№ 891 สัตว์ร้ายเข้าจู่โจม
เหล่าผู้ฝึกวิชามารเพียงเห็นว่าขณะที่ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณหมุนตัวจะหนี ในค่ำคืนร่างสีแดงด้านหลังตามติดไปไม่ปล่อยราวกับผีร้ายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก คนวิ่งหนีด้านหน้า เขาไล่ตามไปด้านหลัง เสียงสองคนต่อสู้กันดังขึ้นบ่อยครั้ง ระหว่างที่สองคนสู้กันป่าไม้รอบๆ ก็ถูกสะเทือนแตกฟันขาด เศษหินลอยฟุ้ง กระแสลมเป็นดั่งใบมีด พวกเขาตกใจเสียจนไม่กล้าเข้าไป
เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานจริงๆ หรือ? ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานจะเป็นคู่ต่อสู้ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณได้อย่างไร? ซ้ำยังจัดการเสียจนทำให้ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขายหน้าไม่สิ้นสุด?
ยามนี้พวกเขาคิดจะถอยไปในทันใด อยากจะหนีไปจากที่นี่ คนฉลาดยังมองออกว่าแม้แต่ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาหรอก
“พวกเราไป!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกน เห็นสถานการณ์ไม่ดีนัก พวกเขาจึงคิดจะหนีไป ทว่าเมื่อกระตุ้นกลิ่นอายพลังวิญญาณเตรียมจะร่อนกระบี่ออกไป กลับพบว่ากลิ่นอายยุ่งเหยิงไม่อาจรวบรวม
“แย่แล้ว! ในอากาศมียาพิษ!”
ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งในนั้นชำนาญเรื่องพิษ พูดได้ว่าพบปัญหาตั้งแต่แรก พบว่าพิษพวกนั้นไร้สีไร้กลิ่น และออกฤทธิ์ไม่เร็ว กลับกัดกร่อนร่างกายพวกเขาจากภายในก่อน ทำให้พวกเขาไม่อาจรวบรวมพลังวิญญาณหนีไปหรือต่อสู้ได้
“นะ นี่คล้ายกับยาคร่าชีวิตล่าวิญญาณ…”
สีหน้าผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังเปลี่ยนไปยกใหญ่ สีเลือดหายไปหมด เขาที่คุ้นเคยกับยาพิษวินิจฉัยจากอาการในร่างกายได้ มันคล้ายคลึงกับยาของเขาบางส่วน กลับถูกปรับเปลี่ยนเพิ่ม แต่คนที่สัมผัสยาพิษนี้จะไม่ในเวลาสั้นๆ แต่พอเรียกกระแสลมในร่างจะไม่มีทางรวบรวมได้ ยิ่งฝืนรวบรวมจะเร่งยาพิษให้ไหลเวียนในเลือด…
ฝีเท้าเขาถอยหลังไปทันควัน มองหนุ่มน้อยที่ต่อสู้กับผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณด้วยความประหลาดใจ
เป็นเขา! ในขณะที่พวกเขาไม่รู้ตัวและไม่ระวังเขาอาศัยการต่อสู้โปรยยาพิษในอากาศ! เขาหยิบยาแก้พิษออกมาอย่าสั่นเทาและคิดจะกินลงไป ไม่ว่าเป็นพิษอะไรต้องกินยาแก้พิษก่อนค่อยว่ากัน
ทว่าเพียงเห็นเขาหยิบยาแก้พิษออกมาคิดจะกิน ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังข้างๆ ดวงตาต่างแดงจัด เข้าไปยื้อแย่ง “เอายาแก้พิษมาให้ข้า!”
“ให้ข้า!”
“ให้ข้า!”
แต่ละคนไม่กล้าใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณ ถึงใช้กำลังแก่งแย่งกันตรงนั้น ยื้อยุดฉุดกระชากราวกับหญิงปากร้าย ไม่มีภาพพจน์ผู้ฝึกตนสักนิด แต่คนพวกนี้เดิมทีเป็นเพียงผู้ฝึกวิชามาร ไม่สนใจสายตาคนอื่น ผู้ฝึกวิชามารส่วนมาล้วนเห็นแก่ตัว สนใจแค่ตนเอง สนใจว่าคนอื่นจะเป็นหรือตายเสียที่ไหน?
เวลานี้เองเสียงจังหวะดนตรีแปลกๆ ก็ลอยมาจากในความมืด เสียงนั้นเล็กละเอียดบางครั้งเร็วบางครั้งช้า เข้ามาใกล้จากไกลๆ เมื่อพวกเขากำลังคิดว่าใครไม่รู้ที่ตายมาเป่าเพลงที่นี่ตอนเที่ยงคืน ก็ได้ยินเสียงคำรามจ้าละหวั่นลอยมา
“กรร!”
“กรร!”
“กรร…”
เสียงสัตว์ร้ายคำรามแต่ละเสียงดังชัดเจนแปลกๆ ในยามค่ำคืน เสียงฝีเท้าที่ทั้งหนักและวุ่นวายโผพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า สะเทือนเสียจนแผ่นดินล้วนสั่นไหว ยามนี้คนพวกนั้นเพียงเห็ยสัตว์ร้ายพวกนั้นที่ปกติเห็นยังไม่ขมวดคิ้ว สีหน้าแต่ละคนขาวซีดอย่างตื่นตระหนก
“สัตว์ร้าย! บ้าจริง! ทำไมถึงมีสัตว์ร้ายมากมายเพียงนี้!”
เห็นสัตว์ร้ายกว่าร้อยตัวพุ่งออกมาจากด้านใน บางตัวล้อมพวกเขาไว้อย่าวรวดเร็ว บางตัวกระโจนเข้ามากัดพวกเขา ทันใดนั้นแต่ละคนก็อุทานกันไม่ขาดสาย พยายามจะหนีไปกลับพบว่าสัตว์ร้ายและสัตว์วิญญาณพวกนั้นปิดตายเส้นทางไว้หมดแล้ว
ไป๋เสี่ยวนั่งบนหลังเสือร้ายตัวหนึ่ง ตรงไหล่มีเลือดไหล อสูรกลืนเมฆาตามมาข้างกาย ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน…
…………………