลังจากสายตาชายคนนั้นมองผ่านขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้น ซึ่งเป็นเครื่องประดับตรงเอวที่ถูกชุดสีแดงบดบังไว้ครึ่งหนึ่ง ก็เอ่ยว่า “ใต้เท้าเป็นนักเรียนสำนักศึกษาหมอกดารา? ได้ขนนกเคลือบหลากสี หนึ่งในสามสมบัติหอสวรรค์สำนักศึกษาหมอกดารามาได้ ชัดเจนว่าไม่ใช่คนธรรมดา”

“เพียงแวบเดียวก็มองของล้ำค่าตรงเอวออก สายตาเจ้าไม่เลวเลย!” เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ มานั่งลงยังตอไม้ตรงโต๊ะไม้สี่ขาที่ทำมาจากต้นไม้ แล้วหยิบเหล้ากับแก้วเหล้าสองใบจากห้วงมิติออกมา

“ดื่มสักแก้วไหม?”

ชายหนุ่มมานั่งลงตรงโต๊ะ ส่วนไป๋เสี่ยวก็ยืนอยู่ด้านหลังเฟิ่งจิ่ว ชายร่างใหญ่พวกนั้นรอบๆ เห็นหนุ่มน้อยหยิบข้าวของออกมาตามสะดวก ท่าทางมั่นใจไม่กลัวถูกพวกเขาเพ่งเล็งสักนิด แต่ละคนต่างครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ดูเจ้าอายุยังไม่มาก เข้ามาได้อย่างไร?” เธอรินเหล้ายื่นไป พลางเอ่ยถามไปตามอารมณ์

“ถูกพวกตาแก่สำนักหวนเอกาจับเข้ามา” เขายกแก้วเหล้าขึ้นดมๆ กลิ่นหอมเหล้า “เข้ามาสองปีกว่า เพิ่งได้กลิ่นหอมเหล้าเช่นนี้เป็นครั้งแรก”

เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ หลังจากจิบไปเบาๆ ก็กล่าวว่า “เจ้าอาจพิจารณาเสียหน่อยยังได้ หากติดตามข้าภายหน้าเรื่องกินดีอยู่ดีก็ไม่ใช่ปัญหา”

“เจ้ามีวิธีพาข้าออกไปจากในนี้หรือ?” แววตาเขาสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้า

“แน่นอน”

“กล่าวเช่นนี้ ตัวเจ้ามีป้ายหยกสำนักศึกษาออกไปได้หรือ?”

“ถูกต้อง”

เธอยิ้มรับ รู้สึกว่าพวกชายร่างใหญ่ที่เคยนั่งอยู่แต่ละคนต่างลุกขึ้นยืน และจ้องเธอราวกับเสือหิวหมาโหย สายตาดุร้ายแก่งแย่งเช่นนั้นเธอไม่แปลกใจเลย

ชายคนนั้นจิบเหล้า แล้วหลุบตาลง “เจ้ามั่นใจมาก ไม่รู้ว่าจะมีความสามารถน่ามั่นใจจริงๆ หรือไม่?”

เฟิ่งจิ่วเล่นแก้วเหล้า ยกริมฝีปากยิ้ม ในสายตาเผยแววชั่วร้าย “เจ้าอาจลองเสียหน่อยยังได้ แต่ข้าให้ลองเปล่าๆ ไม่ได้หรอก”

“หากแพ้ ชีวิตข้าจะเป็นของเจ้า” กล่าวจบแก้วเหล้าในมือชายหนุ่มพลันจู่โจมออกไป ขณะเดียวกันกริชเล่มหนึ่งพลิกมาจับไว้ในมือและโจมตีไปยังเฟิ่งจิ่วอย่างดุดัน

เฟิ่งจิ่วโยนแก้วเหล้าในมือขึ้น ระหว่างที่ยกมือกระแสพลังวิญญาณก็สะบัดออกไป กลิ่นอายพลังวิญญาณไร้รูปร่างไหลพล่านไปดุจลายน้ำ สบโอกาสเหวี่ยงแก้วเหล้าที่จู่โจมมานั้นขึ้นไปกลางอากาศ ยื่นมือไปจับข้อมือศัตรูที่ถือกริชไว้บิดกลับไปด้านหลัง และลบล้างการโจมตีที่มาจากมืออีกข้างของเขาได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะยกขาเตะน่องขาศัตรูจนเขาทรุดลงไปข้างหน้า

ขณะที่คิดจะตอบโต้ ความรู้สึกเย็นเยียบจากอาวุธก็มาถึงตรงลำคอเขาเสียแล้ว…

…………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version