Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 820

№ 820 คิดถึงเขาเสียแล้ว

“ไม่ไป” เฟิ่งจิ่วปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด หนำซ้ำปฏิเสธอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

อาจเพราะไม่นึกว่าเฟิ่งจิ่วจะปฏิเสธง่ายๆ เช่นนี้ โม่เฉินจึงตกใจเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ เพียงมองนางอย่างเงียบงันเช่นนั้น

เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจ เชิดหน้าขึ้นแล้วถามอย่างจริงจัง “คุณชายโม่เฉิน ท่านพูดมาตรงๆ เถอะ! ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่? อย่าบอกเลยว่าท่านไม่มีเป้าหมาย ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนท่านมีท่าทีรังเกียจข้า ทำไมช่วงนี้ถึงโผล่มาที่นี่ตลอด? ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”

เขาคิดจะทำอะไร?

โม่เฉินตกใจเล็กน้อย จากนั้นค่อยเผยรอยยิ้มออกมา รอยยิ้มนี้ค่อยๆ คลี่ออกอย่างอ่อนโยน แต่สุดท้ายกลับทำให้เฟิ่งจิ่วรู้สึกหนาวๆ

“ข้าเพียงอยากเห็นเสียหน่อย ว่าดาราหงส์เป็นคนเช่นไรกันแน่”

“ดาราหงส์? หมายความว่าอย่างไร?” คำพูดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เธอไม่เข้าใจสักเท่าไร

“ดาราหงส์ปรากฏ วิญญาณต่างภพเยือนโลก จากเหนือฟ้าไกลโพ้น ทำลายกฎสวรรค์ทั้งแปด และกลายเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้า”

เขามองเฟิ่งจิ่วโดยไม่พลาดความเปลี่ยนแปลงที่ฉายผ่านในดวงตาของเธอ กล่าวเสียงเนิบๆ ว่า “นี่เป็นคำพูดเดิมของอาจารย์ข้า ผู้เฒ่าเทียนจี และการตามหาเจ้าคือเป้าหมายที่ข้ามาที่นี่”

เฟิ่งจิ่วอึ้งๆ ไป ก่อนเอ่ย “กลายเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้าอะไร ข้าไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้า อีกอย่าง นี่เกี่ยวอะไรกับที่ท่านตามหาข้า?” วิญญาณต่างภพมาเยือนโลก เขาพูดถูกแล้ว แต่ทำไมถึงรู้ว่าเป็นเธอ? หนำซ้ำแม้เป็นเช่นนี้ เธอกับเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน!

ได้ยินคำพูดนี้ แววตาเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย ดวงตาลึกล้ำราวมหาสมุทร มองเธอเงียบๆ ไม่พูดอะไร ผ่านไปเนิ่นนานก็หมุนตัวจากไปทันที

ขณะมองเขาหันกายจากไป เฟิ่งจิ่วพึมพำว่า “เข้าใจยากจริง”

เดิมทีก็เข้าใจยากแล้ว ถึงแม้เธอเป็นคนคนนั้นก็ไม่เกี่ยวกับเขากระมัง? อีกอย่างคนผู้นี้คล้ายจะชอบพูดอะไรแค่ครึ่งเดียว กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่รู้จะบอกอะไร

“นายท่าน ข้าว่าเขาคิดไม่ซื่อกับท่าน” เหล่าไป๋เอ่ยขึ้นข้างๆ

เฟิ่งจิ่วกลอกตา “หากคิดไม่ซื่อคงไม่ช่วยข้า จะว่าไป แม้คนคนนี้จะแปลกไปหน่อย แต่อย่างไรก็ช่วยข้าไว้ถึงสองครั้ง หนำซ้ำพลังของเขาเหมือนจะสูงมาก?” เธอลูบๆ คาง ถามว่า “พวกเจ้าว่ากำลังวรยุทธ์ของเขาสูงกว่าท่านอาหรือไม่?”

“ไม่ขอรับ”

สองสัตว์อสูรกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน แทบจะตอบออกมาโดยไม่ต้องคิด

เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว “เพราะอะไร?”

“บารมีบนร่างเจ้าตำหนักยมราชรุนแรงเกินไป มองแวบเดียวเราก็ไม่กล้าเอ่ยแล้ว คนผู้นี้แม้ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา แต่อำนาจบารมีและแรงกดดันไม่หนักหนาเท่าท่านยมราช แน่นอนว่าย่อมไม่เก่งกาจไปกว่ากัน”

“หึ!”

เธอได้ยินสองสัตว์อสูรเรียกเซวียนหยวนโม่เจ๋อว่ายมราช ก็หลุดหัวเราะอย่างอดไม่ไหว ยมราช? คล้ายมากจริงๆ นั่นแหละ

“เฮ้อ! พวกเรามาที่นี่หนึ่งปี พอนับดูก็ไม่ได้เจอเขามาหนึ่งปีแล้ว ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง?” เธอพึมพำเบาๆ สายตามองไปยังท้องฟ้าไกล ไม่ต้องพูดเลย จริงๆ ก็คิดถึงเขานิดหน่อยแล้ว!

สิบปี เวลาสิบปี เหอะๆๆ เธอคงไม่รอถึงสิบปีค่อยไปหาเขาหรอก รอจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยหมดแล้ว เธอจะไปดูที่แปดจักรวรรดิใหญ่เสียหน่อย ทว่าเทียบกับเรื่องนั้นแล้ว ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการเสียก่อน

เธอวานให้คนตลาดมืดสอบถามข้อมูลของแม่ ผ่านมานานเพียงนี้คงมีวี่แววบ้างแล้วกระมัง?

อืม ไปถามที่ตลาดมืดก่อนสักหน่อย ค่อยอีกทีดูว่าต้องกลับบ้านหรือไม่

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version