№ 781 กลิ่นไม่เลว
มืออีกข้างหนึ่งเฟิ่งจิ่วสะบัดพลังวิญญาณไปเล็กน้อย แล้วรับแก้วเหล้าสองใบมาวางบนโต๊ะเบาๆ โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า สายตาเธอจ้องมองชายหนุ่มคนนั้น ยิ้มเอ่ยว่า “ชีวิตเจ้านี้ ช่างไร้ค่าจริงๆ”
ชายหนุ่มแข็งทื่อไป คางเชิดขึ้นเล็กน้อยเพราะกริชที่จี้ตรงลำคอ สายตาเงยมองหนุ่มน้อยชุดแดงที่ยิ้มอย่างแพรวพราวเบื้องหน้า ใบหน้าแม้อารมณ์ไม่ชัดเจน แต่หัวใจกลับสั่นสะท้านน้อยๆ
ฝีมือตนเองเป็นอย่างไรเขาชัดเจนยิ่ง แต่หนุ่มน้อยคนนี้กำลังฝีมือเหนือกว่าเขา ขณะยกมือก็กำราบเขา หนำซ้ำกริชที่จี้ตรงคอนั้นยังเป็นของตนเอง
เหล่าชายฉกรรจ์รอบๆ นั้นที่ลุกยืนขึ้นจ้องมองทั้งสอง แต่ละคนมีท่าทีแปลกไป พวกที่เคยคิดจะสู้ เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นจัดการพี่ใหญ่พวกเขาอย่างคล่องแคล่วว่องไว ก็พากันอดทนต่อไป
พวกเขาล้วนเป็นคนระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ฝีมือหนุ่มน้อยคนนั้นเป็นอย่างไร เห็นเขาฆ่าคนในชั่วพริบตา ถึงตอนนี้ยังจัดการพี่ใหญ่พวกเขาอีก ก็รู้ได้แล้ว ว่ากำลังเขาต้องเหนือกว่ายอดปรมาจารย์พลังวิญญาณเป็นแน่
แต่เหนือกว่ายอดปรมาจารย์พลังวิญญาณคือผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน หรือว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน?
เฟิ่งจิ่วดึงมือกลับและสะบัดเสื้อคลุมนั่งลง นิ้วมือเรียวขาวเคาะๆ หน้าโต๊ะ “รินเหล้าซิ”
ไป๋เสี่ยวที่ยืนข้างๆ ตกใจ ก่อนจะได้สติกลับมาและเข้ามายกไหเหล้ารินเหล้าให้เธอ กลับถูกเธอห้ามไว้ “ไม่ได้เรียกเจ้า ไปนั่งข้างๆ เถอะ”
เธอโบกมือให้สัญญาณเขานั่งลง สายตาก็หยุดลงบนร่างชายหนุ่มคนนั้นที่คุกเข่าข้างเดียวตรงหน้า
ไป๋เสี่ยวอึ้งไป วางลงอย่างว่าง่าย และนั่งลงข้างๆ อย่างเป็นระเบียบ ต้องมองเฟิ่งจิ่ว พลันรู้สึกว่าบางครั้งกลิ่นอายที่แพร่ออกมาจากบนร่างเขาน่าสะพรึงนัก ทำให้คนบังเอิญได้ยินยังไม่กล้าขัดขืน แรงกดดันและท่าทางเช่นนั้น เพียงเคยเห็นบนร่างอาจารย์ในตระกูลเขาเท่านั้น
ชายหนุ่มจ้องมองเฟิ่งจิ่วสักพัก ถึงจะลุกขึ้นมาเก็บกริชไป แล้วเดินเข้าไปยกไหเหล้าขึ้นรินเหล้าแก้วหนึ่งให้เด็กหนุ่ม
เห็นภาพเช่นนี้ พวกชายร่างใหญ่รอบข้างแต่ละคนต่างขมวดคิ้ว กลับไม่เอ่ยปากเพียงจ้องมองพวกเขา ดูเด็กหนุ่มชุดแดงคนนั้นนั่งตรงโต๊ะ ส่วนพี่ใหญ่พวกเขาก็ยืนข้างๆ กัน หลังจากหนุ่มน้อยคนนั้นดื่มเหล้าในแก้วหมด ยังรินให้เขาอีกแก้ว
กระทั่งเสียงหนึ่งลอยมา ทุกคนถึงจะเคลื่อนสายตาไปยังบริเวณเสียงนั้น
“มาแล้วๆ ย่างหมูป่าเรียบร้อย”
ชายร่างใหญ่สองคนยกหมูย่างทั้งตัวเข้ามา ใช้ไม้เสียบไว้ หลังจากวางลงบนโต๊ะ ทั้งสองเอ่ยกับชายหนุ่มว่า “พี่ใหญ่ หมูป่าตัวนี้ย่างได้นุ่มมาก ต้าซานย่างด้วยวิธีพิเศษ รสชาติขาหลังยิ่งจัดจ้าน กลิ่นค่อนข้างหอม แต่เรารู้ว่าพี่ใหญ่ชอบรสอ่อนๆ เครื่องปรุงรสที่พวกเราใส่ตรงขาหลังจึงน้อย รสชาติจะอ่อนกว่าหน่อย”
ได้ยินคำพูดนี้ เหล่าชายร่างใหญ่หัวใจสั่นไหวเล็กน้อย จ้องมองหมูป่าย่างตัวนั้น แล้วละสายตาออกไป
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดนี้ก็เงยหน้ามองเฟิ่งจิ่ว เห็นเขากำลังยกแก้วขึ้นดื่มเหล้า ใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ในดวงตามีความพร่ามัวเหมือนดื่มมากไปหน่อย และคล้ายว่าไม่ได้ยินคำพูดสองคนนั้น ดื่มเหล้าแก้วหนึ่งหมดยังตะโกนให้รินเหล้าอีก
ไป๋เสี่ยวข้างๆ ดึงแขนเสื้อเฟิ่งจิ่ว “เจ้าอย่าดื่มมากเกินไป เมาไปจะแย่เอา” สายตาเขามองไปทางชายร่างใหญ่พวกนั้นที่ถลึงมองพวกเขาสองคนราวกับเสือและหมาป่า ในใจกังวลนิดหน่อย
“อืม ไม่ดื่มมากหรอก เนื้อย่างมาพอดีเลย มาๆ หั่นมาชิมสักสองชิ้นซิ”
เฟิ่งจิ่ววางแก้วเหล้าพลางตะโกน และพุ่งเข้าไปดมๆ กลิ่น “อืม กลิ่นไม่เลวเลย หอมมาก”
……………………