№ 812 เสียงฟ้าผ่า
“ดีๆ พวกเราเชื่อว่าเจ้าต้องไม่ทำให้เราผิดหวังแน่”
สองคนพูดจบ ขณะดื่มเพิ่งพบว่าเป็นเหล้า หนำซ้ำกลิ่นอายพลังวิญญาณอบอวลเพียงเข้าปากก็กระจายไป กล่าวชมอย่างอดไม่ได้ “เหล้าดี!”
“พอดีไม่มีน้ำชา ข้าจึงรินเหล้าให้ทั้งสองท่าน ในเมื่อชอบเช่นนั้นก็ดื่มเยอะๆ สิขอรับ” เธอยิ้มเอ่ยพลางรินเหล้าให้พวกเขา
สองคนได้ยินก็ระรื่นใจ ดื่มกันอย่างมีความสุข จนดื่มมากไปโดยไม่รู้ตัว ถึงเวลาต้องกลับไปฝีเท้ายังโซซัดโซเซ
ส่งทั้งสองไปแล้ว เธอเก็บเห็ดหลินจือกับโสมภูเขาโบราณที่สองคนมอบให้ขึ้นมา แล้วกลับไปศึกษายาบำรุงความงามที่ห้องปรุงยา หมกตัวสนใจเพียงเรื่องเดียว นั่นเป็นเวลาที่ความคิดตั้งมั่นสิ่งเดียวไม่วอกแวก การศึกษาครั้งนี้ใช้เวลาไปเต็มๆ สองสามเดือน
ภายในสองสามเดือนนี้ บนยอดเขาสำนักยาเซียนมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเลือนราง กลับคล้ายว่าจะแผ่ออกไปอย่างไม่เป็นรูปเป็นร่าง ได้ยินเสียงเตายาระเบิดกึกก้องไปบนยอดเขาสำนักยาเซียนบ่อยครั้ง เวลาสองสามเดือน แม้แต่กวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิงเข้ามายังไม่พบตัวนาง เหมือนเธอใช้เวลาทั้งหมดไปกับยาบำรุงความงามนี้
ทว่ายามนี้เพราะอีกครึ่งเดือนจะฉลองปีใหม่ นักเรียนแต่ละสำนักต่างเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนเฟิ่งจิ่วที่ยอดเขาสำนักยาเซียนนั้น กลับยังคงปิดอาศรมไม่ออกมา…
บนยอดเขาหลัก
“ข้าได้ยินว่านางเก็บตัวกลั่นยาเซียนมาหลายเดือนแล้ว ยังไม่ออกมาอีกหรือ?” เจ้าสำนักมองรองเจ้าสำนักพลางเอ่ยถาม
“ไม่ขอรับ ข้าไปดูหลายครั้ง มีเพียงสัตว์อสูรสามตัวเฝ้าด้านนอก แม้แต่ร่างนางยังไม่เห็น คุณชายโม่เฉินกลับมาเดือนก่อนเข้าไปหานางยังไม่เจอคน” รองเจ้าสำนักกล่าว นึกถึงท่าทางยามที่โม่เฉินได้รับเสื้อผ้าตัวนั้นที่เฟิ่งจิ่วมอบให้ ความคิดก็ลอยไปเล็กน้อย
เขาชะงักไปสักพัก เห็นรอบๆ นี้ไม่มีคนอื่น จึงมองยังเจ้าสำนัก ถามว่า “ท่านเจ้าสำนัก ท่านคิดว่าคุณชายโม่เฉินหมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าก็ไม่รู้” เจ้าสำนักส่ายหน้าพลางเอ่ย “เรื่องคนหนุ่มสาว ปล่อยพวกเขาไปจัดการกันเอง เราจะยุ่งไม่ได้”
“ก็ใช่ แต่ข้ากลัวภายหน้าคุณชายโม่เฉินจะตกอยู่ในเงื้อมมือเฟิ่งจิ่ว สิ่งที่ชายคนนี้ยากจะผ่านที่สุดคือด่านความรัก” เขาส่ายหน้าทอดถอนใจ เหมือนรู้สึกอะไรบางอย่าง
เจ้าสำนักได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ “พูดเช่นนี้ ตอนเจ้าหนุ่มๆ เคยมีช่วงเวลาเช่นนั้นด้วยหรือ? ทำไมเจ้าไม่เคยเอ่ยถึงเลย?”
“เหอะๆๆ…”
รองเจ้าสำนักยิ้มเจื่อน “อย่าเอ่ยถึงเลยๆ” โบกๆ มือกล่าวว่า “ข้านึกได้ว่ายังมีอีกเรื่อง ข้าต้องไปก่อน” พูดจบก็ออกไปโดยเร็ว ไม่รอเขาขานรับ
ทว่าเขายังเดินไปไม่พ้นประตู ก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังขึ้นกลางอากาศ สะเทือนเสียจนทั้งทางเข้าภูเขาสั่นไหว พลันทำให้เขาตกใจ รีบร้อนค้ำประตูเรือนพร้อมตะโกนว่า “เกิดอะไรขึ้น? เสียงอะไรกัน? สำนักยาเซียนทางนั้นคงไม่ได้ฟ้าผ่าอีกแล้วกระมัง?”
เจ้าสำนักด้านในเดินออกมาด้วยกัน เวลานี้ก็เห็นนักเรียนด้านนอกวิ่งเข้ามารายงานอย่างรวดเร็ว “เรียนท่านเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก มีเสียงฟ้าร้องที่ยอดเขาสำนักยาเซียนทางนั้น ข้าเห็นสายฟ้าและแสงผ่าลงไป แรงกดดันมากมาย ทั้งภูเขาปั่นป่วนไปหมด มีนักเรียนเร่งเข้าไปดูแล้วขอรับว่าเกิดอะไรขึ้น”
เจ้าสำนักได้ยินเช่นนี้ ก็ส่ายหน้ายิ้มๆ “ข้ารู้ว่าไม่พ้นต้องเกี่ยวข้องกับสำนักยาเซียน สำนักยาเซียนเคลื่อนไหวใหญ่โตเพียงนี้ได้ เดาว่าคงมีเพียงเฟิ่งจิ่วแล้ว ไม่รู้ว่านางกำลังทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงเรียกสายฟ้าลงมาเสียงดังเพียงนี้?”
แต่เพิ่งกล่าวจบ เขากลับตกใจ คิดขึ้นมาว่า “ช่วงนี้นางกำลังกลั่นยาเซียนไม่ใช่หรือ? หรือว่ายาอายุวัฒนะสำเร็จแล้ว? ยาอายุวัฒนะที่เรียกสายฟ้าได้ นั่นมัน…”
……………………